คอลัมน์ “BUZZER BEAT” โดย “MVP”
พินิจพิเคราะห์อยู่นานว่าจะเล่าถึงประเด็นนี้ดีหรือเปล่า แต่ไหนๆ ตัดสินใจแล้ว ก็ต้องขอสะกิดสักหน่อย เนื่องจากเกิดสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างว่า อาจไม่ได้เขียนถึงอีกเลยก็เป็นได้ นั่นคือ โคบี ไบรอันท์ และสถานะ แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่งปัจจุบันต้องบอกเลยว่า ออราสี “ม่วงทอง” ไม่อาจแผ่ขยายทั่วทั้งเมือง ลอส แองเจลิส แถมยังถูกสีแดงน้ำเงินของ แอลเอ คลิปเปอร์ส บดบังรัศมีจนดับสนิท
ก่อนเปิดฉากศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2014-15 แน่นอนว่าไม่มีใครชายตาแลทีมอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส แม้แต่น้อย ด้วยสภาพทีมที่เข้าสู่ยุคผลัดใบ ซึ่งมี โคบี ไบรอันท์ เป็นแกนหลัก และอ็อปขั่นเสริมอย่าง คาร์ลอส บูเซอร์ ฟอร์เวิร์ดจอมเก๋า , เจเรมี หลิน และ จูเลียส แรนเดิล เซ็นเตอร์รุกกี พอถึงเวลาจริงๆ ตอนนี้ก็แพ้ไปแล้ว 4 เกมรวด
โชคชะตายังกลั่นแกล้งไม่พอ เมื่อต้องเสีย แรนเดิล คาดกันว่าต้องพักจนจบฤดูกาล ทั้งที่เล่นไปเพียง 1 เกม สตีฟ แนช ก็แทบเป็นบุคคลที่ถูกลืม เพราะมักจะรักษาตัวมากกว่าลงเล่น ถึงแม้จะบอกว่าเรกูลาร์ ซีซัน ยังเหลืออีกยาวไกล แต่ถึงเวลาต้องรับสภาพว่า หาก เลเกอร์ส จะสอดแทรกติอดันดับ 8 สายตะวันตก ดูจะยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นยอดเขาเอเวอร์เรสต์ หรือหิมาลัย เสียอีก
สิ่งที่น่ายินดีอย่างหนึ่งสำหรับ เลเกอร์ส แฟนๆ บางท่านอาจจะบอกว่า ผลงาน โคบี ไบรอันท์ ช่วงออกสตาร์ท กระซวกเฉลี่ย 24.8 แต้ม สูงสุดของทีม ตรงกันข้ามมันอาจจะไม่ใช่ผลดีต่อทีมเท่าไร หากย้อนกลับไปยุค “ซูเปอร์ทีม” ที่ประสานงานกับ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด , เพา กาซอล , เมตตา เวิลด์พีซ และ สตีฟ แนช เมื่อฤดูกาล 2012-13 โคบี เองก็ทำค่าเฉลี่ยสูงสุด 27.9 แต้ม ปรากฏว่า เลเกอร์ส ก็กระเสือกกระสนเข้าเพลย์ออฟอันดับ 8
เทียบศักยภาพของ เลเกอร์ส ยุคปัจจุบัน กับ 2 ปีก่อน ถือว่าแตกต่างกันลิบลับ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสุด คือ หาก โคบี ฉายเดี่ยว หรือถ้าจะเน้นการถ่ายบอล อย่างไรเสียคนจบก็ต้องเป็น โคบี เนื่องจากดูจะมีโอกาสเป็นแต้มมากสุดหากเปรียบกับคนอื่นๆ เท่ากับว่า คู่แข่งจะหยุด ทีมของ ไบรอน สกอตต์ ก็ต้องจัดการ โคบี ทุกอย่างก็จบสิ้นเสียแล้ว ครั้นจะใช้ เจเรมี หลิน หรือ คาร์ลอส บูเซอร์ ก็ไม่ใช่ผู้เล่นชนิดปิดสกอร์เป็นกอบเป็นกำ เริ่มซีซันมา 4 นัด ทั้งคู่ก็ทำไปแค่ 9 แต้มกว่าๆ
สำหรับ เลเกอร์ส ชั่วโมงนี้ต้องบอกเลยว่า ขอให้โชคดีกับการเสี่ยงล็อตเตอรีดราฟต์ ปี 2015 และภาวนาว่าจะค้นพบ “นิว โคบี ไบรอันท์” เพราะเชื่อว่า สัญญา 2 ปี 48.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.455 พันล้านบาท) ที่เซ็นกันไว้เมื่อปีที่แล้ว น่าจะเป็นสัญญาฉบับสุดท้าย ซึ่งเมื่อสิ้นสุดลง โคบี ก็จะมีอายุ 38 ปี ก็น่าจะถึงเวลาต้องอำลาถิ่น สเตเปิล เซ็นเตอร์ เสียที
ลองทบทวนอดีตพอจะนึกได้ลางๆ ว่า โคบี ก็หวังสวมแหวนวงที่ 6 แต่ขุมกำลังของ เลเกอร์ส ถ้าบอกว่าจะเข้าเพลย์ออฟ คงต้องหัวร่อกันจนท้องแข็งตาย สิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้แฟนๆ รักและยกย่อง การ์ดดีกรีแชมป์ 5 สมัย นั่นคือ การลงเล่นให้ทีมๆ เดียวมานาน 19 ฤดูกาล เทียบเท่า จอห์น สต็อคตัน และหากอยู่จนครบสัญญาก็จะเป็นเจ้าของสถิติคนใหม่ทันที แต่สิ่งนี้มันต้องสังเวยด้วยความฝัน นี่คือความโหดร้ายของวงการกีฬา และชีวิตจริง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
พินิจพิเคราะห์อยู่นานว่าจะเล่าถึงประเด็นนี้ดีหรือเปล่า แต่ไหนๆ ตัดสินใจแล้ว ก็ต้องขอสะกิดสักหน่อย เนื่องจากเกิดสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างว่า อาจไม่ได้เขียนถึงอีกเลยก็เป็นได้ นั่นคือ โคบี ไบรอันท์ และสถานะ แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่งปัจจุบันต้องบอกเลยว่า ออราสี “ม่วงทอง” ไม่อาจแผ่ขยายทั่วทั้งเมือง ลอส แองเจลิส แถมยังถูกสีแดงน้ำเงินของ แอลเอ คลิปเปอร์ส บดบังรัศมีจนดับสนิท
ก่อนเปิดฉากศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาล 2014-15 แน่นอนว่าไม่มีใครชายตาแลทีมอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส แม้แต่น้อย ด้วยสภาพทีมที่เข้าสู่ยุคผลัดใบ ซึ่งมี โคบี ไบรอันท์ เป็นแกนหลัก และอ็อปขั่นเสริมอย่าง คาร์ลอส บูเซอร์ ฟอร์เวิร์ดจอมเก๋า , เจเรมี หลิน และ จูเลียส แรนเดิล เซ็นเตอร์รุกกี พอถึงเวลาจริงๆ ตอนนี้ก็แพ้ไปแล้ว 4 เกมรวด
โชคชะตายังกลั่นแกล้งไม่พอ เมื่อต้องเสีย แรนเดิล คาดกันว่าต้องพักจนจบฤดูกาล ทั้งที่เล่นไปเพียง 1 เกม สตีฟ แนช ก็แทบเป็นบุคคลที่ถูกลืม เพราะมักจะรักษาตัวมากกว่าลงเล่น ถึงแม้จะบอกว่าเรกูลาร์ ซีซัน ยังเหลืออีกยาวไกล แต่ถึงเวลาต้องรับสภาพว่า หาก เลเกอร์ส จะสอดแทรกติอดันดับ 8 สายตะวันตก ดูจะยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นยอดเขาเอเวอร์เรสต์ หรือหิมาลัย เสียอีก
สิ่งที่น่ายินดีอย่างหนึ่งสำหรับ เลเกอร์ส แฟนๆ บางท่านอาจจะบอกว่า ผลงาน โคบี ไบรอันท์ ช่วงออกสตาร์ท กระซวกเฉลี่ย 24.8 แต้ม สูงสุดของทีม ตรงกันข้ามมันอาจจะไม่ใช่ผลดีต่อทีมเท่าไร หากย้อนกลับไปยุค “ซูเปอร์ทีม” ที่ประสานงานกับ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด , เพา กาซอล , เมตตา เวิลด์พีซ และ สตีฟ แนช เมื่อฤดูกาล 2012-13 โคบี เองก็ทำค่าเฉลี่ยสูงสุด 27.9 แต้ม ปรากฏว่า เลเกอร์ส ก็กระเสือกกระสนเข้าเพลย์ออฟอันดับ 8
เทียบศักยภาพของ เลเกอร์ส ยุคปัจจุบัน กับ 2 ปีก่อน ถือว่าแตกต่างกันลิบลับ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสุด คือ หาก โคบี ฉายเดี่ยว หรือถ้าจะเน้นการถ่ายบอล อย่างไรเสียคนจบก็ต้องเป็น โคบี เนื่องจากดูจะมีโอกาสเป็นแต้มมากสุดหากเปรียบกับคนอื่นๆ เท่ากับว่า คู่แข่งจะหยุด ทีมของ ไบรอน สกอตต์ ก็ต้องจัดการ โคบี ทุกอย่างก็จบสิ้นเสียแล้ว ครั้นจะใช้ เจเรมี หลิน หรือ คาร์ลอส บูเซอร์ ก็ไม่ใช่ผู้เล่นชนิดปิดสกอร์เป็นกอบเป็นกำ เริ่มซีซันมา 4 นัด ทั้งคู่ก็ทำไปแค่ 9 แต้มกว่าๆ
สำหรับ เลเกอร์ส ชั่วโมงนี้ต้องบอกเลยว่า ขอให้โชคดีกับการเสี่ยงล็อตเตอรีดราฟต์ ปี 2015 และภาวนาว่าจะค้นพบ “นิว โคบี ไบรอันท์” เพราะเชื่อว่า สัญญา 2 ปี 48.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.455 พันล้านบาท) ที่เซ็นกันไว้เมื่อปีที่แล้ว น่าจะเป็นสัญญาฉบับสุดท้าย ซึ่งเมื่อสิ้นสุดลง โคบี ก็จะมีอายุ 38 ปี ก็น่าจะถึงเวลาต้องอำลาถิ่น สเตเปิล เซ็นเตอร์ เสียที
ลองทบทวนอดีตพอจะนึกได้ลางๆ ว่า โคบี ก็หวังสวมแหวนวงที่ 6 แต่ขุมกำลังของ เลเกอร์ส ถ้าบอกว่าจะเข้าเพลย์ออฟ คงต้องหัวร่อกันจนท้องแข็งตาย สิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้แฟนๆ รักและยกย่อง การ์ดดีกรีแชมป์ 5 สมัย นั่นคือ การลงเล่นให้ทีมๆ เดียวมานาน 19 ฤดูกาล เทียบเท่า จอห์น สต็อคตัน และหากอยู่จนครบสัญญาก็จะเป็นเจ้าของสถิติคนใหม่ทันที แต่สิ่งนี้มันต้องสังเวยด้วยความฝัน นี่คือความโหดร้ายของวงการกีฬา และชีวิตจริง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *