xs
xsm
sm
md
lg

“ลูกหม้อ” สู่ “บิ๊กหัวหมาก” เดิมพันผลงาน 6 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สกล ผู้ว่าฯ กกท. คนใหม่
ASTV ผู้จัดการรายวัน - ในที่สุด การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หน่วยงานหลักที่ดูแลวงการกีฬาไทย ก็ได้นายใหญ่คนใหม่เป็นที่เรียบ้รอย หลังจากยื้อยุดกันมากว่า 1 ปี คือ “บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ อดีตรองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ซึ่งถือเป็นการเปิดปฐมบทฉบับใหม่ที่ลูกหม้อจากหัวหมาก ได้รับตำแหน่งนี้ แต่ทั้งนี้ยังต้องพิสูจน์ตัวเองเพราะจะมีการประเมินงานทุก 6 เดือน หากพลาดก็จะหลุดจากตำแหน่งทันที โดยเจ้าตัวเตรียมเดินหน้าทำงาน เร่งเคลียร์งบประมาณส่งนักกีฬาไป ซีเกมส์ 2015

หลังจากที่ “บิ๊กหนุ่ม” นายกนกพันธุ์ จุลเกษม อดีตผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หมดวาระลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557 จึงต้องมีการสรรหานายใหญ่หัวหมากคนใหม่ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ปรากฎว่าเป็น “รองเสือ” สกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ที่ได้รับเลือกให้รับไม้ต่อ ทว่าต้องยืดเยื้อมานานกว่า 11 เดือน เนื่องจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ “คสช.” ได้ส่งหนังสือให้ชะลอการแต่งตั้ง เพราะเจ้าตัวอยู่ในระหว่างถูกสอบสวนทางจริยธรรม กรณีโครงการ “รั้วเป็นร้าน”

กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2557 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสกล วรรณพงษ์ เป็นผู้ว่าการ กกท. คนใหม่ หลังตรวจสอบพบว่า การตรวจสอบโครงการดังกล่าว เป็นการเข้าใจคาดเคลื่อนจึงไม่มีผลต่อตำแหน่ง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป ส่วนค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ซึ่ง “บิ๊กเสือ” ถือเป็นลูกหม้อของ กกท. อย่างแท้จริง ไต่เต้าตั้งแต่ระดับพนักงานจนได้เป็นผู้บริหาร มีบุคลิกน่าเกรงขาม พูดจริง ทำจริง ที่ผ่านมาคอยดูแลเกี่ยวกับกีฬาอาชีพของประเทศไทย โดยเฉพาะกีฬาเจ้าปัญหาอย่าง มวย และ ฟุตบอล

โดย นายสกล กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ถือเป็นคนในรายแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ “ถือเป็นเรื่องดีที่ได้พิสูจน์ตัวเองและวงศ์ตระกูลให้ได้เห็นแล้วว่าเราไม่ได้มีการทุจริตใดๆตามที่ถูกตรวจสอบ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผมไม่ขอโทษใคร ที่สำคัญ การที่ผมได้เป็นคนในจาก กกท. รายแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ หลังจากที่ผ่านมาเป็นคนนอกหน่วยงานมาโดยตลอด สิ่งนี้แสดงให้เห็นแล้วถึงศักยภาพของคนในวงการกีฬา และเป็นแบบอย่างที่ดีให้พนักงาน กกท. ได้เห็นว่าถ้าตั้งใจจริงและมีศักยภาพ ก็สามารถที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้”

อย่างไรก็ตาม “บิ๊กเสือ” ยังแอบหวั่นเรื่องการประเมินผลงานในตำแหน่งใหม่ “เมื่อผมเซ็นสัญญาจ้าง จะเท่ากับว่าตัวเองไม่ได้เป็นพนักงาน กกท. แล้ว แต่จะกลายเป็นลูกจ้างทั่วไปที่คอยรับใช้คนจาก กกท. แทน ที่สำคัญแม้จะมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี แต่ครั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการคอยประเมินการทำหน้าที่ทุกๆ 6 เดือน หากเมื่อไหร่ที่ประเมินไม่ผ่าน ผมก็จะต้องหลุดจากตำแหน่งผู้ว่าการฯ และไม่สามารถกลับไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯได้อีก ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะถูกลูกเล่นอะไรจากผู้ไม่หวังดีอีกหรือไม่ แต่ผมก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยจะเดินหน้าทำงานทันที”

ขณะที่ในแผนงานนั้น นายสกล กล่าวว่า จะเริ่มเรื่องการเตรียมนักกีฬาสู้ศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5 - 16 มิถุนายน นี้ ทันที “จากนี้จะเดินหน้าทำแผนงานและนโยบายต่างๆ เสนอสู่ที่ประชุม โดยเรื่องที่ต้องทำเป็นอันดับแรก คือ การเคลียร์งบประมาณให้กับนักกีฬาที่จะเข้าร่วมซีเกมส์ เพราะมีหลายสมาคมที่ต้องสำรองออกค่าใช้จ่ายในการเตรียมทีมด้วยตัวเองไปก่อนหน้า ส่วนแผนระยะยาวผมตั้งใจที่จะสร้างความสามัคคีในองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เริ่มจากจัดประชุมสัมมนา พนักงานทุกตำแหน่ง เพื่อให้ในอนาคต กกท. มีความเข้มแข็ง มีคุณภาพ เป็นที่พึ่งของสมาคมกีฬาได้ในทุกเรื่อง ถ้ามาที่ กกท. แล้วไม่ได้ตามที่ต้องการก็ไม่ต้องไปหาที่อื่นๆ”

ด้าน “เสธ.จา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกไทย ได้ฝากถึง นายใหญ่หัวหมากคนใหม่ ในเรื่องการจัดสรรงบประมาณ “อยากให้คุณสกล แสดงผลงานให้ได้เห็น และทำหน้าที่อย่างยุติธรรมโปร่งใส โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณที่ต้องบริหารจัดการให้ชัดเจน เช่น ต้องรีบเคลียร์งบเตรียมซีเกมส์ จำนวน 308 ล้านบาท ให้กับแต่ละสมาคมให้รวดเร็ว เพราะตอนนี้ล่าช้ามามากแล้ว รวมเงินที่จะได้จากการเรียกเก็บภาษีสุราและยาสูบ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ประมาณ 3,700 ล้านบาท ที่ต้องวางแผนว่าจะใช้อย่างไร ซึ่งผมขอเสนอว่าไม่ควรนำเงินมาใช้ในการก่อสร้างต่างๆ เพราะหากจะก่อสร้างสิ่งใดควรของบจากรัฐบาลเพิ่มเติมเอง โดยเงินส่วนนี้ควรจะนำไปสนับสนุนแต่ละสมาคมเพื่อใช้ในการควอลิฟายเข้าแข่งขันทัวร์นาเมนท์ต่างๆ ทั้ง โอลิมปิกเกมส์ ยูธ โอลิมปิกเกมส์ หรือ ยูธ เอเชียนเกมส์ โดยเฉพาะสมาคมความหวังที่เคยได้เหรียญมาแล้ว”

ขณะที่ “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เชื่อมือว่าจะทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี “ผมเชื่อว่า คุณสกล ซึ่งเป็นลูกหม้อของ กกท. และมีความรู้เรื่องกีฬาอยู่แล้ว จะสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆในวงการกีฬาได้เป็นอย่างดี ทั้งการเตรียมทีมส่งแข่งขันต่างประเทศ หรือจัดการแข่งขันกีฬาต่างๆ ในประเทศ”

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


“เสธ.จา” ฝากเรื่องจัดสรรงบ
ธนา เชื่อมือลูกหม้อหัวหมาก
งบ ซีเกมส์ งานแรกที่ต้องรีบทำ
กำลังโหลดความคิดเห็น