ร้อยเอ็ด - ตำรวจร้อยเอ็ด โชว์ผลงานเด่น รวบแก๊ง 18 มงกุฎ ตุ๋นเงินชาวบ้าน อ้างมีเส้นสายฝากลูกหลานเข้าทำงานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ร้อยเอ็ด เผยเหยื่อกว่า 21 ราย หลงเชื่อสูญเงินกว่า 1.7 ล้านบาท เล็งสอบขยายผลแกนนำชุมชนในพื้นนที่ หากมีเอี่ยวพร้อมดำเนินคดีในข้อหาสมรู้ร่วมคิด
วันนี้ (23 มี.ค.) พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาแก๊ง 18 มงกุฎ ทั้ง 3 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบด้วย นายเอกพงษ์ ศรีฮาด อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 บ้านโนนหนามแท่ง หมู่ 8 ต.ขี้เหล็ก อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด น.ส.วรารักษ์ หรืออ๋อย บวรโมทย์ อายุ 32 ปี อดีตเจ้าหน้าที่การเงิน อบต.พระเจ้า อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 10 ต.พระเจ้า อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด และ น.ส.ฐิติรัตน์ แก่นนาคำ อายุ 39 ปี อดีตเจ้าหน้าที่การเงิน อบต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 2 ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด
โดยพ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภาค 4 ร.ต.ท.ฐิติกร มัชมณฑล รอง สว.สส. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ โพธิ์รุก รอง สว.สส. ด.ต.อมฤมธิ์ ละลี และ ด.ต.ศุภฉันท์ ศรีโคตร จากตำรวจภาค 4 และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด จับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ภายในเมืองร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทำตัวเป็นแก๊ง 18 มงกุฏ หลอกลวงชาวบ้านอ้างมีเส้นสายสามารถฝากให้ลูกหลานที่จบวุฒิการศึกษาตั้งแต่ ม.6 จนถึงปริญญาโท เข้าทำงานเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีเหยื่อหลงเชื่อสูญเงินรวมกว่า 1,700,000 บาท ให้แก๊งต้มต้น
พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนประณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า เหตุของการจับกุมสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ และปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ไปหลอกลวงชาวบ้านในจังหวัดร้อยเอ็ด ว่าสามารถฝากบุตรหลานเข้าทำงานเป็นข้าราชการในสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด โดยไม่ต้องสอบแข่งขัน แต่ก่อนเข้ารับราชการต้องผ่านการเข้าอบรมพัฒนาจิตใจที่วัดศรีรัตน์ เป็นเวลา 29 วัน แลกกับการจ่ายเงินค่าบริหารจัดการ และการฝึกอบรมตามวุฒิคือ ผู้เรียนจบชั้น ม.6 และวุฒิ ปวช. เพื่อเป็นข้าราชการระดับ 1 จ่ายเงินคนละ 30,000 บาท
ส่วนผู้มีวุฒิ ปวส. และอนุปริญญา เพื่อเป็นข้าราชการระดับ 2 จ่ายเงินคนละ 80,000 บาท และผู้มีวุฒิปริญญาตรี ปริญญาโท เพื่อเป็นข้าราชการระดับ 3 จ่ายเงินคนละ 120,000 บาท ซึ่งมีผู้ปกครองพ่อแม่ของวัยรุ่น จำนวน 21 คนดังกล่าว หลงเชื่อนำเงินไปจ่ายเงินให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 เป็นเงินรวมกว่า 1.7 ล้านบาท หลังจากพัฒนาสังคมฯ จังหวัดร้อยเอ็ด ทราบเรื่อง จึงมอบอำนาจให้ น.ส.กัญญ์สุชัชชญา พิลาภ นิติกรประจำสำนักงานพัฒนาสังคมฯ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สุริยา แสงอ่อนตา พงส.ผนก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ให้ดำเนินคดีต่อ นายเอกพงษ์ และพวก ในข้อหาปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม ไปหลอกลวงเอาเงินชาวบ้าน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชนดังกล่าว
พล.ต.ต.ยงเกียรติ กล่าวต่อว่า การดำเนินคดีจะทำไปตามพยานหลักฐาน นอกจากนี้ ยังพบว่านายเอกพงษ์ ศรีฮาด มีพฤติกรรมแต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหลอกลวงชาวบ้านเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ พร้อมกับพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต จะได้สอบสวน และดำเนินคดีเพิ่มเติม และข้อมูลส่วนหนึ่งที่ได้รับจากพนักงานสอบสวนทราบว่า ผู้ใหญ่บ้าน และกำนันในพื้นที่ให้ความร่วมมือต่อตำรวจน้อยมาก ซึ่งจะให้พนักงานสอบสวนสืบสวนขยายผลว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้นามีส่วนพัวพันกับแก๊งต้มตุ๋นนี้ด้วยหรือไม่ หากมีส่วนก็จะดำเนินคดีในข้อหาสมรู้ร่วมคิดร่วมกันกับแก๊ง 18 มงกุฎหลองลวงชาวบ้านด้วย