xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กเสือ" ลุ้นจัด F1 ปี 59 เล็งใช้สนามเมืองทอง, ชลบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


"บิ๊กเสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เสนอให้ไทยจัดการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่า วัน ปลายปี 2559 ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการหาผู้สนับสนุน คาดใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท เล็งจัดสถานที่เมืองทองธานี และชายหาดชลบุรี-พัทยา ต้องรอทำประชามติหาเสียงสนับสนุนอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดแถลงนโยบายและแผนการปฏิบัติงาน โดยมีผู้บริหาร กกท. ร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท.

โดยมีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง ปลายปี 2559 โดย บิ๊กเสือ กล่าวว่า "ตามที่เคยมีการเสนอแผนจัดการขันฟอร์มูล่าวัน ในสมัยผู้ว่า กกท. กนกพันธุ์ จุลเกษม ซึ่งผมมองว่าเป็นแผนที่ควรทำต่อ เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องใช้การโฆษณา เพราะเป็นกีฬาที่ต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ขั้นตอนของเราอยู่ที่การสรรหาผู้สนับสนุน เนื่องจากการเป็นเจ้าภาพดังกล่าวต้องใช้งบประมาณสูงถึง 4,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการประกาศผู้ที่ได้ถือลิขสิทธิ์ไปแล้วคือสิงค์โปร์ แต่เราสามารถยื่นเรื่องขอจัดแทนได้ หากให้เงินมากกว่า และในตอนนี้มีหลายบริษัทยินดีให้การสนับสนุน แต่ต้องรอความชัดเจนก่อน"

"ทั้งนี้ได้เล็งสถานที่จัดแข่งขันที่เมืองทองธานี ตั้งแต่ศูนย์วัฒธรรม ผ่านทางคอนโดด้านใน จนถึงบริเวณทะเลสาบ แต่ทั้งนี้สถานที่ดังกล่าวเคยมีการทำเสียงประชามติไปก่อนหน้าแล้วประชาชนส่วนมากไม่เห็นด้วย จึงเตรียมสถานที่สำรองไว้คือริมทะเลชลบุรี-พัทยา เพราะเคยจัดแข่งขันรายการระดับรถยนต์ทางเรียบมาแล้ว ประกอบกับบริเวณนั้นจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และเป็นการโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวของไทยไปในตัวอีกด้วย"

นอกจากนี้ ผู้ว่าการ กกท. ยังได้แถลงนโยบายและแผนการปฏิบัติงานของตน 5 แผนงาน ได้แก่ แผนงานระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) การแก้ไขกฎหมายระเบียบและสัญญาการจัดหารายได้ของ กกท. เพื่อดำเนินการใช้พื้นที่ของ กกท. จัดหารายได้ให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงการคลัง และแผนงานการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์กีฬาอาชีพ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่กีฬาอาชีพ และรณรงค์การสร้างวัฒนธรรมการชมการเชียร์ ให้ประชาชนทั่วไป รวมทั้งการจัดตั้งอนุกรรมการกีฬามวยระดับจังหวัด เพื่อกำกับดูแลกิจกรรมกีฬามวยภายในจังหวัด

แผนงานระยะกลาง (ไม่เกิน 3 ปี) พัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน โดยจะอบรมพนักงานจำนวน 120 คน (รุ่นละ 30 คน มีทั้งหมด 4 ระดับ) ในระยะเวลา 3 ปี, มีการพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีรายการแข่งขันที่เป็นมาตรฐานให้กับเยาวชนได้มีโอกาสแสดงศักยภาพด้านกีฬาฟุตบอล , 3. แผนงานการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาในการพัฒนากีฬาในระดับจังหวัด โดยจะจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ประจำจังหวัด (จำนวน 17 ศูนย์ ประกอบด้วย ศูนย์ กกท. ภาค 1 ชลบุรี, ศูนย์ กกท. ภาค 2 สุพรรณบุรี, ศูนย์ กกท. ภาค 3 นครราชสีมา, ศูนย์ กกท. ภาค 4 สงขลา, ศูนย์ กกท. ภาค 5 เชียงใหม่, ศูนย์ กกท. จังหวัดราชบุรี, ศูนย์ กกท. จังหวัดสมุทรปราการ, ศูนย์ กกท. จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์ กกท. จังหวัดสุรินทร์, ศูนย์ กกท. จังหวัดจันทบุรีศูนย์ กกท. จังหวัดอุดรธานี, ศูนย์ กกท. จังหวัดภูเก็ต, ศูนย์ กกท. จังหวัดเชียงราย, ศูนย์ กกท. จังหวัดอ่างทอง, ศูนย์ กกท. จังหวัดสกลนคร, ศูนย์ กกท. จังหวัดนครพนม และศูนย์ กกท. จังหวัดพิษณุโลก) บริการให้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ ทั้งกีฬาเพื่อการอาชีพและกีฬาสมัครเล่น เพื่อประเมินผลสมรรถภาพทางกายแก่นักกีฬาในการเข้าร่วมการแข่งขันในระดับต่างๆ

แผนงานระยะยาว (เป็นประจำทุกปี) สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่นักกีฬาทีมชาติคนพิการ เพื่อสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติคนพิการ ที่มีผลงานการแข่งขันเป็นที่ประจักษ์ในการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศและนำชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติทางด้านการกีฬา , แผนงานพัฒนากีฬามวยไทยให้เป็นอาชีพและไปสู่สากล จะเป็นการอนุรักษ์มวยไทยรุ่นใหญ่และส่งเสริมพัฒนามวยไทยหญิง เพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวและสร้างความสนใจให้ชาวต่างชาติเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามวยไทย เกิดทัศนคติที่ดีของประชาชน เยาวชน และชาวต่างชาติต่อกีฬามวยไทย รวมทั้งสร้างมูลค่าและสร้างรายได้ให้แก่นักมวย และแผนงานพัฒนาสนามกีฬาจังหวัดให้เป็นศูนย์การฝึกซ้อมและแข่งขันรวมทั้งให้บริการประชาชน เป็นการปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการศูนย์กีฬา กกท.ในมาตรฐานเดียวกัน (จำนวน 12 จังหวัด ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติสนามกีฬาหัวหมาก กทม., ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี, ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติสนามกีฬาสมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่, สนามกีฬาจังหวัดนครพนม, สนามกีฬาจังหวัดราชบุรี, สนามกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ, สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี,สนามกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี, สนามกีฬาจังหวัดสุรินทร์ และศูนย์ฝึกกีฬาในร่มจังหวัดตราด) เพื่อจัดหา ปรับปรุงวัสดุอุปกรณ์และสถานที่ให้มีความพร้อมในการบริการกับนักกีฬาและประชาชนทั่วไป รวมทั้งการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ ให้เยาวชนและประชาชนออกกำลังกายและเล่นกีฬา

แผนงานพิเศษ จำนวน 3 แผนงาน ได้แก่ แผนงานจัดทำป้าย LED รอบราชมังคลากีฬาสถาน, แผนงานการจัดการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 (Formula 1), แผนงานพัฒนาสถานีทีวีกีฬาเพื่อประชาชน (T-Sports Channel)

และแผนงานเร่งด่วน จำนวน 3 แผนงาน ได้แก่ แผนงานเร่งรัดการจัดทำกฎหมายลำดับรองภายใต้พระราชบัญญัติ กกท. พ.ศ. 2558, แผนงานเร่งด่วนการจัดทำกฎหมายลำดับรองของพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 และแผนงานแก้ไข พ.ร.บ. ส่งเสริมกีฬามวย พ.ศ. 25542


กำลังโหลดความคิดเห็น