บีบีซีนิวส์/เอเอฟพี - สำนักวาติกัน ตลอดจนหอสมุดแห่งชาติโปแลนด์ ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ หลังบีบีซีออกอากาศสารคดีบอกเล่าความสัมพันธ์พิเศษยาวนาน 30 ปีระหว่างอดีตสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ผู้ล่วงลับ กับหญิงที่แต่งงานแล้ว โดยอ้างอิงจดหมายและภาพถ่ายนับร้อย
สารคดีดังกล่าวที่ออกอากาศเมื่อวันจันทร์ (15 ก.พ.) ไม่ได้มีการระบุว่า อดีตสันตะปาปาองค์นี้ทรงละเมิดคำมั่นในการครองพรมจรรย์ กับแอนนา-เทเรซา ไทมีนิกกา นักปรัชญาและนักเขียนชาวโปแลนด์ แต่อย่างใด แม้ถ้อยคำในจดหมายแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความรู้สึกลึกซึ้งระหว่างทั้งคู่ก็ตาม
มิตรภาพของคนทั้งสองเริ่มต้นขึ้นในปี 1973 เมื่อไทมีนิกกาติดต่อจอห์น ปอลที่ 2 ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งคาร์ดินัล คาโรล วอยติวา แห่งคราคูฟ เกี่ยวกับหนังสือปรัชญาที่ทรงนิพนธ์ขึ้น
จากนั้นไทมีนิกกา ที่ขณะนั้นอายุ 50 ปี บินจากอเมริกาไปโปแลนด์เพื่อพบกับวอยติวา และหลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็เริ่มเขียนจดหมายโต้ตอบกัน ซึ่งในระยะแรกจดหมายของอดีตสันตะปาปายังใช้ถ้อยคำที่เป็นทางการ แต่หลังจากมิตรภาพเบ่งบาน ทั้งสองคนก็สนิทสนมกันมากขึ้น
ทั้งสองตัดสินใจร่วมกันผลิตหนังสือพระนิพนธ์ของโป๊ปฉบับขยายความ และมีโอกาสได้พบกันหลายครั้ง โดยที่มีทั้งอยู่ด้วยกันตามลำพังและมีเลขานุการของพระองค์อยู่ด้วย ทั้งสองยังเคยไปตั้งแคมป์และเล่นสกีช่วงวันหยุดด้วยกันโดยมีบุคคลอื่นอยู่ด้วย รวมถึงเดินเล่นในชนบท
ในจดหมายฉบับหนึ่งเมื่อเดือนกันยายน 1976 วอยติวาเรียกไทมีนิกกาว่า “ของขวัญจากพระเจ้า” และในเดือนเดียวกันนั้น เขาเขียนจดหมายถึงเธออีกฉบับมีข้อความว่า “เมื่อปีที่แล้วผมพยายามค้นหาคำตอบของข้อความที่ว่า “ผมเป็นของคุณ” และก่อนที่จะจากโปแลนด์ไป ผมได้คำตอบนั้นแล้วในสกาปูลาร์นี้”
สกาปูลาร์ (scapular) คือผ้าแถบผืนยาวเจาะตรงคอเพื่อให้สวมทับลงไปบนไหล่สองข้างได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อผ้าของนักบวช และคาร์ดินัล วอยติวาได้มอบสกาปูลาร์ให้ไทมีนิกกา “เพื่อให้ผมได้ตอบรับและรู้สึกถึงคุณในทุกสถานการณ์ ทั้งเมื่อคุณอยู่ใกล้หรือไกลจากผม”
เอ็ดเวิร์ด สเตอร์ตัน ผู้สื่อข่าวอาวุโสของบีบีซีซึ่งจัดทำสารคดีชุดนี้ เผยว่า พบจดหมายกว่า 350 ฉบับที่หอสมุดแห่งชาติโปแลนด์ โดยฉบับแรกลงวันที่ในปี 1973 และฉบับสุดท้ายเป็นช่วงไม่กี่เดือนก่อนที่โป๊ปจอห์น ปอลที่ 2 จะสิ้นพระชนม์ในปี 2005
สเตอร์ตันลงความเห็นว่า คนทั้งคู่เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ถึงขั้นคนรัก และว่า หนึ่งในสิ่งที่พบจากจดหมายเหล่านี้คือ การพยายามควบคุมความสัมพันธ์อันลึกซึ้งอย่างยิ่งที่ผสมผสานทั้งอารมณ์และแนวคิดทางปรัชญาให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมของคริสเตียน
ทางด้านสำนักวาติกันออกมาระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่เรื่องชวนพิศวง เนื่องจากพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 เป็นมิตรใกล้ชิดกับบุคคลมากมายทั้งชายและหญิง
ขณะที่หอสมุดแห่งชาติโปแลนด์ปฏิเสธการตีความจดหมายของจอห์น ปอลที่ 2 ของบีบีซี โดยกล่าวเช่นเดียวกันว่า อดีตพระสันตะปาปามีเพื่อนมากมาย และความสัมพันธ์ดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นความลับหรือมีเรื่องต้องห้ามใดๆ
ขณะเดียวกัน บาทหลวงอดัม โบนิกกี บรรณาธิการบริหารนิตยสารแคทอลิกรายสัปดาห์ Tygodnik Powszechny และเป็นผู้ช่วยใกล้ชิดของจอห์น ปอลที่ 2 แสดงความเห็นว่า เป็นไปได้ที่หญิงแต่งงานแล้วจะตกหลุมรักพระองค์ก่อนที่จะรับตำแหน่งประมุขคริสตจักรคาทอลิก และว่า ไทมีนิกาแปลหนังสือปรัชญาของพระสังฆราชาวอยติวาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่แก่นักวิชาการอเมริกัน แต่การดำเนินการดังกล่าวทำให้ทั้งคู่มีปัญหากัน
ทั้งนี้ บีบีซีพบเพียงจดหมายของจอห์น ปอลที่ 2 แต่ไม่เคยเห็นจดหมายโต้ตอบของไทมีนิกกา ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2014
จอห์น ปอลที่ 2 ครองตำแหน่งสันตะปาปาระหว่างปี 1978-2005 และได้รับการสถาปนาป็นนักบุญในปี 2014 โดยสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน
ในอัตชีวประวัติที่ออกมาในปี 1996 ในชื่อ “เดอะ กิฟต์ แอนด์ มิสเทอรี” จอห์น ปอลที่ 2 ปฏิเสธข้อคิดเห็นที่ว่า ความรักถ่วงเวลาพระองค์ในการอุทิศชีวิตให้แก่คริสตจักร จากก่อนหน้านั้นที่สำนักวาติกันออกมาปฏิเสธว่า พระองค์ไม่เคยมีคู่หมั้น
อนึ่ง ในปี 1979 คาร์ล เบิร์นสไตน์ และมาร์โค โพลิติ นักข่าวเชิงเจาะลึก เปิดเผยชื่อหญิงสาวยิวคนหนึ่งคือ จิงกา เบียร์ กับ ฮาลินา โครลิกิวิซ ลูกสาวของผู้ช่วยครูใหญ่ ว่าเคยเป็น 2 เพื่อนสาวคนสนิทของวอยติวาสมัยหนุ่ม