เอเยนซี - ศึกกอล์ฟประเภททีม “ไรเดอร์ คัพ” ครั้งที่ 40 ณ สนาม กลีนีเกิลส์ กอล์ฟ คลับ สกอตแลนด์ เตรียมเปิดฉากวันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2557 โดยปีนี้ก้านเหล็กเลือดใหม่ฝั่งสหรัฐฯ ที่ไร้ซูเปอร์สตาร์อย่าง ไทเกอร์ วูดส์ ภายใต้การวางแผนของกัปตัน ทอม วัตสัน จะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง หลังจากต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้มาตลอด 5 จาก 6 ครั้งหลังสุด ส่วนฝั่ง พอล แม็คกินเลย์ ของทีมรวมยุโรป ได้ รอรีย์ แม็คอิลรอย มือ 1 โลกขึ้นมาเป็นแกนหลักเต็มตัว ซึ่งก่อนจะไปลุ้นว่าฝ่ายไหนจะได้แชมป์ไปครองมาทราบ 5 ประเด็นที่ต้องติดตามกันดังต่อไปนี้
สหรัฐฯ ขาด “พญาเสือ” ไม่ขาดใจ
เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 14 รายการ อาจถูกมองว่าไม่ถูกโฉลกกับศึกกอล์ฟแห่งศักดิ์ศรีรายการยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกรายการนี้เท่าไหร่นัก ที่ผ่านมา ไทเกอร์ วูดส์ มีชื่อติดทีมสหรัฐฯ ถึง 7 สมัย ทว่าก็ช่วยพาทีมเป็นแชมป์ได้เพียงหนเดียวเท่านั้นในการแข่งครั้งที่ 33 ที่สนาม เดอะ คันทรี คลับ รัฐแมสซาชูเซตส์ ขณะที่อีก 6 ครั้งที่เหลือเขาและทีมต้องพบกับความพ่ายแพ้ทั้งหมด สถิติส่วนตัวไม่น่าประทับใจเช่นกัน ชนะ 13 แพ้ 17 และเสมอ 3 แมตช์ โดยมีเพียงปีเดียวที่อดีตมือ 1 โลกไม่มีชื่อรับใช้ทีมในปี 2008 แต่ราวกับเป็นตลกร้าย ทีมสหรัฐฯ ภายใต้การนำทีมของ คอร์เรย์ พาวิน กลับคว้าชัยเหนือยุโรปไปด้วยสกอร์ขาดลอย 16 ครึ่ง ต่อ 11 ครึ่ง ดังนั้น การขาด “พญาเสือ” ในปีนี้ของทีมสหรัฐฯ จึงเป็นสิ่งที่น่าติดตามไม่น้อย
“รอรีย์-จีแม็ค” ปัญหาในแคมป์ยุโรป
รอรีย์ แม็คอิลรอย กับ แกรมม์ แม็คดาวล์ 2 นักกอล์ฟชื่อดังจากไอร์แลนด์เหนือ ถือเป็นคู่หูกำลังสำคัญของทีมไรเดอร์ คัพ ยุโรป ตั้งแต่ปี 2012 แต่เรื่องราวความไม่กินเส้นกันของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2014 จากสาเหตุที่ “จี-แม็ค” ไปวิจารณ์รุ่นน้องหลังยกเลิกสัญญากับบริษัทเอเยนซี ฮอริซอน สปอร์ต แม้ว่าทั้งคู่จะออกมาแก้ข่าวว่าไม่มีปัญหาใดๆ และ พอล แม็คกินเลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่ส่งคู่นี้ประกบคู่แข่งในแบบโฟร์ซัมและโฟร์บอล เพื่อลดความเสี่ยงโดยให้เหตุผลเป็นเรื่องของแทคติค แต่ความไม่ลงรอยกันที่มีเป็นทุนเดิมอาจก่อเป็นรอยร้าวบั่นทอนสปิริตทีมในการป้องกันแชมป์หนนี้
บทพิสูจน์ก้านเหล็กเลือดใหม่มะกัน
หากเทียบเรื่องประสบการณ์ในเวที ไรเดอร์ คัพ ของทีมสหรัฐฯ ต้องยอมรับว่า นาทีนี้ยังเป็นรองคู่แข่งพอสมควร มีเพียง ฟิล มิคเคลสัน และ จิม ฟิวริค ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากที่สุด แต่เมื่อคำนวนเปอร์เซ็นต์ชนะจากการลงแข่งทั้งหมดกลับยังไม่ถึงครึ่งอยู่ที่ 44.74 และ 36.67 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ยิ่งทีมไม่มี ไทเกอร์ วูดส์ ด้วยแล้วทำให้หนนี้บรรดาโปรดาวรุ่งของทีมที่กำลังฟอร์มดีในทัวร์อย่าง ริคกี ฟาวเลอร์ และ คีแกน แบรนด์ลีย์ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ขณะที่ จอร์แดน สปิธ, แพทริค รีด และ จิมมี วอล์กเกอร์ 3 สมาชิกใหม่ที่ประเดิมติดธงหนแรกต่างมีผลงานเยี่ยมในทัวร์ มีแรงจูงใจและความกระหายในการลงเล่น ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ ทอม วัตสัน หวังใช้เล่นงานทีมยุโรป
“โพลเตอร์” คีย์แมนเจ้าภาพ
นักกอล์ฟเจ้าพ่อแฟชันจากเกาะอังกฤษถูกยกย่องเป็น “มิสเตอร์ ไรเดอร์ คัพ” เมื่อ 2 ปีก่อน จากฟอร์มอันร้อนแรงเอาชนะทุกแมตช์ในการลงแข่ง เริ่มที่ประกบคู่กับ จัสติน โรส โปรมือ 1 ของเมืองผู้ดีชนะทั้งประเภทโฟร์ซัมและโฟร์บอล ก่อนที่จะมาชนะซิงเกิล แมตช์เพลย์ เหนือ เว็บบ์ ซิมป์สัน มีส่วนสำคัญช่วยให้ยุโรปบุกไปป้องกันแชมป์ได้ถึงสนาม เมดินาห์ คันทรี คลับ ในปี 2012 ปัจจุบัน โปรมือ 36 ของโลกแม้ผลงานไม่ดี แต่ด้วยชื่อเสียงที่ผ่านมาทำให้เขายังถูก แม็คกินเลย์ เรียกติดทีมในโควตาไวลด์การ์ด หวังให้มาเป็นตัวละครสำคัญในศึกครั้งนี้
สื่อฟันธงสหรัฐฯบุกคว้าชัย
ว่ากันว่า สถิติไม่เคยหลอกลวง นับตั้งแต่ทีมยุโรปได้เข้ามาแข่งไรเดอร์ คัพ แทนทีมสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เมื่อปี 1979 ตลอด 17 หนที่ประชันวงสวิงกันมาทีมก้านเหล็กลุงแซมสะกดคำว่าชนะได้แค่ 6 ครั้ง เสมอกัน 1 หน ที่เหลือปราชัยราบคาบ ยิ่งเมื่อแบโผตัวผู้เล่น 12 ราย ทีมยุโรปที่ดูลงตัวกว่าแถมได้ลงแข่งในบ้านน่าจะได้เปรียบ ทว่าสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง “กอล์ฟ ชาแนล” และ “กอล์ฟ ดอท คอม” ต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า การที่สหรัฐฯ ลงเล่นในสถานะที่เป็นรอง ไม่กดดัน ไม่ต้องป้องกันแชมป์ และไม่มีสตาร์อย่าง “พญาเสือ” ในทีม มีโอกาสทีจะบุกมาสร้างเซอร์ไพรส์ที่สกอตแลนด์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
