คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ตามปกติ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะจัดให้มีการลงคะแนนเลือกชาติเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกทีละหน คือล่วงหน้าราว 7 ปี แต่ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2010 ที่ผ่านมานั้น โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ ผู้นำองค์กร ชาวสวิส ดันทะลึ่งให้มีเลือกเจ้าภาพสำหรับฟุตบอลโลก 2 หนในวันนั้นเลย คือ สำหรับปี 2018 และ 2022 และทันทีที่ อเมริกา ไม่ได้รับเลือกสำหรับปี 2022 ท่ามกลางข้อสงสัยต่างๆนานา จึงเกิดอาการฉุนขาด กระบวนการขุดคุ้ยเรื่องทุจริตในองค์กรมาเฟียฟุตบอลของโลกก็เริ่มขึ้น และเข้มข้นยิ่งขึ้นเรื่อยๆจนนำมาสู่การร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สวิสเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ฟีฟ่า และการตกเก้าอี้ของ เซ็พ
ก็ถ้าไม่นำเอาสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ ปี 2022 มาโหวทเลือกกันในวันนั้น กว่าที่ อเมริกา จะเกิดอารมณ์เสียก็ปาเข้าไปปี 2015 หรือเร็วที่สุดก็ปลายปี 2014 กว่าที่กระบวนการสืบสวนสอบสวนจะดำเนินไปได้ลึกและมีหลักฐานเพียงพอ เซ็พ ก็สวาปามตำแหน่งสมัยที่ 5 ไปเกือบครบเทอมแล้ว นี่แหละคำตอบที่ว่าทำไม เซ็พ จึงออกมายอมรับว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเขาเองที่จัดให้โหวท 2 เจ้าภาพในคราเดียวกัน
ในการโหวทเลือกเจ้าภาพ 2018 นั้น แม้ อังกฤษ จะมีความคาดหวังสูงมาก แต่เมื่อหลุดวงโคจรไปตั้งแต่รอบแรก โดยได้รับเพียง 2 เสียงจากกรรมการบริหารที่ลงคะแนน 22 คน ทำให้ สเปน ที่จับคู่กับ ปอรตูเกา และ เนเธอร์แลนด์ส ที่จับคู่กับ เบลเจี่ยม ต้องไปต่อสู้กับ รัสเซีย ในรอบต่อไป ซึ่งในรอบนี้ รัสเซีย ได้ 13 คะแนน ถือว่าเกินครึ่ง จึงได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพทันที ไม่ต้องตัดบ๊วยออกแล้วไปดวลกันอีกรอบ รวมกับเหตุผลทางด้านความสัมพันธ์ที่ อังกฤษ มีต่อ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดี รัสเซีย อย่างดีตลอดมานั้น ความโกรธแค้นที่ อังกฤษ พลาดสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจึงไม่รุนแรงมากเมื่อเปรียบเทียบกับ สหรัฐอเมริกา
ในกรณีของ สหรัฐฯ นั้น แพ้การโหวทเลือกเจ้าภาพปี 2022 ต่อ กาตาร์ ด้วยคะแนน 8 ต่อ 14 ในการลงคะแนนรอบที่ 4 หลังจากที่ อ๊อสตราเลีย ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ค่อยๆหลุดไปทีละรอบตามลำดับ ทั้งๆที่ กาตาร์ เป็นประเทศเล็กๆในทวีปเอเชียที่ไม่เคยแม้แต่จะได้เข้าร่วมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย กาตาร์ ชนะไปได้อย่างไร เป็นคำถามคาใจชาวโลกและชาวอเมิรกาเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อ สหรัฐฯ ฝันสลาย ความเสียหายทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันที โดยเฉพาะสินค้ายักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกาอย่าง โค้ก วีซ่า แม็คโดนัลด์ อเมซอน ฯลฯ อันนี้ได้ส่งแรงกดดันถาโถมเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง ทำให้ พญาอินทรี ต้องระดมสรรพกำลังรุกคืบเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของโลก เอาแค่ธนาคารชาติสวิสเองยังต้องยอมจำนนยกเลิก กฎหมายความลับธนาคาร โดยกำหนดไว้ในปี 2018 กฎหมายดังกล่าวเรียกว่า Bank secrecy law มีมาตั้งแต่ปี 1934 ซึ่งคุ้มครองให้ธนาคารสวิสไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลลูกค้าตามคำร้องขอของรัฐบาลต่างประเทศ ทำให้ สวิส เป็นแหล่งฝากเงินและทรัพย์สินของพวกฟอกเงินทั่วโลก นอกจากนั้น ในเวลานี้ รัฐบาลสวิส ก็ตัดสินใจไม่ปกป้อง ฟีฟ่า อีกต่อไป ซึ่งกว่าที่ เซ็พ จะเข้าใจตรงนี้มันก็สายไปแล้ว
แม้ เซ็พ จะยอมประกาศลาออกจากตำแหน่ง ประธานฟีฟ่า ที่ตนเพิ่งชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 5 ด้วยตนเอง แต่ผมถือว่า หมอนี่โดนปลดต่างหาก โดน อเมริกา สอยร่วงอย่างไม่เป็นท่า ทำให้ภารกิจของ ฟีฟ่า หลังจากนี้จะต้องหาผู้นำคนใหม่ ซึ่งผู้ที่น่าจะมีโอกาสครองเก้าอี้คนใหม่มากกว่าใคร คงไม่พ้น มีเชล ปลาตินี ประธานสหสมาคมฟุตบอลแห่งทวีปยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟ่า
นอกจากนั้น ฟีฟ่า ยังคงต้องพิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นถึงความสุจริต โปร่งใส ก็ในเมื่อพิสูจน์ว่ามีการทุจริตรับสินบนในการลงคะแนนเลือกชาติเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มันก็ต้องจัดให้มีการโหวทเลือกกันใหม่ สำหรับ รัสเซีย 2018 คงไม่ทันและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว แต่ กาตาร์ 2022 คงจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ที่สำคัญ หาก อเมริกา คว้าสิทธิ์อันนี้ไป ชาวโลกจะมองว่า ไอ้ที่ดำเนินการมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะแย่งเอาสิทธิ์ในปี 2022 มาอย่างดื้อๆ ผมว่าน่าเกลียดตายเลย ดังนั้น เมื่อเลือกกันใหม่ ชาติที่กลับกลายเป็นตัวเต็งก็คือ อ๊อสตราเลีย ครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ตามปกติ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะจัดให้มีการลงคะแนนเลือกชาติเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกทีละหน คือล่วงหน้าราว 7 ปี แต่ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2010 ที่ผ่านมานั้น โชเซ้ฟ บลั๊ทเท่อร์ ผู้นำองค์กร ชาวสวิส ดันทะลึ่งให้มีเลือกเจ้าภาพสำหรับฟุตบอลโลก 2 หนในวันนั้นเลย คือ สำหรับปี 2018 และ 2022 และทันทีที่ อเมริกา ไม่ได้รับเลือกสำหรับปี 2022 ท่ามกลางข้อสงสัยต่างๆนานา จึงเกิดอาการฉุนขาด กระบวนการขุดคุ้ยเรื่องทุจริตในองค์กรมาเฟียฟุตบอลของโลกก็เริ่มขึ้น และเข้มข้นยิ่งขึ้นเรื่อยๆจนนำมาสู่การร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สวิสเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ฟีฟ่า และการตกเก้าอี้ของ เซ็พ
ก็ถ้าไม่นำเอาสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ ปี 2022 มาโหวทเลือกกันในวันนั้น กว่าที่ อเมริกา จะเกิดอารมณ์เสียก็ปาเข้าไปปี 2015 หรือเร็วที่สุดก็ปลายปี 2014 กว่าที่กระบวนการสืบสวนสอบสวนจะดำเนินไปได้ลึกและมีหลักฐานเพียงพอ เซ็พ ก็สวาปามตำแหน่งสมัยที่ 5 ไปเกือบครบเทอมแล้ว นี่แหละคำตอบที่ว่าทำไม เซ็พ จึงออกมายอมรับว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเขาเองที่จัดให้โหวท 2 เจ้าภาพในคราเดียวกัน
ในการโหวทเลือกเจ้าภาพ 2018 นั้น แม้ อังกฤษ จะมีความคาดหวังสูงมาก แต่เมื่อหลุดวงโคจรไปตั้งแต่รอบแรก โดยได้รับเพียง 2 เสียงจากกรรมการบริหารที่ลงคะแนน 22 คน ทำให้ สเปน ที่จับคู่กับ ปอรตูเกา และ เนเธอร์แลนด์ส ที่จับคู่กับ เบลเจี่ยม ต้องไปต่อสู้กับ รัสเซีย ในรอบต่อไป ซึ่งในรอบนี้ รัสเซีย ได้ 13 คะแนน ถือว่าเกินครึ่ง จึงได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพทันที ไม่ต้องตัดบ๊วยออกแล้วไปดวลกันอีกรอบ รวมกับเหตุผลทางด้านความสัมพันธ์ที่ อังกฤษ มีต่อ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดี รัสเซีย อย่างดีตลอดมานั้น ความโกรธแค้นที่ อังกฤษ พลาดสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจึงไม่รุนแรงมากเมื่อเปรียบเทียบกับ สหรัฐอเมริกา
ในกรณีของ สหรัฐฯ นั้น แพ้การโหวทเลือกเจ้าภาพปี 2022 ต่อ กาตาร์ ด้วยคะแนน 8 ต่อ 14 ในการลงคะแนนรอบที่ 4 หลังจากที่ อ๊อสตราเลีย ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ค่อยๆหลุดไปทีละรอบตามลำดับ ทั้งๆที่ กาตาร์ เป็นประเทศเล็กๆในทวีปเอเชียที่ไม่เคยแม้แต่จะได้เข้าร่วมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย กาตาร์ ชนะไปได้อย่างไร เป็นคำถามคาใจชาวโลกและชาวอเมิรกาเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อ สหรัฐฯ ฝันสลาย ความเสียหายทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันที โดยเฉพาะสินค้ายักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกาอย่าง โค้ก วีซ่า แม็คโดนัลด์ อเมซอน ฯลฯ อันนี้ได้ส่งแรงกดดันถาโถมเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง ทำให้ พญาอินทรี ต้องระดมสรรพกำลังรุกคืบเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของโลก เอาแค่ธนาคารชาติสวิสเองยังต้องยอมจำนนยกเลิก กฎหมายความลับธนาคาร โดยกำหนดไว้ในปี 2018 กฎหมายดังกล่าวเรียกว่า Bank secrecy law มีมาตั้งแต่ปี 1934 ซึ่งคุ้มครองให้ธนาคารสวิสไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลลูกค้าตามคำร้องขอของรัฐบาลต่างประเทศ ทำให้ สวิส เป็นแหล่งฝากเงินและทรัพย์สินของพวกฟอกเงินทั่วโลก นอกจากนั้น ในเวลานี้ รัฐบาลสวิส ก็ตัดสินใจไม่ปกป้อง ฟีฟ่า อีกต่อไป ซึ่งกว่าที่ เซ็พ จะเข้าใจตรงนี้มันก็สายไปแล้ว
แม้ เซ็พ จะยอมประกาศลาออกจากตำแหน่ง ประธานฟีฟ่า ที่ตนเพิ่งชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 5 ด้วยตนเอง แต่ผมถือว่า หมอนี่โดนปลดต่างหาก โดน อเมริกา สอยร่วงอย่างไม่เป็นท่า ทำให้ภารกิจของ ฟีฟ่า หลังจากนี้จะต้องหาผู้นำคนใหม่ ซึ่งผู้ที่น่าจะมีโอกาสครองเก้าอี้คนใหม่มากกว่าใคร คงไม่พ้น มีเชล ปลาตินี ประธานสหสมาคมฟุตบอลแห่งทวีปยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟ่า
นอกจากนั้น ฟีฟ่า ยังคงต้องพิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นถึงความสุจริต โปร่งใส ก็ในเมื่อพิสูจน์ว่ามีการทุจริตรับสินบนในการลงคะแนนเลือกชาติเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มันก็ต้องจัดให้มีการโหวทเลือกกันใหม่ สำหรับ รัสเซีย 2018 คงไม่ทันและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว แต่ กาตาร์ 2022 คงจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ที่สำคัญ หาก อเมริกา คว้าสิทธิ์อันนี้ไป ชาวโลกจะมองว่า ไอ้ที่ดำเนินการมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะแย่งเอาสิทธิ์ในปี 2022 มาอย่างดื้อๆ ผมว่าน่าเกลียดตายเลย ดังนั้น เมื่อเลือกกันใหม่ ชาติที่กลับกลายเป็นตัวเต็งก็คือ อ๊อสตราเลีย ครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
