คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
หลังการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ปรากฎว่าทีมไทย อันดับ 142 โลก อยู่ร่วมกลุ่มเอฟ โดยมีคู่ต่อกรอย่าง อิรัก (อันดับ 86 โลก), เวียดนาม (อันดับ 125 โลก), อินโดนีเซีย (อันดับ 159 โลก) และ ไต้หวัน (อันดับ 179 โลก) ซึ่ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีม "ช้างศึก" เมื่อเห็นสายแบบนี้ก็พอมีรอยยิ้มออกมาบ้าง เพราะถือว่าไม่หนักหนาสาหัสอย่างที่สื่อมวลชนพากันวิตกตั้งแต่แรกถึงการที่อันดับโลกไม่ดีต้องอยู่ในโถ 3 และมีโอกาสชนยักษ์เอเชียอย่างที่กังวลกัน
ซึ่งรอบนี้จะหาทีมแชมป์แต่ละกลุ่ม จาก 8 กลุ่ม บวกกับอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม เข้าไปเล่นรอบคัดเลือกรอบ 3 ที่จะแบ่งทั้ง 12 ทีม ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แข่งแบบเหย้า-เยือน พบกันหมด เพื่อหาทีมแชมป์ และ รองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทันที ส่วนอันดับ 3 ของทั้ง 2 กลุ่มต้องมาแข่งเพลย์ออฟ เหย้า-เยือน เพื่อหาผู้ชนะไป เพลย์ออฟ อีกรอบกับทีมจากทวีปอื่นๆ ซึ่งดูแล้วไม่แคล้วก็คงเป็นทีมอันดับ 5 จากโซนอเมริกาใต้นั่นเอง
เมื่อผลการแบ่งกลุ่มออกมาเช่นนี้ สื่อกระแสหลักของโลกใบนี้อย่าง "รอยเตอร์ส" จึงออกมาวิเคราะห์ว่าในกลุ่มเอฟนั้นสถานการณ์ของทีมชาติไทยค่อนข้างสดใส และไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันหากจะมองถึงโอกาสผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก พร้อมกับมองว่าทีมชุดนี้อุดมไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าดี โดยเฉพาะในรายของ "เมสซีเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ฟอร์มกับทีมชาติกำลังมา (แต่เสียใจด้วย เจ้าเจ ไม่ได้ลงช่วยทีมใน 2 นัดแรกแน่นอน เพราะโดน "ซิโก้" ส่งไปลุ้นเหรียญทองซีเกมส์ที่สิงคโปร์ เนื่องจากช่วงเวลาตรงกัน) รวมทั้งยังได้ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา อดีตกองหน้าที่ไปค้าแข้งกับ อัลเมเรีย ในลาลีกา สเปน มาช่วยทีมอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมองว่าการที่ทีมชุดดาวรุ่งของ "โค้ชโก้" ไปคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มาได้นั้น หนทางการผ่านทีมร่วมอาเซียนอย่าง เวียดนาม หรือ อินโดนีเซีย ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ขณะที่ทีมแข็งๆ อย่าง อิรัก ที่เคยคว้าแชมป์เอเชีย 2007 เป็นทีมที่ชื่อชั้นน่าจะแกร่งพอควร ทว่าปัจจุบันนักเตะของทีมจากตะวันออกกลางทีมนี้ประสบปัญหาการเมืองภายในประเทศตัวเองจนต้องออกมาฝึกซ้อมนอกประเทศ แน่นอนว่าสภาพจิตใจอาจมีผลบ้าง แต่ภาพรวมแล้วน่าจะเป็นรองทีมชาติไทยเรื่องทีมเวิร์ค และที่สำคัญปัญหาใหญ่คือเมื่อบ้านเมืองไม่สงบ อาจจะต้องแข่งนัดเหย้าที่อื่น โดยคาดกันไว้ว่าน่าจะเป็นกาตาร์
ส่วน เวียดนาม นั้นแม้จะประมาทไม่ได้ แต่อาจจบด้วยอันดับที่ 3 ด้าน ไต้หวัน คงลุ้นยาก รวมถึง อินโดนีเซีย ก็ยังไม่แน่ว่าจะโดนฟีฟาแบนจากปัญหาวงการฟุตบอลลีกในประเทศด้วยหรือไม่
อ่านดูเพลินๆ ในฐานะคนไทยก็ยิ้มสิครับ เขายกยอเราพอได้อยู่ แต่ว่ากันตามตรงฟุตบอลลูกกลมๆ นี่พูดยากเหมือนกัน โดยเฉพาะทีมจากย่านอาเซียน เขาก็พอรู้อยู่ว่าเราเล่นแบบไหนทั้ง เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ที่สำคัญ อิรัก นี่ต่อให้เล่นที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้น เอาเป็นว่าถ้าทำได้อย่างที่ "ซิโก้" ว่าไว้คือเก็บชัยชนะในบ้าน 4 นัดให้หมดได้ก็โอกาสผ่านเข้ารอบสูง ว่าแต่ถึงเวลาจะทำได้ไหมมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
หลังการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ปรากฎว่าทีมไทย อันดับ 142 โลก อยู่ร่วมกลุ่มเอฟ โดยมีคู่ต่อกรอย่าง อิรัก (อันดับ 86 โลก), เวียดนาม (อันดับ 125 โลก), อินโดนีเซีย (อันดับ 159 โลก) และ ไต้หวัน (อันดับ 179 โลก) ซึ่ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีม "ช้างศึก" เมื่อเห็นสายแบบนี้ก็พอมีรอยยิ้มออกมาบ้าง เพราะถือว่าไม่หนักหนาสาหัสอย่างที่สื่อมวลชนพากันวิตกตั้งแต่แรกถึงการที่อันดับโลกไม่ดีต้องอยู่ในโถ 3 และมีโอกาสชนยักษ์เอเชียอย่างที่กังวลกัน
ซึ่งรอบนี้จะหาทีมแชมป์แต่ละกลุ่ม จาก 8 กลุ่ม บวกกับอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม เข้าไปเล่นรอบคัดเลือกรอบ 3 ที่จะแบ่งทั้ง 12 ทีม ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แข่งแบบเหย้า-เยือน พบกันหมด เพื่อหาทีมแชมป์ และ รองแชมป์ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทันที ส่วนอันดับ 3 ของทั้ง 2 กลุ่มต้องมาแข่งเพลย์ออฟ เหย้า-เยือน เพื่อหาผู้ชนะไป เพลย์ออฟ อีกรอบกับทีมจากทวีปอื่นๆ ซึ่งดูแล้วไม่แคล้วก็คงเป็นทีมอันดับ 5 จากโซนอเมริกาใต้นั่นเอง
เมื่อผลการแบ่งกลุ่มออกมาเช่นนี้ สื่อกระแสหลักของโลกใบนี้อย่าง "รอยเตอร์ส" จึงออกมาวิเคราะห์ว่าในกลุ่มเอฟนั้นสถานการณ์ของทีมชาติไทยค่อนข้างสดใส และไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันหากจะมองถึงโอกาสผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก พร้อมกับมองว่าทีมชุดนี้อุดมไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าดี โดยเฉพาะในรายของ "เมสซีเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ฟอร์มกับทีมชาติกำลังมา (แต่เสียใจด้วย เจ้าเจ ไม่ได้ลงช่วยทีมใน 2 นัดแรกแน่นอน เพราะโดน "ซิโก้" ส่งไปลุ้นเหรียญทองซีเกมส์ที่สิงคโปร์ เนื่องจากช่วงเวลาตรงกัน) รวมทั้งยังได้ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา อดีตกองหน้าที่ไปค้าแข้งกับ อัลเมเรีย ในลาลีกา สเปน มาช่วยทีมอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมองว่าการที่ทีมชุดดาวรุ่งของ "โค้ชโก้" ไปคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มาได้นั้น หนทางการผ่านทีมร่วมอาเซียนอย่าง เวียดนาม หรือ อินโดนีเซีย ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ขณะที่ทีมแข็งๆ อย่าง อิรัก ที่เคยคว้าแชมป์เอเชีย 2007 เป็นทีมที่ชื่อชั้นน่าจะแกร่งพอควร ทว่าปัจจุบันนักเตะของทีมจากตะวันออกกลางทีมนี้ประสบปัญหาการเมืองภายในประเทศตัวเองจนต้องออกมาฝึกซ้อมนอกประเทศ แน่นอนว่าสภาพจิตใจอาจมีผลบ้าง แต่ภาพรวมแล้วน่าจะเป็นรองทีมชาติไทยเรื่องทีมเวิร์ค และที่สำคัญปัญหาใหญ่คือเมื่อบ้านเมืองไม่สงบ อาจจะต้องแข่งนัดเหย้าที่อื่น โดยคาดกันไว้ว่าน่าจะเป็นกาตาร์
ส่วน เวียดนาม นั้นแม้จะประมาทไม่ได้ แต่อาจจบด้วยอันดับที่ 3 ด้าน ไต้หวัน คงลุ้นยาก รวมถึง อินโดนีเซีย ก็ยังไม่แน่ว่าจะโดนฟีฟาแบนจากปัญหาวงการฟุตบอลลีกในประเทศด้วยหรือไม่
อ่านดูเพลินๆ ในฐานะคนไทยก็ยิ้มสิครับ เขายกยอเราพอได้อยู่ แต่ว่ากันตามตรงฟุตบอลลูกกลมๆ นี่พูดยากเหมือนกัน โดยเฉพาะทีมจากย่านอาเซียน เขาก็พอรู้อยู่ว่าเราเล่นแบบไหนทั้ง เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ที่สำคัญ อิรัก นี่ต่อให้เล่นที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้น เอาเป็นว่าถ้าทำได้อย่างที่ "ซิโก้" ว่าไว้คือเก็บชัยชนะในบ้าน 4 นัดให้หมดได้ก็โอกาสผ่านเข้ารอบสูง ว่าแต่ถึงเวลาจะทำได้ไหมมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
