xs
xsm
sm
md
lg

ฤทธิ์ “ฟีฟา แรงกิ้ง” / ชมณัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

วันที่ 14 เมษายน นี้ ก็จะได้ทราบกันแล้วว่าหนทางการลุ้นไป “ฟุตบอลโลก” ของทีมชาติไทยเราจะหนักหนาขนาดไหน หลังทราบโฉมหน้าทั้ง 40 ทีม ที่จะมาชิงชัยในรอบแบ่งกลุ่ม ศึก “ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย” เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับการจับสลากแบ่งสายในครั้งนี้ ทั้ง 40 ทีม จะถูกจัดวางแบ่งเป็น 5 โถๆ ละ 8 ทีม ไล่เรียงตามอันดับโลก หรือ ฟีฟา แรงกิ้ง (FIFA World Ranking) ที่จะประกาศในวันที่ 9 เมษายน กล่าวคือ ทีมที่มีคะแนนเป็นอันดับ 1 - 8 ของเอเชีย เช่น ยักษ์ใหญ่ประจำทวีปอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อิหร่าน หรือ จีน จะถูกจับมาอยู่รวมกันในโถ 1 ส่วนทีมอันดับ 9 - 16 อยู่รวมในโถ 2 ไล่เรียงกันไปจนครบ 8 โถ โดยที่โถสุดท้ายจะเป็นชาติที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องฟุตบอลอย่าง ติมอร์-เลสเต, ไต้หวัน, ลาว, บังกลาเทศ และ กัมพูชา

ก่อนจะจับสลากแบ่งเป็น 8 กลุ่ม (A - H) กลุ่มละ 5 ทีม โดยทีมในระดับแรงกิ้งไล่เลี่ยกันจะไม่มีโอกาสโคจรมาอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน เช่น โถ 1 เหล่ามหาอำนาจลูกหนังของเอเชียก็จะถูกกระจายไปตามกลุ่มต่างๆ ซึ่งตอนนี้ตามการจัดอันดับล่าสุด “ช้างศึก” รั้งที่ 21 ของเอเชีย (142 โลก) ยังอยู่ในโถ 3 ร่วมกับ มัลดีฟส์ อัฟกานิสถาน ปาเลสไตน์ ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน เลบานอน และ เกาหลีเหนือ

พูดง่ายๆ หาก ไทย ได้ขยับขึ้นไปอยู่โถ 1 ก็จะไม่ต้องเจอกับเหล่ามหาอำนาจ หรือถ้าอยู่โถ 2 ก็จะเลี่ยงทีมอย่าง อิรัก กาตาร์ หรือ ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงทีมจากตะวันออกกลางอื่นๆ ที่มักยึดหัวหาดโถนี้ได้ แต่กลับเป็นว่าเราต้องชวดเจอกับทีมที่ดูจะเป็นงานง่ายในโถ 3 แทน อย่างไรก็ตาม ช่วงโค้งสุดท้ายนี้ยังพอมีเวลาที่แต่ละทีมจะทำคะแนนเพิ่มเพื่อขยับอันดับของตนเอง รวมถึงเสียคะแนนลดลงจนอันดับตกลงมา จากการลงอุ่นเครื่องตามฟีฟาเดย์ เช่นเดียวกับ ไทย ที่ยังมีโอกาสเลื่อนขึ้นไปอยู่ โถ 2 ได้เช่นกัน แต่ต้องบอกว่าแทบจะน้อยนิด

ถึงตรงนี้คงเข้าใจกันแล้วถึงความสำคัญของเจ้า “ฟีฟา แรงกิ้ง” ที่ท่านนายกสมาคมฟุตบอลไทย เคยยอมรับว่ายังไม่ค่อยเข้าใจกับระบบการให้คะแนนของฟีฟาเท่าไหร่นัก (ทั้งที่มีวิธีการคิดคะแนนและโปรแกรมคำนวณคะแนนอัตโนมัติอยู่ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฟีฟาแท้ๆ) ว่ามีมากแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากจะนำมาใช้เป็นตัวจัดอันดับในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ แล้ว ยังเป็นการบ่งชี้ถึงคุณภาพของแต่ละทีมในการดึงทีมดีๆ เข้ามาอุ่นเครื่องด้วย เหมือนที่ โจเจอร์ มิลลา ตำนานทีมชาติแคเมอรูน ดูถูกไทยว่าไม่คู่ควรจะอุ่นเครื่องกับทัพหมอผีนั่นแหละ เพราะด้วยอันดับโลกที่มากกว่าถึง 93 อันดับ ถึงจะบุกมาชนะแต่ก็จะเป็นการฉุดคะแนนลงอยู่ดี เรียกได้ว่ามีแต่เสียกับเสีย จึงเป็นเรื่องยากที่ทีมระดับล่างจะหาทีมชั้นนำมาแข่งด้วยได้

กระนั้นการได้เห็น สิงคโปร์ และ แคเมอรูน เดินทางมาลับแข้งตามปฏิทินฟีฟาเดย์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดี หากเราสามารถหาทีมที่ศักยภาพเท่าเทียมกันลงเล่นต่อเนื่องได้ตามโปรแกรม ก็จะเป็นการค่อยๆ เพิ่มคะแนนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งฟีฟาเองได้ระบุวันและช่วงเวลาฟีฟาเดย์ล่วงหน้าบนเว็บไซต์แล้วถึงปี 2018 เพื่อให้แต่ละชาติได้เตรียมพร้อมเทียบเชิญหาทีมมาลองเกือก ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับนายใหญ่ผู้ดูแลลูกหนังแต่ละชาติว่าจะมีเส้นสายและความน่าเชื่อถือในการจัดหาคู่ชกมาขึ้นสังเวียนได้ดีขนาดไหน

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น