เอเยนซี - จอร์แดน สปีธ ก้านเหล็กหนุ่มชาวอเมริกัน ผงาดคว้าแชมป์ เมเจอร์ “ยูเอส โอเพน 2015” เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าเล็งเป้าทำ “แกรนด์ สแลม ออฟ กอล์ฟ” ที่บรรดาตำนานของวงการหลายต่อหลายคนยังไม่สามารถไต่ไปถึงฝั่งฝัน
การขับเคี่ยวที่ แชมเบอร์เบย์ส เบย์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,585 หลา พาร์ 72 วอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา สนุกเข้มข้นจนถึงหลุม 18 พาร์ 5 เมื่อ ดัสติน จอห์นสัน อีกหนึ่งความหวังของเจ้าถิ่นดีกรีแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ 9 รายการ แต่ไม่เคยได้เมเจอร์มาก่อน มีโอกาสดีที่สุดทำ 2 ช็อตขึ้นกรีนสวยงามมีโอกาสที่จะเก็บอีเกิลคว้าแชมป์ ทว่ากลับทำ 3 พัตต์เก็บพาร์ ปล่อยให้ สปีธ ที่ยิงเบอร์ดีคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์เฉือนไปเพียงแค่สโตรกเดียว ส่วนอีกคนที่ได้ที่ 2 ร่วมได้แก่ หลุยส์ อุสธุยเซน จากแอฟริกาใต้
สปีธ คว้าแชมป์ “ยูเอส โอเพน” ไปครองพร้อมเงินรางวัล 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 61.2 ล้านบาท) ถือเป็นแชมป์ที่ 3 ของปีนี้และแชมป์เมเจอร์ที่ 2 ต่อจาก “เดอะ มาสเตอร์ส” เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ภายหลัง สปีธ โปรวัย 21 ปีกล่าวว่า “หลังได้เมเจอร์แรก ผมไม่เคยคิดเลยว่าเมเจอร์ที่ 2 จะตามมาเร็วแบบนี้ ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวสำหรับนักกอล์ฟตัวเล็กๆ คนหนึ่ง”
สปีธ ได้สร้างสถิติต่างๆ ขึ้นมามากมาย อาทิ ผู้เล่นอายุน้อยสุดที่เป็นแชมป์ “ยูเอส โอเพน” นับตั้งแต่ บ็อบบี โจนส์ ทำไว้เมื่อปี 1923, ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่เป็นแชมป์ 2 เมเจอร์นับตั้งแต่ เกเน ซาราเซน ทำไว้เมื่อปี 1922, ผู้เล่นคนแรกที่เป็นแชมป์ “เดอะ มาสเตอร์ส” กับ “ยูเอส โอเพน” ภายในปีเดียวต่อจากที่ ไทเกอร์ วูดส์ ทำไว้เมื่อปี 2002 และเป็นคนที่ 6 อีก 4 คนได้แก่ แจ๊ค นิคคลาส (1972) อาร์โนลด์ พาลเมอร์ (1960) เบน โฮแกน (1951 กับ 1953) และ เคร็ก วูด (1941)
ส่วนผู้ที่อกหักอย่าง จอห์นสัน ดีกรีมือ 7 ของโลก ยอมรับว่า “แน่นอนผมรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะตนเองเล่นได้ดีมาก แต่ก็ไม่ควรที่จะทำพัตต์เยอะขนาดนั้น วันนี้ได้ทำทุกสิ่งที่สามารถหมดแล้ว สุดท้ายแล้วก็ยังไม่อาจไปถึงยังจุดที่ต้องการ”
แน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนมุ่งเป้ามาที่ สปีธ นักกอล์ฟมือ 2 ของโลก แม้ว่าจะยังไม่สามารถแซง รอรีย์ แม็คอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ ขึ้นไปนั่งบัลลังก์ แต่ก็มีความหวังสดใสในอนาคต เพราะมือ 1 นั้นรายการนี้สกอร์อีเวนพาร์จบที่อันดับ 9 ร่วม ภาพรวมแล้วปีนี้ก็ยังผลงานไม่ดีนัก
แต่สิ่งที่ทุกคนสนใจก็คือการทำ “แกรนด์ สแลม ออฟ กอล์ฟ” หมายถึงการซิวแชมป์ เมเจอร์ ติดต่อกัน 4 รายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในปีเดียวถือว่ายากมาก ไทเกอร์ วูดส์ ชาวอเมริกัน อดีตมือ 1 ของโลกทำไว้ 3 รายการปี 2000 ขาดแค่ “เดอะ มาสเตอร์ส” เท่านั้น ส่วนตำนานอย่าง โฮแกน, พาลเมอร์, นิคคลอส และ แกรี เพลเยอร์ ล้วนไม่มีใครทำได้
กระนั้นก็ตาม สปีธ ขอฝันครั้งใหญ่จากนี้จะขอคว้าแชมป์เมเจอร์ที่ 3 ของปีคือ “บริติช โอเพน” จะแข่งระหว่างวันที่ 16-19 กรกฎาคมนี้ ณ สนาม เซนต์ แอนดรูว์ส สกอตแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นสังเวียนกอล์ฟที่หินมากที่สุดในโลกลำดับต้นๆ
สปีธ เผยว่า “ผมคิดว่าสิ่งนี้อยู่ภายใต้ขอบเขตที่สามารถเป็นไปได้ แต่ตอนนี้ขอมุ่งเป้าไปที่ถ้วย คลาเร็ต จัก ศึก บริติช โอเพน ก่อน เรียกได้ว่าค่อยเป็นค่อยไป เหนืออื่นใดการทำ แกรนด์ สแลม คือเรื่องที่ไม่เคยวาดภาพเอาไว้เลย ยิ่งมองถึงผลงานของคนแบบ ไทเกอร์ วูด ทำเอาไว้ ทว่าเขาก็ไม่เคยทำได้ผ่านในปีเดียวมาก่อน”
“ตนคิดว่าการจะทำแบบนี้ได้จะต้องมีเคล็ดลับอะไรบางอย่าง เนื่องจากอีกไม่กี่สัปดาห์ศึก เมเจอร์ ต่อไปก็จะเริ่มขึ้น ทว่าตอนนี้สไตล์การเล่นของผมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถคว้าแชมป์ที่สนาม เซนต์ แอนดรูว์ส โดยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แต่ก็จะพยายามไม่ไปกังวลล่วงหน้า” นักกอล์ฟความหวังใหม่ของคนอเมริกันเผยในท้ายที่สุด
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *