คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
แม้ว่าจะมีกำหนดทราบผลการโหวทเมืองที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 33 ล่วงหน้า 7 ปี คือในปี 2017 แต่บัดนี้กระบวนการขั้นตอนในการสรรหาได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา
เมืองที่เสนอตัวแล้วคือ โรมา ประเทศอิตาลี บ๊อสเติ้น ของ สหรัฐอเมริกา และยังมีเมืองอื่นๆ ที่ให้ความสนใจอีกมากมาย เช่น ปารี ประเทศฝรั่งเศส แบรลิน ของ เจอรมานี เคอะเปนฮาว ของ เดนมาร์ค ไนโรบี ประเทศเคนยา และจากทวีปเอเชียก็มี โดฮา ของ กาตาร์ เป็นต้น
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว คณะกรรมการโอลิมปิคสากล (International Olympic Committee - IOC) หรือ อายโอซี ได้เริ่มประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อเชิญชวนเมืองที่สนใจเป็นเจ้าภาพให้เริ่มกระบวนการเสนอตัว คณะกรรมการโอลิมปิคของชาติใดที่สนใจก็ต้องจัดเตรียมโครงการตั้งแต่บัดนี้ ถามเจ้าเมือง ถามรัฐบาล คิดโครงการสร้างหรือปรับปรุงสนามกีฬา หาแหล่งเงินทุนสนับสนุนค่าใช้จ่าย จัดเตรียมเอกสารเสนอตัว ฯลฯ อันนี้ยังมีเวลาให้คิดกันร่วม 8 เดือน
ต่อไปก็จะเข้าสู่ช่วง กระบวนการการสมัคร ซึ่งก็จะกินระยะเวลายาวนานอีกประมาณ 8 เดือน เริ่มกันตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2015 คณะกรรมการโอลิมปิคของชาตินั้นๆ จะต้องส่งชื่อเมืองผู้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพให้กับ อายโอซี ซึ่งทาง อายโอซี ก็จะจัดสัมมนาเพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ให้แก่บรรดาเมืองผู้เสนอตัวที่จะถูกเรียกในตอนนี้ก่อนว่า เมืองผู้สมัคร (Applicant City) ที่ เมืองโลซาน ประเทศสวิส ในวันที่ 7 - 9 ตุลาคม 2015
เมืองผู้สมัคร มีเวลายื่นเอกสารการสมัครให้ครบถ้วนพร้อมทั้งหนังสือยืนยันรับรองจนถึงวันที่ 8 มกราคม 2016 แล้วอีก 2 เดือนถัดมา คือในเดือนมีนาคม 2016 คณะทำงานของ อายโอซี จะประชุมกันเพื่อทำการประเมิน เมืองผู้สมัคร ซึ่งแต่ละเมืองผู้สมัครก็สามารถเข้าร่วมได้โดยระบบการประชุมร่วมผ่านวีดิทัศน์ (Video Conference) แล้วภายในเดือนสองเดือนนี่แหละคือประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2016 คณะกรรมการบริหารของ อายโอซี ก็จะคัดเลือกเมืองที่ได้รับสิทธิ์ชิงความเป็นเจ้าภาพ ตอนนี้ เมืองผู้สมัคร ที่ผ่านการคัดเลือกก็จะได้รับแบบสอบถาม รวมทั้ง เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องจาก อายโอซี เป็นอันจบกระบวนการการสมัคร จากสถานะ เมืองผู้สมัคร ก็จะเปลี่ยนเป็น เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ (Candidate City)
ช่วงต่อไปเป็น กระบวนการชิงสิทธิ์ เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2016 กินระยะเวลาประมาณ 13 เดือน เริ่มจากช่วงวันที่ 5 - 21 สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ เมือง ริโอ เดอ จาไนโร ของ ประเทศบราซิว เป็นเจ้าภาพจัด โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 31 อันนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ จะต้องเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยตลอดการแข่งขัน
เมื่อจบ ริโอ 2016 ไปแล้ว ในช่วงปลายปี คือราวเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม เขาจะจัดให้มี การบรรยายสรุปและตอบข้อซักถามอย่างละเอียดหลังการจัดการแข่งขัน ที่เรียกว่า Rio 2016 Debrief ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อันนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ก็ต้องเข้าร่วมด้วย
คราวนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ จะต้องยื่นเอกสารพร้อมหนังสือยืนยันรับรองให้แก่ อายโอซี อีกหน โดยมีกำหนดไม่ช้ากว่าเดือนมกราคม 2017 แล้วในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมนี่แหละที่คณะกรรมาธิการด้านการประเมินของ อายโอซี จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมบรรดาเมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะมีการตีพิมพ์เผยแพร่รายงานการตรวจเยี่ยมดังกล่าวในเดือนมิถุนายน และในช่วงประมาณนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ก็จะได้โอกาสเข้าบรรยายสรุปให้ทาง อายโอซี ฟัง อันนี้จะมีการยืนยันช่วงเวลากันชัดๆ อีกที
ลำดับต่อไปถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญมีผลต่อการชี้ชะตาว่าเมืองใดจะมีโอกาสได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ นั่นคือ ในช่วงฤดูร้อนของปี 2017 เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ จะทำการนำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการโอลิมปิคสากล อันนี้ ทาง อายโอซี ก็จะได้รับรายงานฉบับสุดท้ายจาก ประธานคณะกรรมาธิการด้านการประเมินของ อายโอซี เป็นเอกสารสำคัญด้วย
และบทสรุปสุดท้ายก็มาถึงคือ การโหวทเลือกเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2024 ในการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคสากล ครั้งที่ 130 ที่ เมืองลีมา ประเทศเปรู ในวันที่ 15 กันยายน 2017
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
แม้ว่าจะมีกำหนดทราบผลการโหวทเมืองที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 33 ล่วงหน้า 7 ปี คือในปี 2017 แต่บัดนี้กระบวนการขั้นตอนในการสรรหาได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา
เมืองที่เสนอตัวแล้วคือ โรมา ประเทศอิตาลี บ๊อสเติ้น ของ สหรัฐอเมริกา และยังมีเมืองอื่นๆ ที่ให้ความสนใจอีกมากมาย เช่น ปารี ประเทศฝรั่งเศส แบรลิน ของ เจอรมานี เคอะเปนฮาว ของ เดนมาร์ค ไนโรบี ประเทศเคนยา และจากทวีปเอเชียก็มี โดฮา ของ กาตาร์ เป็นต้น
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว คณะกรรมการโอลิมปิคสากล (International Olympic Committee - IOC) หรือ อายโอซี ได้เริ่มประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อเชิญชวนเมืองที่สนใจเป็นเจ้าภาพให้เริ่มกระบวนการเสนอตัว คณะกรรมการโอลิมปิคของชาติใดที่สนใจก็ต้องจัดเตรียมโครงการตั้งแต่บัดนี้ ถามเจ้าเมือง ถามรัฐบาล คิดโครงการสร้างหรือปรับปรุงสนามกีฬา หาแหล่งเงินทุนสนับสนุนค่าใช้จ่าย จัดเตรียมเอกสารเสนอตัว ฯลฯ อันนี้ยังมีเวลาให้คิดกันร่วม 8 เดือน
ต่อไปก็จะเข้าสู่ช่วง กระบวนการการสมัคร ซึ่งก็จะกินระยะเวลายาวนานอีกประมาณ 8 เดือน เริ่มกันตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2015 คณะกรรมการโอลิมปิคของชาตินั้นๆ จะต้องส่งชื่อเมืองผู้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพให้กับ อายโอซี ซึ่งทาง อายโอซี ก็จะจัดสัมมนาเพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ให้แก่บรรดาเมืองผู้เสนอตัวที่จะถูกเรียกในตอนนี้ก่อนว่า เมืองผู้สมัคร (Applicant City) ที่ เมืองโลซาน ประเทศสวิส ในวันที่ 7 - 9 ตุลาคม 2015
เมืองผู้สมัคร มีเวลายื่นเอกสารการสมัครให้ครบถ้วนพร้อมทั้งหนังสือยืนยันรับรองจนถึงวันที่ 8 มกราคม 2016 แล้วอีก 2 เดือนถัดมา คือในเดือนมีนาคม 2016 คณะทำงานของ อายโอซี จะประชุมกันเพื่อทำการประเมิน เมืองผู้สมัคร ซึ่งแต่ละเมืองผู้สมัครก็สามารถเข้าร่วมได้โดยระบบการประชุมร่วมผ่านวีดิทัศน์ (Video Conference) แล้วภายในเดือนสองเดือนนี่แหละคือประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2016 คณะกรรมการบริหารของ อายโอซี ก็จะคัดเลือกเมืองที่ได้รับสิทธิ์ชิงความเป็นเจ้าภาพ ตอนนี้ เมืองผู้สมัคร ที่ผ่านการคัดเลือกก็จะได้รับแบบสอบถาม รวมทั้ง เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องจาก อายโอซี เป็นอันจบกระบวนการการสมัคร จากสถานะ เมืองผู้สมัคร ก็จะเปลี่ยนเป็น เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ (Candidate City)
ช่วงต่อไปเป็น กระบวนการชิงสิทธิ์ เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2016 กินระยะเวลาประมาณ 13 เดือน เริ่มจากช่วงวันที่ 5 - 21 สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ เมือง ริโอ เดอ จาไนโร ของ ประเทศบราซิว เป็นเจ้าภาพจัด โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 31 อันนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ จะต้องเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยตลอดการแข่งขัน
เมื่อจบ ริโอ 2016 ไปแล้ว ในช่วงปลายปี คือราวเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม เขาจะจัดให้มี การบรรยายสรุปและตอบข้อซักถามอย่างละเอียดหลังการจัดการแข่งขัน ที่เรียกว่า Rio 2016 Debrief ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อันนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ก็ต้องเข้าร่วมด้วย
คราวนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ จะต้องยื่นเอกสารพร้อมหนังสือยืนยันรับรองให้แก่ อายโอซี อีกหน โดยมีกำหนดไม่ช้ากว่าเดือนมกราคม 2017 แล้วในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมนี่แหละที่คณะกรรมาธิการด้านการประเมินของ อายโอซี จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมบรรดาเมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะมีการตีพิมพ์เผยแพร่รายงานการตรวจเยี่ยมดังกล่าวในเดือนมิถุนายน และในช่วงประมาณนี้ เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ก็จะได้โอกาสเข้าบรรยายสรุปให้ทาง อายโอซี ฟัง อันนี้จะมีการยืนยันช่วงเวลากันชัดๆ อีกที
ลำดับต่อไปถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญมีผลต่อการชี้ชะตาว่าเมืองใดจะมีโอกาสได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ นั่นคือ ในช่วงฤดูร้อนของปี 2017 เมืองผู้ชิงสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ จะทำการนำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการโอลิมปิคสากล อันนี้ ทาง อายโอซี ก็จะได้รับรายงานฉบับสุดท้ายจาก ประธานคณะกรรมาธิการด้านการประเมินของ อายโอซี เป็นเอกสารสำคัญด้วย
และบทสรุปสุดท้ายก็มาถึงคือ การโหวทเลือกเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2024 ในการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคสากล ครั้งที่ 130 ที่ เมืองลีมา ประเทศเปรู ในวันที่ 15 กันยายน 2017
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *