คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เมื่อราวปี พ.ศ.2522-23 ตอนนั้น คุณแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ยังเป็นเด็กสาว วัยเพียง 13-14 ปี เข้าเรียน เทควันโด้ อยู่ที่ ราชกรีฑาสโมสร (The Royal Bangkok Sports Club) อยู่เลย ใครจะไปคิดว่า วันนี้ เธอจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ในการนำความฝันของคนไทยที่อยากเห็นฟุตบอลไทยไปสู่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่งความจริงหลายคนมองไปที่ ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ หรือถ้าจะเป็นสโมสรของไทยได้สิทธิ์ไปแข่งชิงแช้มพ์สโมสรโลกก็ไม่เกี่ยง มันก็ดังระดับโลกทั้งนั้น แต่นี่ ฟุตบอลหญิง ดันซิวโควตา ฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลก ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน ถึง 5 กรกฎาคมนี้ที่ ประเทศแคนาดา เฉยเลย
นี่เป็นฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลกหนที่ 7 แล้ว หลังจากที่หนแรกเริ่มจัดกันในปี 1991 ที่ ประเทศจีน มีทีมเข้าร่วมแข่งขันแค่ 12 ทีม อีก 4 ปีต่อมา สวีเดน เป็นเจ้าภาพ สองหนถัดไป สหรัฐอเมริกา ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพทั้ง 2 ครั้งซ้อน ซึ่งตอนจัดครั้งแรกก็เพิ่มเป็น 16 ทีม จากนั้นก็กลับไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนที่จะไปจัดการแข่งขันหนที่ 6 ที่ เจอรมานี ในปี 2011 ซึ่ง ญี่ปุ่น สามารถคว้าแช้มพ์มาครองได้สำเร็จ สำหรับหนนี้ที่ แคนาดา มีการเพิ่มทีมเข้าร่วมการแข่งขันเป็น 24 ทีม
การแข่งขันรอบแรกจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มๆละ 4 ทีม แข่งกันแบบพบกันหมดที่เรียกว่า ราวน์ด ร๊อบบิ้น (round-robin) นำ 2 อันดับแรกของทุกกลุ่ม และอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมเข้ารอบน้อคเอ๊าท์ 16 ทีม นั่นหมายถึงทีมที่จะตกรอบแรกก็คือ บ๊วยของกลุ่ม 6 ทีมและอันดับ 3 ที่แย่ที่สุดอีก 2 ทีม รวมเป็นแค่ 8 ทีมเท่านั้น ดังนั้น ทีมชาติไทย ก็น่าจะมีโอกาสไม่น้อยที่อาจได้ผ่านเข้าสู่รองสอง
เราได้เข้าร่วมแข่งขันในฐานะทีมอันดับ 5 ของ เอเชีย ที่จัดการแข่งขันกันที่ ประเทศเวียตนาม เมื่อกลางปีที่แล้ว โดยจบอันดับที่ 3 ของกลุ่ม แล้วไปชนะเจ้าภาพที่เป็นอันดับ 3 ของอีกกลุ่มใน รอบเพลย์-อ๊อฟ ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบความแข็งแกร่งโดยนับอันดับฟีฟ่าเป็นเกณฑ์พอให้เดาออก ในปัจจุบัน ไทย ก็มีอันดับฟีฟ่า 31 ก็คงเป็นทีมวางอันดับที่ 19 จากทั้งหมด 24 ทีม โดยมีทีมที่มีอันดับฟีฟ่านำเป็นลำดับต้นๆคือ เจอรมานี แช้มพ์โลก 2 สมัยที่อยู่ร่วมกลุ่มกับ ไทย ตามด้วย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และ สวีเดน
แม้ว่าดูจากอันดับฟีฟ่าแล้ว ความหวังจะริบหรี่แต่ก็ยังถือดีกว่าอีก 5 ชาติคือ ไนจีเรีย อันดับ 32 ก๊อสตา รีกา อันดับ 37 เอวาดอร อันดับ 46 กาเมอรูน อันดับ 52 และ โก๊ต ดีวัวร ที่มาอยู่ร่วมกลุ่มกับ ไทย อันดับ 65 โดยเฉพาะ 4 ทีมหลังนี้เพิ่งได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลก เป็นหนแรกเหมือนกับไทยเรา
