xs
xsm
sm
md
lg

ศึกสายเลือดอเมริกัน ขวาง “สปีธ” ซิวดิโอเพน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทุกสายตาจับจ้อง สปีธ
เอเยนซี - ศึกกอล์ฟเมเจอร์ที่ 3 ของปีรายการ “ดิ โอเพน” มีเงินรางวัลรวมล่อใจถึง 6.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 340 ล้านบาท) เตรียมชิงชัยถ้วย “คลาเร็ต จัก” กันระหว่างวันที่ 16-19 กรกฎาคมนี้ ณ สนาม เซนต์ แอนดรูว์ส ระยะ 7,305 หลา พาร์ 72 ซึ่งแน่นอนว่าสปอตไลต์ทุกดวงล้วนฉายมายังชายที่ชื่อ จอร์แดน สปีธ หนุ่มวัย 21 ปีมือ 2 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา

สปีธ ปลดล็อคคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตเมื่อต้นปีที่ศึก “เดอะ มาสเตอร์ส” จากนั้นก็ไม่มีใครคาดคิดว่าถัดมาจะซิว “ยูเอส โอเพน” ถ้าจำกันได้หนุ่มน้อยรายนี้โชว์ความนิ่งเล่นหลุม 18 ทั้งที่สถานการณ์ตกเป็นรอง จนกลายเป็น ดัสติน จอห์นสัน รุ่นพี่ชาวอเมริกันที่กดดันตัวเองจนทำ 3 พัตต์วืดซิวโทรฟีไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นตอนนี้ทุกคนต่างเทใจให้โปรดาวรุ่งจากเท็กซัสเข้าป้ายคว้าถ้วย “คลาเร็ต จัก” ที่สกอตแลนด์ ซึ่งก็จะเป็นเมเจอร์ที่ 3 ติดต่อกันทันที

หากทำสำเร็จ สปีธ จะกลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 2 ที่สามารถคว้า 3 แชมป์เมเจอร์แรกต่อจาก เบน โฮแกน ตำนานชาวอเมริกันที่ทำไว้เมื่อปี 1953 นอกจากนี้ก็จะเปิดประตูสู่ภารกิจทำ “แกรนด์ สแลม ออฟ กอล์ฟ” ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีใครเคยทำได้มาก่อนทั้ง 2 รุ่นพี่ชาติเดียวกันคือ วูดส์ กับ แจ๊ค นิคคลอส และ แกรี เพลเยอร์ จากแอฟริกาใต้

สปีธ เพิ่งคว้าแชมป์ที่ 4 ของปีนี้คือ พีจีเอ ทัวร์ รายการ “จอห์น เดียร์ คลาสสิก” จากนั้นก็ตรงดิ่งถึง เซนต์ แอนดรูว์ส ทันทีเมื่อวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อลงซ้อมสำรวจให้ครบ 18 หลุม เพราะสังเวียนแห่งนี้ถือว่าหินระดับต้นๆ ของวงการกอล์ฟจนถูกขนานนามให้เป็น “โฮม ออฟ กอล์ฟ” เรียกได้ว่าใครเรียนรู้สนามได้มากที่สุดก็ได้เปรียบ

ก่อนหน้านี้ สปีธ ถูกวิจารณ์เล็กน้อยหลังจากเพลย์ออฟชนะ ทิม กิลลิส ชาวอเมริกัน ที่ อิลลินอยส์ ว่าจริงๆ แล้วควรเลือกเล่นทัวร์นาเมนต์ที่ สกอตแลนด์ จะได้คุ้นเคยกับสภาพอากาศ แม้ว่ามือ 2 ของโลกจะมีเกมสั้นและทักษะการจัดการวางแผนได้ยอดเยี่ยม ทว่าผู้เล่นหลายคนรวมถึงโค้ชเชื่อว่าอาจจะเสียท่าให้กับสภาพลมที่ เซนต์ แอนดรูว์ส ก็เป็นได้

สปีธ กล่าวถึงสิ่งเดียวที่กังวลก็คือ “ตอนนี้ถือได้ว่าผมมีทุกอย่างสมบูรณ์แบบที่จะก้าวไปคว้าแชมป์ แต่ส่วนที่ยากซึ่งเห็นได้ชัดคือการปรับตัวกับโซนเวลาที่มีผลกระทบต่อแสงของการเล่นในแต่ละวันนับตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงสาย ดังนั้นอาจจะต้องมีการปรับแผนบุกมากขึ้น ต้องปรึกษากับโค้ชว่าจังหวะไหนทำได้บ้างหรือตอนไหนไม่ควรที่จะทำ”

แถมงานนี้ สปีธ จะไม่ต้องพะวง เนื่องจาก รอรีย์ แม็คอิลรอย มือ 1 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ ถอนตัวไปก่อน เพราะว่าเอ็นข้อเท้าซ้ายฉีกที่เกิดจากการเล่นฟุตบอล ทำให้หากได้แชมป์ก็จะแซงขึ้นรั้งบัลลังก์ทันที กระนั้นก็ตามหากทำไม่ได้ที่ “ดิ โอเพน” ก็มีโอกาสช่วงที่เหลือของปี 2015 เนื่องจากสภาพของอีกฝ่ายนั้นไม่สมบูรณ์เสียแล้ว

ดังนั้นดูเหมือนว่าคู่แข่งของ สปีธ นั้นจะเหลือแต่โปรชาวอเมริกันเพื่อนร่วมชาติทั้งสิ้น เพราะถัดลงไปมือ 3-6 เป็น บับบา วัตสัน แชมป์ “เดอะ มาสเตอร์ส” 2 สมัย, ดัสติน จอห์นสัน แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ 9 รายการ เคยได้ที่ 2 “ดิ โอเพน” เมื่อปี 2011, ริคกี ฟาวเลอร์ ที่เพิ่งซิวแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ แรกคือ “อเบอร์ดีน แอสเซต แมเนจเมนต์ สกอตติช โอเพน” และ จิม ฟิวริค แชมป์ “ยูเอส โอเพน” ปี 2003 ที่ทำผลงานในเมเจอร์ที่ 3 ของปีได้คงเส้นคงวาที่สุดรายหนึ่ง ทั้งหมดล้วนเจนจัดเวที โอลด์ คอร์ส ทั้งสิ้น

ด้าน ไทเกอร์ วูดส์ อดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ดูจะมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นในการล่าแชมป์เมเจอร์ลำดับที่ 15 ของตนเอง ส่วน “ดิ โอเพน” เคยได้มาครอง 3 สมัยปี 2000, 2005 และ 2006 โดย 2 ครั้งแรกเกิดขึ้นที่ เซนต์ แอนดรูว์ส ด้วย ก็ต้องมาลุ้นว่าโปรที่ปัจจุบันรั้งมือ 241 จะทำได้จริงหรือไม่กับการลงเล่นสนามแบบ โอลด์ คอร์ส เพราะบอกว่ารู้สึกหลงใหลที่นี่ตั้งแต่ลงเล่นครั้งแรกปี 1995

ยังมีคู่แข่งอีกคนที่ สปีธ ต้องระวังไล่ตั้งแต่ ฟิล มิคเคลสัน รุ่นพี่ชาวอเมริกันอีกหนึ่งรายที่กำลังมองหาแชมป์ “ดิ โอเพน” สมัยที่ 2 ต่อจากปี 2013 ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นเมเจอร์ที่ 6 อีกด้วย “บิ๊กฟิล” มีเกมสั้นที่แน่นอนเหมาะกับสนามแห่งนี้เสียด้วย ส่วน เซนต์ แอนดรูว์ส นั้นจัดแข่งรายการนี้ครั้งสุดท้ายคือเมื่อปี 2010 แชมป์ได้แก่ หลุยส์ อุสธุยเซน จากแอฟริกาใต้ที่ทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 7 สโตรก, จัสติน โรส มือ 7 ของโลกที่ต้องการเป็นก้านเหล็กอังกฤษที่ได้แชมป์นี้นับตั้งแต่ นิค ฟัลโด ฝากไว้เมื่อปี 1992

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


วูดส์ ให้สัมภาษณ์มั่นใจเต็มเปี่ยม
มิคเคลสัน บอกต้องใช้อาวุธลูกสั้น
สนามสุดหิน เซนต์ แอนดรูว์ส
กำลังโหลดความคิดเห็น