เอเยนซี – ศึกกอล์ฟเมเจอร์รายการแรกของปี เดอะ มาสเตอร์ส 2015 ได้ฤกษ์ประชันวงสวิงกันแล้วระหว่างวันที่ 9-12 เมษายนนี้ บนสังเวียนเดิมคือ ออกัสตา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ มลรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางความสนใจของแฟนกอล์ฟที่ตั้งตารอชมลีลาสวิงของ ไทเกอร์ วูดส์ อดีตมือ 1 โลกที่คืนสังเวียนกลับมาขอพิสูจน์ตัวเองในการไล่ล่าแชมป์รายการใหญ่ กลางดงโปรมือพระกาฬที่ร่วมวงประชัน รวมถึง รอรีย์ แม็คอิลรอย ที่ต้องการแชมป์เพื่อเติมเต็มความสำเร็จในชีวิต เรียกได้ว่ามีสีสันให้ได้ลุ้นให้ได้เชียร์กันเพียบตลอดทั้ง 4 วัน
ก่อนหน้านี้ การชิงชัยที่สนาม ออกัสตา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ซึ่งมีเงินรางวัลรวมล่อใจสูงสุด 9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 288 ล้านบาท) ดูไม่ค่อยคึกคักมากนักเมื่อข่าวคราวเรื่องปัญหาบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังของ ไทเกอร์ วูดส์ แชมป์เมเจอร์ 14 สมัย ที่กำเริบขึ้นมาจนขอประกาศเว้นวรรคเพื่อไปปรับฟอร์มจนกลายเป็นประเด็นหลักที่คนให้ความสนใจมากกว่า และน่าสงสัยว่าจะหายทันกลับมาลงแข่งรายการสำคัญหรือไม่
โปรวัย 39 ปี ซึ่งในปีนี้เพิ่งลงแข่งไปสองรายการคือ เวสต์ แมเนจเมนต์ ฟินิกซ์ โอเพน เดือนมกราคม ด้วยผลงานจอดป้ายเร็วกว่ากำหนดเพราะไม่ผ่านตัดตัว ต่อมาคือ ฟาร์เมอร์ส อินซัวแรนซ์ โอเพน เดือนกุมภาพันธ์ คราวนี้อาการหนักกว่าเพราะจู่ๆ ก็เจ็บแปลบขึ้นมาที่แผ่นหลัง จนต้องถอนตัวตั้งแต่รอบแรกและนั่งรถกลับออกจากสนาม ทว่าช่วงเวลา 1 เดือนเต็มที่หายหน้าไปรักษาตัวและฝึกซ้อมวงสวิงอย่างหนัก ในที่สุด “พญาเสือ” ก็ตัดสินใจกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าแฟนๆที่ ออกัสตา ส่งสัญญาณออกล่าเมเจอร์ใบที่ 15
โดยก่อนลงแข่งขัน ไทเกอร์ ซึ่งอันดับโลกในตาราง เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิง กราวรูดหลุดท็อป 100 ไปอยู่อันดับที่ 111 ของโลก และเตรียมตัวออกรอบวันแรกก๊วนเดียวกับ จิมมี วอล์คเกอร์ เพื่อนร่วมชาติและ เจมี โดนัลด์สัน จากเวลส์ เปิดเผยว่า “ผมคิดว่าเกมการเล่นของตัวเองเริ่มกลับมาเข้าที่เข้างทางอีกครั้ง ผมทำงานอย่างหนักในช่วงเวลาที่หยุดพักไป ส่วนแผนการเล่นก็เหมือนเดิมคือพยายามเอาชนะทุกคนที่อยู่ที่นี่ เพราะผมวาดหวังอยู่เสมอว่าต้องการเป็นแชมป์”
ถัดมาที่ฝั่งผู้ท้าชิงอย่าง รอรีย์ แม็คอิลรอย ฤดูกาลนี้ประเดิมแชมป์แรกไปแล้วในรายการของ ยูโรเปียน ทัวร์ คือ โอเมกา ดูไบ ดีเสิร์ท คลาสสิค เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เอาฤกษ์เอาชัยก่อนล่าเมเจอร์ใบสุดท้ายที่ยังไม่มีในตู้โชว์ ซึ่งก็เคยเกือบทำได้มาแล้วเมื่อปี 2011 หลังออกนำมาตลอด 3 วันแรก แต่มาตกม้าตายตีหลุดกระจายวันสุดท้าย จนกลายเป็น ชาร์ล ชวาร์ตเซล จาก แอฟริกาใต้ ที่ฉวยโอกาสปาดขึ้นมาคว้าเสื้อ กรีน แจ๊คเก็ต กลับบ้านไป ซึ่งหากทำได้สำเร็จในปีนี้ก็จะเป็นการต่อยอดลุ้น แกรนด์ สแลม ออฟ กอล์ฟ ในศึก ยูเอส โอเพน ต่อไป เพราะเมเจอร์ 2 ใบหลังสุดตกอยู่ในมือของเขาไปแล้วคือ ดิ โอเพน กับ พีจีเอ แชมเปียนชิป
“สิ่งที่อยู่ในใจของผมคือเดินหน้าสู่การเป็นผู้ชนะ และคิดถึงสิ่งที่มีความหมายมากที่สุด ผมได้โอกาสกลับมาที่ ออกัสตา อีกครั้ง ซึ่งจะพยายามรวบรวมสมาธิและเล่นให้ผิดพลาดน้อยที่สุด หากไม่ต้องการให้งานของตัวเองยากขึ้นในวันต่อๆไป” สวิงหนุ่มวัย 25 ปี จาก ไอร์แลนด์เหนือกล่าวก่อนเตรียมออกรอบวันแรกร่วมกับ ไรอัน มัวร์ และ ฟิล มิคเคลสัน สองโปรเจ้าถิ่นโดยเฉพาะรายหลังเป็นอีกหนึ่งเก๋าที่เคยได้แชมป์มาแล้ว 3 สมัย
นอกเหนือจากการปะทะกันของสองนักกอล์ฟต่างยุคต่างสมัย อีกคนที่ไม่ควรมองข้ามคือ บับบา วัตสัน แชมป์เก่าปี 2012 และปีที่แล้ว ซึ่งกำลังลุ้นคว้า “กรีน แจ็คเก็ต” เพื่อขึ้นทำเนียบนักกอล์ฟที่ได้แชมป์ที่ ออกัสตา 3 สมัยในรอบ 4 ปี เทียบเท่าตำนานอย่าง “หมีทองคำ” แจ๊ค นิคคลอส ส่วนแฟนกอล์ฟชาวไทยยังได้ลุ้นเชียร์หนึ่งเดียวที่ได้เข้าร่วมคือ “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี มือ 43 โลก ที่ซุ่มซ้อมเตรียมตัวมานาน 1 เดือน ก่อนมาเล่นที่ ออกัสตา เป็นครั้งที่ 4
นอกจากนี้อเมริกันชนยังสามารถส่งใจเชียร์ 2 ความหวังใหม่อย่าง ริคกี ฟาวเลอร์ ที่เมื่อปี 2014 ทำผลงานระดับเมเจอร์ได้ยอดเยี่ยมทั้ง 4 รายการเรียกได้ว่าเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ไล่ตั้งแต่ จบอันดับ 2 ยูเอส โอเพน กับ ดิ โอเพน แชมเปียนชิป ส่วน เดอะ มาสเตอ์ส คว้าอันดับ 5 และ พีจีเอ แชมเปียนชิป ได้ที่ 3 รวมถึง จอร์แดน สปีธ หนุ่มน้อยวัย 21 ปีที่สุดร้อนแรงในปีนี้ได้แชมป์มาแล้วคือ พีจีเอ ทัวร์ รายการ "วาลสปาร์ แชมเปียนชิป" ตามด้วยอันดับ 2 ร่วมอีก 2 ทัวร์นาเมนต์คือ "วาเลโร เท็กซัส โอเพน" และเพลย์ออฟวืดถ้วย "เชลล์ ฮุสตัน โอเพน" ส่วนปี 2014 ปรากฎตัวที่ ออกัสตา อย่างสวยหรูจบด้วยตำแหน่งที่ 2 ร่วมตามหลังแชมป์คือ บับบา วัตสัน รุ่นพี่ชาวอเมริกัน 3 สโตรก
สำหรับ เดอะ มาสเตอร์ส หนนี้ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ตัวเองครั้งสุดท้ายของ “พญาเสือ” ที่ต้องการทำลายสถิติแชมป์เมเจอร์สูงสุด 18 สมัยของ นิคคลอส หากพลาดคราวนี้คงต้องบอกลาภารกิจทำลายสถิติของ “ปู่หมีทองคำ” ได้แล้ว ส่วน รอรีย์ ถ้าไม่พลาดซ้ำรอยเดิมเหมือนปี 2011 จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นสวิงรายที่ 7 ที่ได้เมเจอร์ทุกรายการต่อจาก วูดส์, นิคคลอส, แกรี เพลเยอร์, เบน โฮแกน, บ็อบบี โจนส์ และ ยีน ซาราเซน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *