ASTVผู้จัดการรายวัน - “ประยุทธ์” ซัดพวกปล่อยแถลงการณ์พระราชวังปลอมจิตใจแย่ ต้องนำตัวมาลงโทษ เพราะคนไทยรับไม่ได้ สตช.สั่งล่ามือโพสต์ด่วน เตือนโพสต์ แชร์ต่อระวังผิดม.112 โฆษก ตร. เผยต้นทางการปลอมเอกสารมาจากต่างประเทศ ด้านผู้ดูแลเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ผู้เผยแพร่ต่อเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ด้านผู้บริหารประกาศปลดผู้ดูแลเว็บไซต์ พร้อมหักลดเงินเดือน เตือนผู้นำเอกสารไปเผยแพร่ต่ออาจมีความผิด พร้อมขอโทษต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ ถึงการติดตามขบวนการปล่อยเอกสารแถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม ว่า ต้องหาผู้ทำเอกสารปลอมที่เผยแพร่ทาางโซเชียลมีเดียว แต่ต้องใช้เวลาในการติดตาม ซึ่งคิดว่าผู้ที่ปล่อยบ่อยครั้ง มีจิตใจที่แย่ ใช้ไม่ได้ และคิดว่าคนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้ยู่แล้ว ฉะนั้นอย่าไปเชื่ออะไรที่ผลีผลาม เมื่อคืนที่ผ่านมา พอตนทราบได้สั่งการ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้รับการยืนยัน จึงแถลงให้ประชาชนได้รับทราบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องไปถามคนทำ ว่ามีเจตนาทำเพื่ออะไร ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ก็พยายามป้องกันการเผยแพร่สิ่งที่ไม่ถูกต้องว่าจะทำอย่างไรให้สามารถป้องกันคนที่ไม่ดีและคนที่จ้องกระทำผิด โดยทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามป้องกัน อีกทั้งจะนำบทลงโทษมาบังคับใช้อย่างจริงจัง เพราะไม่มีใครอยากให้มีคนทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ก็อยากจับกุมทั้งนั้น
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แถลงการณ์ดังกล่าว ถูกแชร์ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นข้อมูลเท็จที่ทำขึ้นจากผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลได้มอบให้ฝ่ายความมั่นคงรับผิดชอบติดตามผู้ไม่หวังดีเหล่านั้น มาดำเนินคดีโดยด่วนแล้ว
ในส่วนของสื่อมวลชนบางส่วนที่นำมาเผยแพร่ โดยปราศจากการตรวจสอบที่ถี่ถ้วนก่อน ก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน สร้างผลกระทบอย่างมากในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจของพี่น้องประชาชน รัฐบาลเข้าใจว่า สื่อต้องทำงานแข่งกับเวลา แต่ความชัดเจนความถูกต้องของข้อมูล ก็เป็นหลักปฏิบัติพื้นฐานที่ทุกสื่อพึงรักษาไว้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสยบข่าวบิดเบือน และสร้างความกระจ่างได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ขอว่า ไม่ควรจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
*** สตช.สั่งล่ามือโพสต์ปลอมแถลงการณ์ฯ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม ที่ปรึกษา(สบ10) สั่งการในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) สั่งการกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ให้เร่งรัดสืบสวน สอบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิด กรณีมีการปลอมแปลงแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ซึ่งปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ และให้ประสานงานกับสำนักงานกฎหมายและคดีอย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.อำนาจ ยังสั่งการในศปก.ตร.ด้วยว่า ให้ทุกหน่วยประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดระมัดระวังการโพสต์ หรือแชร์ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องรายงานผู้บังคับบัญชาให้ใช้ช่องทางโทรศัพท์หรือช่องทางส่วนตัว
***ปลอมแถลงการณ์ต้นทางมาจากตปท.
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่แถลงการณ์ปลอมจากสำนักพระราชวัง ว่า เรื่องดังกล่าวทางสำนักพระราชวัง ได้ประสานโดยตรงมายัง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งตรวจสอบหาที่มาโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นพบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีต้นทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่าทำให้การตรวจสอบติดตามจับกุมผู้ที่เผยแพร่ทำได้ยากขึ้น โดยขณะนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมเพื่อวิเคราะห์เจตนาการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มหรือบุคคลใด
อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายบรรพตแต่อย่างใด ส่วนกรณีบางสำนักข่าวที่นำแถลงการณ์ไปเผยแพร่จะมีความผิดหรือไม่ ต้องไปดูที่เจตนาว่าทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด
*** ผู้ดูแลเว็บASTVผู้จัดการพบพนักงานสอบสวน
วานนี้ (3 ก.พ.) เวลา 10.00น. นายนิรันดร์ เยาวภาว์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ได้เข้าเข้าพบ ร.ต.ท.อภิชาติ กอนจันดา พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน กรณีที่เมื่อคืนวานนี้ (2 ก.พ.) มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 13 และ ทางเว็บไซต์ www.manager.co.th ได้นำเสนอข่าวดังกล่าว จนเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เศษ ของวันที่ 2 ก.พ. ทางเว็บไซต์พบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีพิรุธ และการใช้คำที่ไม่ถูกต้อง จึงได้ประสานกับแหล่งข่าวตรวจสอบแล้วพบว่า เอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่มีข้อมูลไม่เป็นจริง จึงได้ลบข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบเว็บไซต์ และในเวลาต่อมาได้ออกประกาศขออภัยในความผิดพลาด เนื่องจากไม่มีเจตนาที่จะดำเนินการให้เกิดความเสื่อมเสียดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ทางผู้บริหารสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ ได้มีคำสั่งปลด นายนิรันดร์ เยาวภาว์ ออกจากตำแหน่งผู้ดูแลเว็บไซต์ พร้อมหักลดเงินเดือนร้อยละ 50 ในฐานะเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดดังกล่าวโดยนอกจากการแสดงความรับผิดชอบภายในองค์กรแล้วก็จะมีการดำเนินมาตรการตามความเหมาะสมต่อไป
เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ขออภัยต่อผู้อ่านและประชาชนชาวไทยต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ยังขอประณามผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารสำคัญดังกล่าว และกล่าวเตือนว่าผู้ที่นำเอกสารดังกล่าวไปเผยแพร่ โดยคัดลอกจากหน้าเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ทั้งในรูปแบบข้อความหรือภาพอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ ถึงการติดตามขบวนการปล่อยเอกสารแถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม ว่า ต้องหาผู้ทำเอกสารปลอมที่เผยแพร่ทาางโซเชียลมีเดียว แต่ต้องใช้เวลาในการติดตาม ซึ่งคิดว่าผู้ที่ปล่อยบ่อยครั้ง มีจิตใจที่แย่ ใช้ไม่ได้ และคิดว่าคนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้ยู่แล้ว ฉะนั้นอย่าไปเชื่ออะไรที่ผลีผลาม เมื่อคืนที่ผ่านมา พอตนทราบได้สั่งการ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้รับการยืนยัน จึงแถลงให้ประชาชนได้รับทราบ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องไปถามคนทำ ว่ามีเจตนาทำเพื่ออะไร ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ก็พยายามป้องกันการเผยแพร่สิ่งที่ไม่ถูกต้องว่าจะทำอย่างไรให้สามารถป้องกันคนที่ไม่ดีและคนที่จ้องกระทำผิด โดยทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามป้องกัน อีกทั้งจะนำบทลงโทษมาบังคับใช้อย่างจริงจัง เพราะไม่มีใครอยากให้มีคนทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ก็อยากจับกุมทั้งนั้น
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แถลงการณ์ดังกล่าว ถูกแชร์ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นข้อมูลเท็จที่ทำขึ้นจากผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลได้มอบให้ฝ่ายความมั่นคงรับผิดชอบติดตามผู้ไม่หวังดีเหล่านั้น มาดำเนินคดีโดยด่วนแล้ว
ในส่วนของสื่อมวลชนบางส่วนที่นำมาเผยแพร่ โดยปราศจากการตรวจสอบที่ถี่ถ้วนก่อน ก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง เพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน สร้างผลกระทบอย่างมากในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจของพี่น้องประชาชน รัฐบาลเข้าใจว่า สื่อต้องทำงานแข่งกับเวลา แต่ความชัดเจนความถูกต้องของข้อมูล ก็เป็นหลักปฏิบัติพื้นฐานที่ทุกสื่อพึงรักษาไว้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสยบข่าวบิดเบือน และสร้างความกระจ่างได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ขอว่า ไม่ควรจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
*** สตช.สั่งล่ามือโพสต์ปลอมแถลงการณ์ฯ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม ที่ปรึกษา(สบ10) สั่งการในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) สั่งการกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ให้เร่งรัดสืบสวน สอบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิด กรณีมีการปลอมแปลงแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ซึ่งปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ และให้ประสานงานกับสำนักงานกฎหมายและคดีอย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.อำนาจ ยังสั่งการในศปก.ตร.ด้วยว่า ให้ทุกหน่วยประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดระมัดระวังการโพสต์ หรือแชร์ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องรายงานผู้บังคับบัญชาให้ใช้ช่องทางโทรศัพท์หรือช่องทางส่วนตัว
***ปลอมแถลงการณ์ต้นทางมาจากตปท.
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่แถลงการณ์ปลอมจากสำนักพระราชวัง ว่า เรื่องดังกล่าวทางสำนักพระราชวัง ได้ประสานโดยตรงมายัง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งตรวจสอบหาที่มาโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นพบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีต้นทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่าทำให้การตรวจสอบติดตามจับกุมผู้ที่เผยแพร่ทำได้ยากขึ้น โดยขณะนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมเพื่อวิเคราะห์เจตนาการเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มหรือบุคคลใด
อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายบรรพตแต่อย่างใด ส่วนกรณีบางสำนักข่าวที่นำแถลงการณ์ไปเผยแพร่จะมีความผิดหรือไม่ ต้องไปดูที่เจตนาว่าทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด
*** ผู้ดูแลเว็บASTVผู้จัดการพบพนักงานสอบสวน
วานนี้ (3 ก.พ.) เวลา 10.00น. นายนิรันดร์ เยาวภาว์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ได้เข้าเข้าพบ ร.ต.ท.อภิชาติ กอนจันดา พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อลงบันทึกประจำวัน กรณีที่เมื่อคืนวานนี้ (2 ก.พ.) มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 13 และ ทางเว็บไซต์ www.manager.co.th ได้นำเสนอข่าวดังกล่าว จนเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เศษ ของวันที่ 2 ก.พ. ทางเว็บไซต์พบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีพิรุธ และการใช้คำที่ไม่ถูกต้อง จึงได้ประสานกับแหล่งข่าวตรวจสอบแล้วพบว่า เอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่มีข้อมูลไม่เป็นจริง จึงได้ลบข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบเว็บไซต์ และในเวลาต่อมาได้ออกประกาศขออภัยในความผิดพลาด เนื่องจากไม่มีเจตนาที่จะดำเนินการให้เกิดความเสื่อมเสียดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ทางผู้บริหารสื่อในเครือ ASTVผู้จัดการ ได้มีคำสั่งปลด นายนิรันดร์ เยาวภาว์ ออกจากตำแหน่งผู้ดูแลเว็บไซต์ พร้อมหักลดเงินเดือนร้อยละ 50 ในฐานะเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดดังกล่าวโดยนอกจากการแสดงความรับผิดชอบภายในองค์กรแล้วก็จะมีการดำเนินมาตรการตามความเหมาะสมต่อไป
เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ขออภัยต่อผู้อ่านและประชาชนชาวไทยต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ยังขอประณามผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารสำคัญดังกล่าว และกล่าวเตือนว่าผู้ที่นำเอกสารดังกล่าวไปเผยแพร่ โดยคัดลอกจากหน้าเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ทั้งในรูปแบบข้อความหรือภาพอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดได้
