กองปราบฯ รวบสาวคอลเซ็นเตอร์แบงก์ทหารไทย หนีคดีปลอมเอกสารหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทเอกชนที่ จ.ปราจีนบุรี นานเกือบ 10 ปี สุดท้ายจนมุมขณะทำงานอยู่ที่สาขาอาคารเอไอเอ แคปิตอลเซ็นเตอร์ รัชดาภิเษก
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม น.ส.วรินทร มีปลอด อายุ 35 ปี พนักงานคอลเซ็นเตอร์ธนาคารทหารไทยอยู่บ้านเลขที่ 500 ถนนปราจีนอนุสรณ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 193/2551 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2551 ข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ จับกุมได้ที่อาคารเอไอเอ แคปิตอลเซ็นเตอร์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม.
ทั้งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2549 ถึงเดือนมีนาคม 2550 ต่อเนื่องกัน ระหว่างที่ผู้ต้องหาทำงานอยู่ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า จ.ปราจีนบุรี ได้ลอบปลอมเอกสารหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รวมทั้งปลอมหนังสือรับรองการจดทะเบียนเพิ่มหุ้นของ หจก.แห่งหนึ่ง โดยที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าดังกล่าวไม่ทราบเรื่อง ภายหลังมีการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้ปลอมเอกสารดังกล่าวจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี ก่อนที่ศาลจะอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเอาไว้ ต่อมาผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง โดยปัจจุบันทำงานอยู่ที่ธนาคารทหารไทย สาขาอาคารเอไอเอ แคปิตอลเซ็นเตอร์ เมื่อชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบ จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวไว้ได้
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในช่วงเกิดเหตุได้รับพิมพ์เอกสารการจดทะเบียนการค้าของบริษัทห้างร้านต่างๆ หลายแห่ง แต่เป็นไปตามคำสั่งของหัวหน้างาน โดยไม่ทราบว่าเป็นเอกสารที่ทำปลอมขึ้น ตนได้เงินค่าพิมพ์เอกสารครั้งละไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลมาแล้วถึง 7 ครั้งซึ่งชุดจับกุมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุด ธนาคารทหารไทยชี้แจงว่า น.ส.วรินทร ได้กระทำความผิดก่อนหน้าที่จะมาทำงานกับธนาคารฯ เนื่องจาก น.ส.วรินทร เพิ่งมาเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ได้เพียง 6 เดือน ธนาคารจึงอยากแจ้งให้ทราบว่าไม่ได้กระทำความผิดต่อหน้าที่ตำแหน่งในปัจจุบัน