สิ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจขึ้นมาก็คือในเรื่องการเตรียมทีมนั้น ทีมชาติไทยได้ไปขลุกตัวอยู่ในประเทศเมืองหนาวนานนับเดือน เพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ การรวมทีม แผนการเล่น และอื่นๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีการลงทีมอุ่นเครื่องอย่างสม่ำเสมอ โดยผลงานระยะแรกก็ สุดบู่ ตามความคาดหมาย แพ้ขาดห่างชั้นกันมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากนั้นเริ่มทำประตูได้ มีชนะและเสมอเสียด้วย เริ่มด้วย 7 ก.พ. แพ้ ฮอลแลนด์ เละเทะ 0-7 11 ก.พ. แพ้ เปแอสเฟ อายน์โธเฟ่น (PSV FC Eindhoven) 1-2 14 ก.พ. แพ้ สตองดาร เฟมีนา เด ลีแอ๊ช (Standard Femina de Liege) 1-3 18 ก.พ. แพ้ อัยหยักซ์ (Ajax) 0-3 24 ก.พ. ชนะ เอ๊สซีเอ๊ส เอ๊สเซ่น (SCS Essen) 2-1 และ 25 ก.พ. เสมอ ฟอร์ทูน่า ซิทถาร์ด (Fortuna Sittard) 1-1
การแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลกหนนี้จะใช้สนามที่เป็นหญ้าเทียมทั้งสิ้น ซึ่งหลายฝ่ายเกิดความไม่พอใจ อ้างว่าอาจเกิดอันตรายต่อนักเตะได้ง่ายกว่าการใช้สนามหญ้าจริง มีการนำไปเปรียบเทียบกับฟุตบอลโลกทีมชายที่ได้เล่นในสนามหญ้าจริง ถือว่าเป็นความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ เกิดการประท้วงแสดงความไม่เห็นด้วยกันมาพอควร อย่างไรก็ตาม ตาติยานา เฮนนี (Tatjana Haenni) หัวหน้าฝ่ายจัดการแข่งขันออกมายืนยันชัดเจนว่า เราจะเล่นบนสนามหญ้าเทียม และจะไม่มีแผนอื่นเตรียมไว้ด้วย เป็นอันว่าสิ่งที่เราต้องเตรียมเผชิญนั้นยังมีอีกไม่น้อย นอกจากปัญหาเรื่องรูปร่างที่เสียเปรียบนักเตะฝรั่งอย่างชัดเจน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
เมื่อราวปี พ.ศ.2522-23 ตอนนั้น คุณแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ยังเป็นเด็กสาว วัยเพียง 13-14 ปี เข้าเรียน เทควันโด้ อยู่ที่ ราชกรีฑาสโมสร (The Royal Bangkok Sports Club) อยู่เลย ใครจะไปคิดว่า วันนี้ เธอจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ในการนำความฝันของคนไทยที่อยากเห็นฟุตบอลไทยไปสู่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่งความจริงหลายคนมองไปที่ ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ หรือถ้าจะเป็นสโมสรของไทยได้สิทธิ์ไปแข่งชิงแช้มพ์สโมสรโลกก็ไม่เกี่ยง มันก็ดังระดับโลกทั้งนั้น แต่นี่ ฟุตบอลหญิง ดันซิวโควตา ฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลก ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน ถึง 5 กรกฎาคมนี้ที่ ประเทศแคนาดา เฉยเลย
นี่เป็นฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลกหนที่ 7 แล้ว หลังจากที่หนแรกเริ่มจัดกันในปี 1991 ที่ ประเทศจีน มีทีมเข้าร่วมแข่งขันแค่ 12 ทีม อีก 4 ปีต่อมา สวีเดน เป็นเจ้าภาพ สองหนถัดไป สหรัฐอเมริกา ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพทั้ง 2 ครั้งซ้อน ซึ่งตอนจัดครั้งแรกก็เพิ่มเป็น 16 ทีม จากนั้นก็กลับไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนที่จะไปจัดการแข่งขันหนที่ 6 ที่ เจอรมานี ในปี 2011 ซึ่ง ญี่ปุ่น สามารถคว้าแช้มพ์มาครองได้สำเร็จ สำหรับหนนี้ที่ แคนาดา มีการเพิ่มทีมเข้าร่วมการแข่งขันเป็น 24 ทีม
การแข่งขันรอบแรกจะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มๆละ 4 ทีม แข่งกันแบบพบกันหมดที่เรียกว่า ราวน์ด ร๊อบบิ้น (round-robin) นำ 2 อันดับแรกของทุกกลุ่ม และอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมเข้ารอบน้อคเอ๊าท์ 16 ทีม นั่นหมายถึงทีมที่จะตกรอบแรกก็คือ บ๊วยของกลุ่ม 6 ทีมและอันดับ 3 ที่แย่ที่สุดอีก 2 ทีม รวมเป็นแค่ 8 ทีมเท่านั้น ดังนั้น ทีมชาติไทย ก็น่าจะมีโอกาสไม่น้อยที่อาจได้ผ่านเข้าสู่รองสอง
เราได้เข้าร่วมแข่งขันในฐานะทีมอันดับ 5 ของ เอเชีย ที่จัดการแข่งขันกันที่ ประเทศเวียตนาม เมื่อกลางปีที่แล้ว โดยจบอันดับที่ 3 ของกลุ่ม แล้วไปชนะเจ้าภาพที่เป็นอันดับ 3 ของอีกกลุ่มใน รอบเพลย์-อ๊อฟ ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบความแข็งแกร่งโดยนับอันดับฟีฟ่าเป็นเกณฑ์พอให้เดาออก ในปัจจุบัน ไทย ก็มีอันดับฟีฟ่า 31 ก็คงเป็นทีมวางอันดับที่ 19 จากทั้งหมด 24 ทีม โดยมีทีมที่มีอันดับฟีฟ่านำเป็นลำดับต้นๆคือ เจอรมานี แช้มพ์โลก 2 สมัยที่อยู่ร่วมกลุ่มกับ ไทย ตามด้วย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และ สวีเดน
แม้ว่าดูจากอันดับฟีฟ่าแล้ว ความหวังจะริบหรี่แต่ก็ยังถือดีกว่าอีก 5 ชาติคือ ไนจีเรีย อันดับ 32 ก๊อสตา รีกา อันดับ 37 เอวาดอร อันดับ 46 กาเมอรูน อันดับ 52 และ โก๊ต ดีวัวร ที่มาอยู่ร่วมกลุ่มกับ ไทย อันดับ 65 โดยเฉพาะ 4 ทีมหลังนี้เพิ่งได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลก เป็นหนแรกเหมือนกับไทยเรา
สิ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจขึ้นมาก็คือในเรื่องการเตรียมทีมนั้น ทีมชาติไทยได้ไปขลุกตัวอยู่ในประเทศเมืองหนาวนานนับเดือน เพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ การรวมทีม แผนการเล่น และอื่นๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีการลงทีมอุ่นเครื่องอย่างสม่ำเสมอ โดยผลงานระยะแรกก็ สุดบู่ ตามความคาดหมาย แพ้ขาดห่างชั้นกันมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากนั้นเริ่มทำประตูได้ มีชนะและเสมอเสียด้วย เริ่มด้วย 7 ก.พ. แพ้ ฮอลแลนด์ เละเทะ 0-7 11 ก.พ. แพ้ เปแอสเฟ อายน์โธเฟ่น (PSV FC Eindhoven) 1-2 14 ก.พ. แพ้ สตองดาร เฟมีนา เด ลีแอ๊ช (Standard Femina de Liege) 1-3 18 ก.พ. แพ้ อัยหยักซ์ (Ajax) 0-3 24 ก.พ. ชนะ เอ๊สซีเอ๊ส เอ๊สเซ่น (SCS Essen) 2-1 และ 25 ก.พ. เสมอ ฟอร์ทูน่า ซิทถาร์ด (Fortuna Sittard) 1-1
การแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแช้มพ์โลกหนนี้จะใช้สนามที่เป็นหญ้าเทียมทั้งสิ้น ซึ่งหลายฝ่ายเกิดความไม่พอใจ อ้างว่าอาจเกิดอันตรายต่อนักเตะได้ง่ายกว่าการใช้สนามหญ้าจริง มีการนำไปเปรียบเทียบกับฟุตบอลโลกทีมชายที่ได้เล่นในสนามหญ้าจริง ถือว่าเป็นความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ เกิดการประท้วงแสดงความไม่เห็นด้วยกันมาพอควร อย่างไรก็ตาม ตาติยานา เฮนนี (Tatjana Haenni) หัวหน้าฝ่ายจัดการแข่งขันออกมายืนยันชัดเจนว่า เราจะเล่นบนสนามหญ้าเทียม และจะไม่มีแผนอื่นเตรียมไว้ด้วย เป็นอันว่าสิ่งที่เราต้องเตรียมเผชิญนั้นยังมีอีกไม่น้อย นอกจากปัญหาเรื่องรูปร่างที่เสียเปรียบนักเตะฝรั่งอย่างชัดเจน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *