คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
การก้าวเข้ามาคุมทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่แล้วที่ประเทศพม่า เป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในฐานะกุนซือคนหนุ่ม ที่ทำงานร่วมกับนักเตะดาวรุ่งของสโมสรต่างๆ ในไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนต่อยอดมายึดอันดับ 4 ฟุตบอลเอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ จากนั้นยังคงเปิดโอกาสให้นักเตะชุดเดียวกันนั้นมารับใช้ชาติในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ก่อนจะคว้าแชมป์ได้ปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับการก้าวขึ้นเป็นโค้ชซูเปอร์สตาร์เทียบเคียงกับนักเตะดาวรุ่งที่แจ้งเกิดอย่างสวยงามไม่ว่าจะเป็น ชาริล ชัปปุยส์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , อดิศักดิ์ ไกรษร รวมถึง "เมสซีเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์
ซึ่งด้วยผลงานดังกล่าวส่งผลให้กุนซือวัย 41 ปี ก้าวมายึดกุมหัวใจคนไทย และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็เห็นแล้วว่าการผลักงานคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ให้ "ซิโก้" ที่กำลังมือขึ้นกับการคุมแข้งดาวรุ่งนั้นเป็นสิ่งเหมาะสมแก่เวลาอันควรเป็นอย่างยิ่ง โดยมอบหมายให้คุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เตรียมทำศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก รวมถึงคุมทีมชุดยู 22 ทำศึกเอเอฟซี ยู-23 แชมเปียนชิป 2016 และผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของสาย พร้อมตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ในเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อติด 1 ใน 3 สำหรับคว้าตั๋วไปโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล
แม้จะเป็นห้วงเวลาแห่งการแสดงความยินดีกับผลงานของทีมชาติไทยทุกชุด แต่ก็มีเรื่องสะดุดอารมณ์แฟนฟุตบอลเช่นกัน เมื่อการแข่งขันฟุตโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 2 นัดแรก วันที่ 11 และ 16 มิถุนายนนี้ ดันไปชนกันโครมเบ้อเร่อกับการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-16 มิถุนายนนี้ ทำให้โค้ชหน้ามนคนขอนแก่น ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องแบ่งนักเตะเป็นตัวหลักอย่าง "เมสซีเจ" ไปรับใช้ชาติในชุดยู 23 ชิงเจ้าอาเซียน ทั้งที่ขัดใจแฟนฟุตบอล
เท่าที่ทราบ "ซิโก้" ยืนยันว่าการที่ ชนาธิป ไม่ได้ไปลุยฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เนื่องจากชุดใหญ่มีตัวเลือกมากในตำแหน่งกองกลาง ไม่เชื่อเหลือบมองดูก็เห็นว่ามีทั้ง ประกิต ดีพร้อม, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, จักรพันธ์ พรใส ถามว่าต่างกันไหม แน่นอนว่าอาจแตกต่างกันบ้าง แต่เชื่อเหลือเกินว่าแฟนฟุตบอลน่าจะยอมรับได้ เนื่องจากนักเตะที่จะลงสู่ชุดซีเกมส์ หลายคนก็ยังอยู่ในวัยที่เล่นได้ไม่ขัดเขิน และควรได้เล่นด้วย แม้จะมีแฟนบอลบางคนบอกว่า "เฮ้ย ทำไมฝีเท้าระดับนี้ไปเล่นแค่อาเซียน" หรือ "ปิดกั้นโอกาสนักเตะอย่าง เจ-ต้น ขึ้นไปโชว์ฝีเท้าในชุดใหญ่ ที่จะมีแมวมองระดับเอเชียมาเห็นแล้วดึงตัวไปร่วมทีมในลีกอื่นหรือไม่" ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องนานาจิตตังบังคับให้คิดเห็นเหมือนกันไม่ได้
แต่การส่งแข้งเจ๋งๆ ไปเล่นซีเกมส์ "ซิโก้" เองก็พูดเองว่าเหมาะสมแล้ว เพราะยากที่จะขนเด็กหนุ่มไม่เจนสนามระดับอาเซียนไปต่อกรกับคู่แข่งรายอื่นๆ เรื่องฝีเท้าไม่มีใครกลัวหรอกสู้ได้ทุกทีม แต่บรรยากาศระดับอาเซียนนี่ปราบแข้งเซียนๆ มามากแล้ว ก็ไม่ใช่ซีเกมส์หรอกหรือที่ทีมไทยตกรอบแรกทั้งปี 2009 ที่ลาว และปี 2011 ที่อินโดนีเซีย ตอนนั้นเห็นแฟนบอลก็สาปส่งกันทั้งนักเตะ สตาฟฟ์โค้ช ยันผู้บริหารสมาคม วันนี้จึงไม่แปลกใจที่ตัวกุนซือเองก็ต้องรู้ตัวว่าเน้นปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า.....
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
การก้าวเข้ามาคุมทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่แล้วที่ประเทศพม่า เป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในฐานะกุนซือคนหนุ่ม ที่ทำงานร่วมกับนักเตะดาวรุ่งของสโมสรต่างๆ ในไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนต่อยอดมายึดอันดับ 4 ฟุตบอลเอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ จากนั้นยังคงเปิดโอกาสให้นักเตะชุดเดียวกันนั้นมารับใช้ชาติในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ก่อนจะคว้าแชมป์ได้ปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับการก้าวขึ้นเป็นโค้ชซูเปอร์สตาร์เทียบเคียงกับนักเตะดาวรุ่งที่แจ้งเกิดอย่างสวยงามไม่ว่าจะเป็น ชาริล ชัปปุยส์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , อดิศักดิ์ ไกรษร รวมถึง "เมสซีเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์
ซึ่งด้วยผลงานดังกล่าวส่งผลให้กุนซือวัย 41 ปี ก้าวมายึดกุมหัวใจคนไทย และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็เห็นแล้วว่าการผลักงานคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ให้ "ซิโก้" ที่กำลังมือขึ้นกับการคุมแข้งดาวรุ่งนั้นเป็นสิ่งเหมาะสมแก่เวลาอันควรเป็นอย่างยิ่ง โดยมอบหมายให้คุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เตรียมทำศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก รวมถึงคุมทีมชุดยู 22 ทำศึกเอเอฟซี ยู-23 แชมเปียนชิป 2016 และผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของสาย พร้อมตีตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ในเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อติด 1 ใน 3 สำหรับคว้าตั๋วไปโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล
แม้จะเป็นห้วงเวลาแห่งการแสดงความยินดีกับผลงานของทีมชาติไทยทุกชุด แต่ก็มีเรื่องสะดุดอารมณ์แฟนฟุตบอลเช่นกัน เมื่อการแข่งขันฟุตโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย 2 นัดแรก วันที่ 11 และ 16 มิถุนายนนี้ ดันไปชนกันโครมเบ้อเร่อกับการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5-16 มิถุนายนนี้ ทำให้โค้ชหน้ามนคนขอนแก่น ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องแบ่งนักเตะเป็นตัวหลักอย่าง "เมสซีเจ" ไปรับใช้ชาติในชุดยู 23 ชิงเจ้าอาเซียน ทั้งที่ขัดใจแฟนฟุตบอล
เท่าที่ทราบ "ซิโก้" ยืนยันว่าการที่ ชนาธิป ไม่ได้ไปลุยฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เนื่องจากชุดใหญ่มีตัวเลือกมากในตำแหน่งกองกลาง ไม่เชื่อเหลือบมองดูก็เห็นว่ามีทั้ง ประกิต ดีพร้อม, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, จักรพันธ์ พรใส ถามว่าต่างกันไหม แน่นอนว่าอาจแตกต่างกันบ้าง แต่เชื่อเหลือเกินว่าแฟนฟุตบอลน่าจะยอมรับได้ เนื่องจากนักเตะที่จะลงสู่ชุดซีเกมส์ หลายคนก็ยังอยู่ในวัยที่เล่นได้ไม่ขัดเขิน และควรได้เล่นด้วย แม้จะมีแฟนบอลบางคนบอกว่า "เฮ้ย ทำไมฝีเท้าระดับนี้ไปเล่นแค่อาเซียน" หรือ "ปิดกั้นโอกาสนักเตะอย่าง เจ-ต้น ขึ้นไปโชว์ฝีเท้าในชุดใหญ่ ที่จะมีแมวมองระดับเอเชียมาเห็นแล้วดึงตัวไปร่วมทีมในลีกอื่นหรือไม่" ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องนานาจิตตังบังคับให้คิดเห็นเหมือนกันไม่ได้
แต่การส่งแข้งเจ๋งๆ ไปเล่นซีเกมส์ "ซิโก้" เองก็พูดเองว่าเหมาะสมแล้ว เพราะยากที่จะขนเด็กหนุ่มไม่เจนสนามระดับอาเซียนไปต่อกรกับคู่แข่งรายอื่นๆ เรื่องฝีเท้าไม่มีใครกลัวหรอกสู้ได้ทุกทีม แต่บรรยากาศระดับอาเซียนนี่ปราบแข้งเซียนๆ มามากแล้ว ก็ไม่ใช่ซีเกมส์หรอกหรือที่ทีมไทยตกรอบแรกทั้งปี 2009 ที่ลาว และปี 2011 ที่อินโดนีเซีย ตอนนั้นเห็นแฟนบอลก็สาปส่งกันทั้งนักเตะ สตาฟฟ์โค้ช ยันผู้บริหารสมาคม วันนี้จึงไม่แปลกใจที่ตัวกุนซือเองก็ต้องรู้ตัวว่าเน้นปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า.....
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *