ASTV ผู้จัดการรายวัน – ทัพนักเตะทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีคิวลงอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟาเดย์ พบ สิงคโปร์ ค่ำวันที่ 26 มีนาคม ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา เวลา 19.00 น. ต่อด้วยพบ แคเมอรูน วันที่ 30 มีนาคม ที่สนามราชมังคลากีฬาสนาม เวลาเดียวกัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสู้ศึก ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะเริ่มฟาดแข้งรอบแบ่งกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ทว่าประเด็นที่น่าสนใจคือการกลับมาของ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายอารมณ์ร้อนแห่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถูกเรียกมาติดทีมพร้อมรับภาระที่มากขึ้นคือตำแหน่ง “กัปตันทีมชาติ”
“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ ตัดสินใจประกาศแต่งตั้ง “เจ้าอุ้ม” ธีราทร รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมชาติสำหรับเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นการสวมปลอกแขนทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย โดยเบียดชนะแข้งตัวเก๋าและเพื่อนร่วมทีมซึ่งเคยรับหน้าที่มาแล้วทั้ง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับ “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ สองตัวหลักจาก เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด หรือ “เอ็ม” สุทธินันท์ พุกหอม จาก ชลบุรี เอฟซี ที่ได้เป็นรองกัปตันทีม
ก่อนหน้านี้ ธีราทร เคยได้โอกาสสวมปลอกแขนพาทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี บุกไปคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมาร์ แต่จากนั้นกลับหลุดโผจากสารบบทัพ “ช้างศึก” มาตลอด ตั้งแต่ชุด เอเชียนเกมส์ และ ซูซูกิ คัพ ปี 2014 ต่อด้วย คิงส์ คัพ 2015 เบ็ดเสร็จรวมระยะเวลา 1 ปี 3 เดือน ทว่าในนามสโมสรก็ยังทำผลงานได้คงเส้นคงวาพา “ปราสาทสายฟ้า” คว้าแชมป์ โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก 2014 และฟอร์มโดดเด่นในสังเวียน เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2015 จึงทำให้ชื่อของ ธีราทร หวนกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง
โดยนักเตะวัย 25 ปี เปิดใจถึงการคัมแบ็กในครั้งนี้ว่า “ดีใจมากที่ได้กลับมาติดทีมอีกครั้งในรอบ 1 ปี ต้องขอบคุณทีมงานทีมชาติไทยชุดนี้โดยเฉพาะพี่โก้ ที่มอบโอกาสให้กับผม ที่สำคัญถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีมในครั้งนี้ แม้เคยรับหน้าที่มาแล้วแต่ก็เป็นเพียงชุด ซีเกมส์ แต่ครั้งนี้เป็นทีมชาติชุดใหญ่ ดังนั้น จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
ด้วยภาระหน้าที่มากขึ้น ทำให้ “เจ้าอุ้ม” ต้องสวมบทแม่ทัพสั่งการรุ่นพี่ที่อายุมากกว่าในสนาม ต่างจากของเดิมที่เคยออกหน้าคุมรุ่นน้องใน ซีเกมส์ โดยเจ้าตัวยอมรับรู้สึกกดดันแต่ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้สมกับปลอกแขนกัปตันที่ได้รับ “ด้วยวัยวุฒิแล้วผมคิดว่ารุ่นพี่คนอื่นๆ ที่ได้รับหน้าที่นี้ แต่เมื่อโค้ชเลือกแล้วก็จะทำให้ดีที่สุด รับผิดชอบดูแลทั้งในและนอกสนามเป็นคนแรก ส่วนเรื่องการสั่งการคงไม่เป็นปัญหา คงเป็นเพียงการช่วยให้เสียงมากกว่า เพราะทุกคนต้องช่วยให้เสียงกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอยู่คนเดียว”
ทั้งนี้ ประเด็นที่หลายฝ่ายจับตากรณีการควบคุมอารมณ์ของเจ้าตัวที่หลายครั้งแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมยามสวมเสื้อสโมสรลงสนาม “แบ็กซ้ายปราสาทสายฟ้า” เผยว่าภาพเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน “การได้เป็นกัปตันทีมทำให้ผมใจเย็นขึ้น อย่าง ซีเกมส์ ที่ผ่านมา ในฐานะกัปตันทีมเราจะไปหาเรื่องคู่แข่งก็คงทำไม่ได้ เราต้องเป็นคนห้ามมากกว่า พอมาอยู่ทีมชุดนี้ก็ต้องควบคุมอารมณ์มากกว่าเดิม ที่สำคัญยังมีรุ่นพี่หลายคนที่คิดว่าน่าจะช่วยผมควบคุมเรื่องนี้ได้อีกแรง”
ส่วนคำถามที่ว่าแบ็กซ้ายทีมชาติไทย จะอยู่รับตำแหน่งนี้ต่อไปหรือไม่สำหรับภารกิจลุย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก “เจ้าอุ้ม” ทิ้งท้ายว่ายังไม่คิดถึงเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องอีกยาวไกล และอยากมุ่งสมาธิอยู่กับการทำผลงานในสนามมากกว่า “ตอนนี้ผมขอโฟกัสไปที่เกมอุ่นเครื่อง 2 นัดนี้ก่อน การได้เป็นกัปตันทีมชุดนี้ถือว่าเป็นเกียรติมากแล้ว ส่วนจะได้เป็นต่อถึงรายการฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย หรือไม่นั้นคงต้องยกให้ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ถ้าได้รับโอกาสอีกผมก็พร้อมและยินดีที่จะรับหน้าที่ต่อไป”
สุดท้าย “ซิโก้” ได้กล่าวสมทบถึงเหตุผลที่เลือก ธีราทร เป็นกัปตันทีมว่า “เราไม่ได้มองแค่เรื่องอายุ แต่มองภาพรวมในสนาม ซึ่ง อุ้ม มีความเหมาะสมทุกด้าน เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาอาจติดภารกิจกับสโมสร แต่วันนี้เขาได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์โค้ช และแฟนคลับ มีเกียรติและศักดิ์ศรีพอที่จะเป็นหัวหน้าทีม ที่สำคัญสามารถสั่งการน้องได้ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานระหว่างพี่ๆ กับน้องเด็กใหม่ เราจึงต้องการให้เขาเป็นผู้นำในสนาม ส่วนเรื่องการควบคุมอารมณ์นั้นผมไม่ห่วง เพราะเขารู้ด้วยตัวเองอยู่แล้วว่าการเล่นให้ทีมชาติต่างจากสโมสร ทีมชาติไม่ใช่ทีมของใครคนใดคนหนึ่ง เวลาแพ้ก็แพ้ด้วยกันทั้งประเทศ”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *