แซ็ค จอห์นสัน โปรมือเก๋าชาวอเมริกัน กลายเป็นผู้ชนะคว้าแชมป์เมเจอร์ ดิ โอเพน ที่สกอตแลนด์ หลังเอาชนะคู่แข่งอีก 2 รายในการดวลเพลย์ออฟ วันที่ 20 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ จอร์แดน สปีธ ชวดลุ้น "แกรนด์ สแลม ออฟ กอล์ฟ" หลังเก็บสกอร์ไล่ตามไม่ทัน
การแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ที่ 3 ของปี ณ สนาม เซนต์ แอนดรูว์ส ระยะ 7,297 หลา พาร์ 72 เดินทางมาถึงวันสุดท้าย หลังยืดเยื้อกันมาถึง 5 วัน โดยปรากฏว่าครบ 18 หลุม มีนักกอล์ฟ 3 รายทำสกอร์ 15 อันเดอร์พาร์ เท่ากันคือ แซ็ค จอห์นสัน (สหรัฐอเมริกา), หลุยส์ อุสธุยเซน (แอฟริกาใต้) และ มาร์ค ลีชแมน (ออสเตรเลีย)
ทำให้ทั้ง 3 คน ต้องเล่นเกมเพลย์ออฟแบบ 4 หลุม ตัดสินหาผู้ชนะที่สกอร์ต่ำสุด และปรากฏว่าช่วงหลุมสุดท้าย จอห์นสัน ใช้ความนิ่งพัตต์เก็บพาร์ได้ ทว่า อุสธุยเซน ทำไม่สำเร็จ ทำให้โปรวัย 39 ปี คว้าเมเจอร์ใบที่ 2 ในชีวิตต่อจาก เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2007 พร้อมเงินรางวัล 1.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 57 ล้านบาท) ด้วยสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์
ขณะที่รองแชมป์อย่าง อุสธุยเซน สกอร์ทำได้ อีเวน พาร์ ส่วน ลีชแมน จบรายการด้วยสกอร์เกิน 2 โอเวอร์พาร์ โดยผู้ชนะอย่าง จอห์นสัน กล่าวหลังจบว่า "ผมเดินทางมาไกลเหลือเกินนับตั้งแต่ปี 2007 เสียงเชียร์จากคนดูทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้รับการอวยพร และรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์"
ด้าน จอร์แดน สปีธ ชายหนุ่มซึ่งได้รับการจับตาถึงการคว้าเมเจอร์ 3 รายการติดต่อกัน ไปไม่ถึงดวงดาวหลังพัตต์ลูกออกโบกีในหลุมที่ 17 ทำให้ไม่สามารถไล่ตาม 3 ผู้นำเข้าไปเล่นเพลย์ออฟได้ จบรายการที่อันดับ 4 ร่วมกับ เจสัน เดย์ จาก ออสเตรเลีย ด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์
ส่วน "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี หนึ่งเดียวของไทย รอบสุดท้ายทำ 2 เบอร์ดี แต่เสีย 3 โบกี จบทัวร์นาเมนต์ที่สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ อันดับ 65 ร่วม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *