“แหวน” เด็กหญิงจากภูเขียว สู่โปรสาว "แอลพีจีเอ ทัวร์"

“โปรแหวน” เป็นชื่อเล่นที่คนในวงการรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนชื่อจริง พรอนงค์ เพชรล้ำ เป็นสาวน้อยอายุย่างเข้าวัยเบญจเพสในเดือนธันวาคมปีนี้ คุณพ่อดุสิต คุณแม่เพลินพุฒ มีพี่น้องสามคน พี่แวว-พี่วาว และน้องแหวน เธอเกิดที่จังหวัดขอนแก่น แต่มาเติบโตที่ชัยภูมิ ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 28 ของโลก(อัพเดท 30 พย.57)เธอจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ และเพิ่งเข้ารับพระราชทานปริญญามหาบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา

แหวน เริ่มสนใจในกีฬากอล์ฟตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เนื่องจากคุณพ่อและพี่ชาย คือบ้านนี้เล่นกอล์ฟกันหมดทั้งบ้านยกเว้นแม่คนเดียว และปัจจุบันพี่วาว-พรพงษ์ เพชรล้ำ เลิกเป็นทัวริ่งโปร หันมาทำหน้าที่แบกถุงให้น้องสาว ในแอลพีจีเอ ทัวร์ เดินนำหน้าบ้างเดินตามหลังบ้าง ให้แฟนกอล์ฟทั่วโลกได้เป็นที่ประจักษ์

จากนักกอล์ฟระดับเยาวชนสมัครเล่นก้าวเข้ามาสู่ชีวิตสวิงอาชีพโดยเทิร์นโปรมาตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยก่อนหน้านั้นคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ รายการฮ่องกง เลดีส์ โอเพ่น (ปี 2549) ในวัย 15 ปีทั้งๆที่ยังเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น แล้วจึงเทิร์นโปรในปีถัดมา หลังจากนั้นก็ได้แชมป์เอเชียน ทัวร์ อีก 3 รายการคือ ไทยแลนด์ เลดีส์ โอเพ่น (ปี 2551) และ ดีแอลเอฟ วีเมนส์ อินเดียน โอเพ่น (ปี 2551 และปี 2552)

ตอนนี้เธอบอกว่าพยายามฝึกซ้อมให้หนักขึ้น หากไม่มีแข่ง ในวันจันทร์ พุธ และ ศุกร์ จะไปฟิสเนสตอนเช้า และตอนบ่ายจะไปซ้อมไดร์ฟ แต่ถ้าออกรอบจะเล่นทั้งวัน สำหรับเรื่องโค้ชตอนนี้ยังไม่มี แต่ก่อนเป็นคุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ (อดีตผู้บริหารเอสเอ็มจี) ตอนนี้ท่านเสียไปแล้วก็เลยซ้อมเองกับพี่ชายและจะใช้การแข่งขันจริงเป็นการฝึกซ้อมไปในตัวมากกว่า แต่มีพี่ๆในสังกัดสิงห์มาช่วยอย่าง โปรรุ่งทิวา ปางจั่น อดีตนักกอล์ฟทีมชาติไทย

การไปแข่งในต่างประเทศนั้น เธอบอกว่าต้องปรับตัวเล็กน้อย จากเรื่องของสภาพอากาศและสนามที่ยังไม่เคยเจอ ส่วนการลงแข่งในประเทศเธอบอกว่าจะอบอุ่นมากกว่าเพราะได้เจอเพื่อนๆ แต่พูดไปแล้วเธอบอกว่าก็ชอบหมดทุกรายการที่ลงแข่ง เพราะมันเป็นความท้าทายจากความยากของแต่ละสนามที่แตกต่างกัน

ปี 2010 พรอนงค์ เล่นในฟิวเจอร์สทัวร์จบลงใน 10 อันดับแรกของเงินรางวัล ได้สิทธิ์เลื่อนไปเล่นแอลพีจีเอทัวร์ในปี 2011 แต่เป็นนอนเอ็กเซมพ์ (แข่งขันบางรายการ) ทำให้เธอตัดสินใจเล่นคิวสกูล แอลพีจีเอทัวร์ สเตจสุดท้ายจบลงอันดับ 7 ร่วมได้การ์ดทัวร์เต็มฤดูกาลในปี 2011 ซึ่งก็สร้างผลงานดีจบลงอันดับ 13 ร่วมสองรายการที่ประเทศไทย และสหรัฐฯ ทำเงินรางวัลรวมทั้งฤดูกาลอยู่อันดับ 57 รักษาการ์ดทัวร์เล่นในฤดูกาล 2012 อีกครั้ง

พรอนงค์ได้แชมป์แรกในแอลพีจีเอทัวร์(แต่เป็นแม็ทช์ไม่เป็นทางการ)ที่บราซิล ในรายการ HSBC LPGA Brasil Cup เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2012 หลังจากนั้นเธอก็ทำผลงานดีมาตลอดในการแข่งขันทั้งฤดูกาล

ปลายปี 2013 ในรายการปิดท้ายของ LET หรือ Ladies European Tour เธอก็ชนะอีกครั้ง โดยมีชัยเหนือ สเตซี่ ลูอิส นักกอล์ฟหมายเลข 3 ของโลก โดยเฉือนลูอิส ใน 2 หลุมสุดท้ายไปเพียง 1 สโตรค ซึ่งปี 2013 ก็เป็นปีที่พรอนงค์เล่นได้อย่างคงเส้นคงวา และเธอก็โดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบของผู้นิยมกอล์ฟจากทั่วโลก เพราะลักษณะที่น่ารัก แจกรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา เหมือนตุ๊กตาจากเมืองสยาม (เธอมีส่วนสูงแค่ 5 ฟุต 3 นิ้ว หรือ ประมาณ 158 ซม. เท่านั้น)

สำหรับต้นปี 2014 พรอนงค์ก็ประเดิมสนามด้วยการคว้าแชมป์ Taiwan LPGA Ladies Classic ที่เมืองเต้าหยวน ประเทศใต้หวัน ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 3 ของเธอ ซึ่งเธอเคยคว้าแชมป์ในรายการนี้มาก่อนในปี 2011 และ 2013

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9-12 ตุลาคมที่ผ่านมา ในช่วงการแข่งขันเอเชี่ยนสวิง รายการไซม์ ดาร์บี้ แอลพีจีเอ มาเลเซีย โปรแหวนเกือบทำให้แฟนกอล์ฟชาวไทยมีเฮ ในการเป็นคนไทยรายแรกที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ แต่เธอทำได้ดีที่สุดแค่รองแชมป์ ไม่เป็นไรพวกเราเป็นกำลังใจเชียร์เธอต่อไป

เธอเคยกล่าวกับผู้เขียนไว้ว่า “แหวนเห็นการพัฒนาของวงการกอล์ฟสตรีในเมืองไทย เห็นเด็กรุ่นใหม่หลายคนเทิร์นโปรขึ้นมาสู้กับรุ่นพี่ๆ เห็นการสนับสนุนของผู้ใหญ่ใจดีที่ให้เงินรางวัลและสนามแข่งขัน เห็นความเอาจริงเอาจังของสมาคมกอล์ฟอาชีพสตรี ที่มีคุณปฏิญญา ควรตระกูล เป็นหัวเรือใหญ่ แหวนคิดว่ากอล์ฟอาชีพสตรีบ้านเราเดินมาถูกทางแล้ว อีกไม่นานเราคงเห็นโปรไทยโลดแล่นในทัวร์ต่างๆของโลกเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แอลพีจีเอ ทัวร์ ,เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ไชน่า แอลพีจีเอ ทัวร์ หรือเอเชี่ยน ทัวร์ เป็นต้น”

“สำหรับแหวน ภายในปีนี้คงจะกลับมาเปิดสนามไดร์ฟของครอบครัว ไม่เกินเดือนธันวาคม จริงๆแล้วเป็นความคิดของครอบครัวเพชรล้ำ ที่อยากทำศูนย์กีฬาให้คนชัยภูมิ โดยเฉพาะคนภูเขียว ได้มีสถานที่ออกกำลังกาย มีทั้งสวนสาธารณะ ศูนย์กีฬาในร่ม และกลางแจ้ง แต่ขอเปิดสนามไดร์ฟก่อนเป็นอย่างแรกค่ะ เป็นความภูมิใจของแหวนที่ได้ตอบแทนสังคมค่ะ”

กับคำถามที่ว่าแหวนเคยให้ของขวัญชิ้นใหญ่อะไรแก่พ่อแม่บ้าง เธอตอบว่า “แหวนเคยให้ของขวัญพ่อแม่เป็นเงินก้อนโตกว่า 10 ล้านบาทค่ะ ซื้อบ้านซื้อรถให้พี่วาว เสร็จแล้วแหวนก็ขอไปอยู่ด้วย จะได้ไม่ต้องซื้อของตัวเองอีกหลัง รู้สึกอบอุ่นดีค่ะ” พร้อมกับรอยยิ้มอันภาคภูมิใจของเจ้าตัว

หากย้อนกลับไปเมื่อ 14-15 ปีที่แล้ว วันที่คุณพ่อดุสิตกระเตงพรพงษ์ และพรอนงค์ ขึ้นรถ ระหว่างลูกหลับมาในรถ คุณพ่อขับ 6 ชั่วโมง จากจังหวัดชัยภูมิมาถึงกรุงเทพมหานคร ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ก็ลงที่สนามซ้อมบ้าง ส่งไปอยู่กอล์ฟแค้มป์ช่วงปิดเทอมบ้าง ที่คุ้นตาทุกคนนอกจากพ่อ ลูกชาย ลูกสาว แล้วจะเห็นหน่อไม้ปี๊บ อีกผลผลิตของครอบครัวที่ทำมาเป็นเวลาหลายปี ติดท้ายรถมาฝากคนเมืองหลวงทุกครั้ง

โปรแหวนปิดท้ายว่า “ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ ที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้แหวนมีวันนี้ ขอบคุณ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ที่เมตตาแหวนมาตั้งแต่เด็กๆ และที่แหวนไม่เคยลืมเลยคือ ''ลุงเปี๊ยก'' ศุภพร มาพึ่งพงศ์ ที่บอกว่า แหวนทำได้ค่ะ”

เรื่องโดย: เหมียว บางซ่อน