คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
จากทัวร์นาเมนต์คัดเลือกโอลิมปิก 2016 รอบสอง โซนเอเชีย ที่ประเทศพม่า "คุณแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีม นำทีมจบรายการด้วยผลงานอันดับ 3 หมดสิทธิ์ร่วมแข่งขันรอบ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่น ส่งสาวพลังเหงียน เวียดนาม ไปแข่งแทน นาทีที่แพ้คู่ปรับร่วมอาเซียน 2-0 ส่งผลให้เหล่าบรรดาเกรียนเน็ตในโลกโซเชียลถล่มแหลกผลงานทีมสาวไทย "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน แสดงความรับผิดชอบต่อผลงานด้วยการประกาศอำลาทีมทันที คล้อยหลังกลับถึงสนามบินดอนเมือง "คุณแป้ง" แถลงทั้งน้ำตาขอลงจากเก้าอี้ที่นั่งทำงานมากว่า 6 ปี พร้อมสารภาพว่างานนี้หมดไปร่วมๆ ร้อยล้านบาท
หากยังจำกันได้ดีวันนั้น "มาดามแป้ง" แสดงความท้อแท้อย่างเห็นได้ชัดว่าแทบไม่ได้รับการเหลียวแลจากทั้งภาครัฐ และหน่วยงานอื่นๆ อย่างที่ควรจะเป็น แต่ละสิ่งแต่ละอย่างแทบต้องช่วยเหลือตัวเอง คิดดูแล้วกันว่านักฟุตบอลหญิงอุตส่าห์นำทีมไปถึงฟุตบอลโลก แต่หลายคนยังไม่มีงานทำ บางคนอยากเป็นตำรวจ แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจ ผิดกับนักการเมืองสาวบางคน แทบจะเอาราชรถไปเกยให้มาสวมเครื่องแบบ เจอแบบนี้ต่อให้หัวจิตหัวใจแกร่งดั่งภูผามันก็ยากที่จะอดทน
การอำลาของ "โค้ชหนึ่ง" อาจส่งผลสะเทือน แต่ไม่หนักหนาสาหัสเท่าการจากลาของมาดามคนสวยร้อนถึงคนระดับ "รัฐมนตรีน้อง" กอบกาญจน์ เจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ต้องเรียกนางฟ้าลูกหนังหญิงเข้าหารือถึงความเป็นไปได้ในการกลับมาทำงานที่ตำแหน่งเดิม พร้อมกับแสดงการสนับสนุนเป็น "ทีมนวลพรรณ" ไม่ต่างจากแฟนๆ รายการประกวดร้องเพลงดัง "เดอะ วอยซ์" ที่ต่างก็มีแฟนคลับตั้งตนเป็นทีมโค้ชโจอี้, ทีมโค้ชคิ้ม หรือทีมโค้ชก้อง
ขณะที่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ผู้นำสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ยังต้องหันมาให้ความสำคัญกับคุณแป้งมากขึ้นด้วยการเสนอชื่อเข้าเป็นอุปนายกสมาคม สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่ามาดามผู้ปลุกปั้นแข้งสาวไปจารึกประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกกลับมาได้รับความสำคัญ และจะไม่ถูกหมางเมินจากฝ่ายต่างๆ ในแวดวงกีฬาเหมือนที่ผ่านมา
เมื่อถูกง้องอนอ้อนวอนกันขนาดนี้ มีหรือสตรีผู้สูงส่งด้วยเงินตราและความงามจะแข็งใจอยู่ไหว สุดท้ายก็คงกลับมาพร้อมเงื่อนไขที่ฝ่ายต่างๆ ต้องยื่นมือมาสนับสนุนฟุตบอลหญิงไทยให้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการตั้งลีกฟุตบอลเพื่อหานักกีฬาฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมชาติทดแทนรุ่นเก่าที่เริ่มโรยรา รวมทั้งยังต้องช่วยเหลือสนับสนุนนักกีฬาให้ได้ติดยศติดตรามีงานมีการทำเหมือนเช่นนักกีฬาที่รับใช้ชาติจากสมาคมกีฬาอื่นๆ ไม่ใช่เตะบอลเสร็จจบทัวร์นาเมนต์แล้วไม่รู้จะหาสตุ้งสตางค์ที่ไหนไปซื้อข้าวสารกรอกหม้อเหมือนที่ผ่านมา
ตามประสาคนคิดลึก คิดมาก บางครั้งก็แอบอดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าหากนี่เป็นเกมการต่อรองเพื่ออนาคตวงการฟุตบอลหญิง เอาเป็นว่าคนที่ชนะเลิศคือ "มาดามแป้ง" และวงการลูกหนังแม่เนื้ออ่อนอย่างไม่ต้องสงสัย...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
จากทัวร์นาเมนต์คัดเลือกโอลิมปิก 2016 รอบสอง โซนเอเชีย ที่ประเทศพม่า "คุณแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีม นำทีมจบรายการด้วยผลงานอันดับ 3 หมดสิทธิ์ร่วมแข่งขันรอบ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่น ส่งสาวพลังเหงียน เวียดนาม ไปแข่งแทน นาทีที่แพ้คู่ปรับร่วมอาเซียน 2-0 ส่งผลให้เหล่าบรรดาเกรียนเน็ตในโลกโซเชียลถล่มแหลกผลงานทีมสาวไทย "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน แสดงความรับผิดชอบต่อผลงานด้วยการประกาศอำลาทีมทันที คล้อยหลังกลับถึงสนามบินดอนเมือง "คุณแป้ง" แถลงทั้งน้ำตาขอลงจากเก้าอี้ที่นั่งทำงานมากว่า 6 ปี พร้อมสารภาพว่างานนี้หมดไปร่วมๆ ร้อยล้านบาท
หากยังจำกันได้ดีวันนั้น "มาดามแป้ง" แสดงความท้อแท้อย่างเห็นได้ชัดว่าแทบไม่ได้รับการเหลียวแลจากทั้งภาครัฐ และหน่วยงานอื่นๆ อย่างที่ควรจะเป็น แต่ละสิ่งแต่ละอย่างแทบต้องช่วยเหลือตัวเอง คิดดูแล้วกันว่านักฟุตบอลหญิงอุตส่าห์นำทีมไปถึงฟุตบอลโลก แต่หลายคนยังไม่มีงานทำ บางคนอยากเป็นตำรวจ แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจ ผิดกับนักการเมืองสาวบางคน แทบจะเอาราชรถไปเกยให้มาสวมเครื่องแบบ เจอแบบนี้ต่อให้หัวจิตหัวใจแกร่งดั่งภูผามันก็ยากที่จะอดทน
การอำลาของ "โค้ชหนึ่ง" อาจส่งผลสะเทือน แต่ไม่หนักหนาสาหัสเท่าการจากลาของมาดามคนสวยร้อนถึงคนระดับ "รัฐมนตรีน้อง" กอบกาญจน์ เจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ต้องเรียกนางฟ้าลูกหนังหญิงเข้าหารือถึงความเป็นไปได้ในการกลับมาทำงานที่ตำแหน่งเดิม พร้อมกับแสดงการสนับสนุนเป็น "ทีมนวลพรรณ" ไม่ต่างจากแฟนๆ รายการประกวดร้องเพลงดัง "เดอะ วอยซ์" ที่ต่างก็มีแฟนคลับตั้งตนเป็นทีมโค้ชโจอี้, ทีมโค้ชคิ้ม หรือทีมโค้ชก้อง
ขณะที่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ผู้นำสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ยังต้องหันมาให้ความสำคัญกับคุณแป้งมากขึ้นด้วยการเสนอชื่อเข้าเป็นอุปนายกสมาคม สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่ามาดามผู้ปลุกปั้นแข้งสาวไปจารึกประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกกลับมาได้รับความสำคัญ และจะไม่ถูกหมางเมินจากฝ่ายต่างๆ ในแวดวงกีฬาเหมือนที่ผ่านมา
เมื่อถูกง้องอนอ้อนวอนกันขนาดนี้ มีหรือสตรีผู้สูงส่งด้วยเงินตราและความงามจะแข็งใจอยู่ไหว สุดท้ายก็คงกลับมาพร้อมเงื่อนไขที่ฝ่ายต่างๆ ต้องยื่นมือมาสนับสนุนฟุตบอลหญิงไทยให้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการตั้งลีกฟุตบอลเพื่อหานักกีฬาฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมชาติทดแทนรุ่นเก่าที่เริ่มโรยรา รวมทั้งยังต้องช่วยเหลือสนับสนุนนักกีฬาให้ได้ติดยศติดตรามีงานมีการทำเหมือนเช่นนักกีฬาที่รับใช้ชาติจากสมาคมกีฬาอื่นๆ ไม่ใช่เตะบอลเสร็จจบทัวร์นาเมนต์แล้วไม่รู้จะหาสตุ้งสตางค์ที่ไหนไปซื้อข้าวสารกรอกหม้อเหมือนที่ผ่านมา
ตามประสาคนคิดลึก คิดมาก บางครั้งก็แอบอดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าหากนี่เป็นเกมการต่อรองเพื่ออนาคตวงการฟุตบอลหญิง เอาเป็นว่าคนที่ชนะเลิศคือ "มาดามแป้ง" และวงการลูกหนังแม่เนื้ออ่อนอย่างไม่ต้องสงสัย...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *