xs
xsm
sm
md
lg

“เอเยนต์” ดาบ 2 คม ที่ต้องพก / ชมณัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

เอเยนต์ ชื่อนี้ถูกนักเตะและสโมสรตั้งแง่ตีตราว่าจะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ของตนเอง เพราะกระแสข่าวด้านลบมีมากเหลือเกิน เช่นล่าสุดที่ เลอันโดร เด โอลิเวียรา ศูนย์หน้าบราซิเลียน ของ สิงห์ ท่าเรือ โดนเอเยนต์ตัวเองฟ้องเรียกค่าเสียหายโทษฐานละเมิดสัญญา แต่ต้องยอมรับว่าโลกลูกหนัง ณ ปัจจุบันนี้จะขาดฟันเฟืองชิ้นนี้ไม่ได้เลยในการขับเคลื่อน และคงถึงเวลาที่วงการฟุตบอลไทยต้องเปิดใจยอมรับกับประโยชน์มากมายที่จะได้รับ

ที่ผ่านมา นักฟุตบอลไทยต่างอยู่ในระบบอุปถัมภ์จากสโมสรผู้ปลุกปั้นตนขึ้นมา การจะย้ายทีม ต่อสัญญา เรียกค่าเหนื่อยเพิ่ม หรือ รับงานอีเวนต์ต่างๆ มักต้องอยู่ภายใต้การตัดสินใจของทีมเป็นหลัก ไม่ค่อยมีปากมีเสียงในการต่อรองเจรจามากนัก อีกทั้งยังอยู่ในวัฒนธรรมแบบพี่น้อง ญาติผู้ใหญ่ หรือผู้มีพระคุณด้วยแล้ว แม้หลายครั้งจะไม่พอใจแต่ก็ต้องเกรงใจก้มหน้าก้มตายอมตกลง

แต่เมื่อก้าวสู่วิถีมืออาชีพ มีค่าจ้างสูงแตะหลักหมื่นหลักแสนบาทต่อเดือน (บางคนหลักล้าน) จึงจำต้องมีหน่วยรักษาผลประโยชน์มาคอยปกป้อง ซึ่งเหล่าบรรดาแข้งระดับโลกต่างมีผู้ดูแลขุมทรัพย์ของตนทั้งสิ้น หลายรายให้คนไว้ใจในครอบครัวเป็นผู้ดูแล แต่ก็มีไม่น้อยที่เลือกใช้ผู้มีประสบการณ์มืออาชีพที่เรียกว่า เอเยนต์

แม้อาจจะมองได้ว่า เอเยนต์ เหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากปลิงที่คอยสูบเงินจากรายได้ที่พ่อค้าแข้งหามาได้ เช่น หากมีการย้ายทีมจากที่นักเตะจะได้ค่าเซ็นสัญญากินเปล่าก้อนโต ก็จำต้องเจียดแบ่งส่วนให้กับเอเยนต์ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา จะกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไปแต่ห้ามเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ตามกฎหมาย ขณะที่สโมสรก็ส่ายหน้าเพราะแทนที่จะได้คุมแข้งในสังกัดโดยตรง ก็อาจถูกความหัวหมอและเล่ห์เหลี่ยมของเอเยนต์ทำให้เสียประโยชน์ได้

กระนั้นทั้งคู่ต่างก็ได้รับประโยชน์จากเอเยนต์ไม่ต่างกัน ยามที่สโมสรต้องการนักเตะเสริมทัพ ครั้นจะระหกระเหินไปตามเจรจากับนักเตะที่หมายปองเป็นสิบๆ รายก็เสียเวลา การใช้บริการเอเยนต์ที่เร่เอาโปรไฟล์นักเตะมาให้ดูถึงที่นั้นสะดวกสบายกว่ามาก และหลังจากนั้นเอเยนต์จะไปเจรจากับต้นสังกัดของนักเตะรายนั้นแทน เป็นการป้องการตีท้ายครัวแอบย่องเข้าคุยทางหลังบ้านไปในตัว

ขณะที่ตัวนักฟุตบอลเองก็ไม่ต้องกังวลตั้งหน้าตั้งตาซ้อมเพียงอย่างเดียว เอเยนต์จะเป็นผู้ดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเตะอย่างเสร็จสรรพ ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองราคาค่าตัว ค่าเหนื่อย สวัสดิการต่างๆ ทั้งการต่อสัญญาหรือย้ายทีม ก่อนนำข้อสรุปที่ได้มาให้ตัดสินใจว่าโอเคหรือไม่ ซึ่งส่วนมากจะคุ้มประโยชน์ในเรื่องเม็ดเงินเพราะตัวเอเยนต์ยิ่งทำเงินให้นักเตะมากตนก็จะได้มากตามเช่นกัน ที่สำคัญนักฟุตบอลมักไม่ชินเรื่องข้อกฎหมายและเอกสาร หากต้องเจรจาด้วยตนเองกับผู้บริหารที่มีพวกเคี่ยวโชกโชนด้วยแล้วยิ่งมีโอกาสสูงที่จะเสียผลประโยชน์ ดังนั้นการยอมเสียเงินบ้างบางส่วนเพื่อความสบายใจจึงเป็นทางออกที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ก่อนเซ็นสัญญานักเตะก็ต้องศึกษารายละเอียดให้รอบคอบถึงสิทธิ์ที่ตัวเองพึงมี รวมถึงขอบเขตของเอเยนต์ เพราะหลายครั้งที่เอเยนต์อาจมองที่ผลประโยชน์ทางด้านเม็ดเงินเป็นหลักมากกว่าความพึงพอใจของตัวนักเตะ จึงอาจเกิดการหักกันและทำผิดสัญญาเกิดขึ้น แต่รายไหนเจอเอเยนต์ดีก็ดีไป เหมือนที่ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์ระดับโลก ได้รับคำชมจากนักเตะและคนทำทีมมากมายทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด โชเซ มูรินโญ หรือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งทุกวันนี้เมืองไทยก็มี บริษัท เอเยนต์ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมาให้เลือกใช้บริการมากมาย

เราถนัดสิ่งไหนก็ทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องที่ไม่ถนัดก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมืออาชีพจัดการนั่นแลดี

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น