ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - บับบา วัตสัน ก้านเหล็กจอมตีไกลจากฟลอริดา ถูกตั้งข้อสังเกตเชิงสบประมาทว่า เก่งแค่ที่สนาม ออกัสตา เนชันแนล สังเวียนจัดแข่งศึกกอล์ฟรายการเมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์” เท่านั้น หลังจากคว้าแชมป์ 2 สมัยในรอบ 3 ปีหลัง ทว่าในปีนี้ยังมีคิวต้องพิสูจน์ตัวเองในระดับชาติกับกอล์ฟ “ไรเดอร์ คัพ” โดยมีคะแนนสะสมติดทีมเป็นอันดับแรก ขณะที่ศึก “เฟดเอ็กซ์ คัพ” อีก 4 สนามต่อจากนี้ยังถือเป็นอีกหนึ่งเวทีที่เขาจะต้องลบคำครหาดังกล่าวให้ได้เช่นกัน
โปรกอล์ฟเจ้าของความสูง 191 เซนติเมตร มีทีเด็ดอยู่ที่การตีไกลเป็นทุนเดิมและมีระยะการไดร์ฟเฉลี่ยอยู่อันดับต้นๆ ของทัวร์มาโดยตลอด ก่อนจะมาใช้อาวุธหลักของตัวเองช่วยคว้าแชมป์เมเจอร์สมัยแรกในศึก “เดอะ มาสเตอร์ส” เมื่อปี 2012 แต่หลังจากคว้า “กรีน แจ๊คเก็ต” มาครองได้สำเร็จ บับบา ไม่ประสบความสำเร็จในรายการอื่นอีกเลย ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าแฟนกอล์ฟ
ตลอดปี 2013 โปรวัย 35 ปี ไม่มีแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียว ขณะที่ผลงานในรายการระดับเมเจอร์ทำดีสุดอันดับ 32 ร่วมที่ “ยูเอส โอเพน” และ “บริติช โอเพน แชมเปียนชิป” แถมในศึก “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ไม่ผ่านการตัดตัว ทำให้มีกระแสวิจารณ์อย่างต่อเนื่องว่า บับบา ยังไม่ใช่นักกอล์ฟระดับหัวแถวของเมืองลุงแซม และแชมป์เมเจอร์แรกของเขาที่สนามออกัสตานั้นอาจเป็นเพราะโชคชะตาเข้าข้างเท่านั้น
กระทั่งต้นปี 2014 โปรกอล์ฟคุณพ่อลูก 1 เริ่มกลับมาฟอร์มดีมีแชมป์เรียกความมั่นใจที่รายการ “นอร์ทเธิร์น ทรัส โอเพน” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนกลับมาสนามที่คุ้นเคยที่ ออกัสตา เนชันแนล ด้วยตำแหน่งแชมป์เมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส” สมัยที่ 2 ของตัวเองในรอบ 3 ปีหลังสุด ทว่านั่นยิ่งทำให้เสียงวิจารณ์ของสื่อในบ้านเกิดหนาหูขึ้นอีกว่า เขามีดีเพียงแค่สนามเดียวและยังคงไม่ใช่โปรกอล์ฟระดับโลก ทั้งที่เป็นแชมป์เมเจอร์ถึง 2 รายการ แต่ดันโชคร้ายคว้าแชมป์รายการอื่นๆ ไม่ได้
ขณะที่โปรกอล์ฟรุ่นน้องอย่าง จอร์แดน สปิธ พยายามจะออกมาลบกระแสดังกล่าวด้วยการยกว่า บับบา คือยอดโปรดังของสหรัฐฯ และได้พิสูจน์ตัวเองเป็นที่เรียบร้อยกับผลงานในฤดูกาลนี้ ที่กวาดเงินรางวัลไปถึง 5.1 ล้านเหรียญ เป็นแชมป์ 2 รายการและติดท็อป 10 ถึง 7 ครั้ง “ใช่เลย เขาคือยอดนักกอล์ฟคนหนึ่งของสหรัฐฯ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นแชมป์เมเจอร์รายการเดียวในกันรอบ 3 ปี บับบา ยกมาตรฐานตัวเองขึ้นมาและพิสูจน์ทุกอย่างด้วยผลงานในฤดูกาลนี้”
ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมทำให้เจ้าของแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส 2 สมัย มีคะแนนสะสมในศึก “ไรเดอร์ คัพ” นำโด่งเป็นอันดับ 1 และติดทีมของ ทอม วัตสัน ในโควตา 9 คนแรกโดยอัตโนมัติเป็นที่เรียบร้อย ตามการตัดตัวหลังจบศึกเมเจอร์สุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา นอกเหนือจากนั้นข่าวการประกาศถอนตัวจากทีมของ ไทเกอร์ วูดส์ อดีตมือ 1 โลกที่ยังลุ้นติดทีมในโควตาไวล์ดการ์ด ยังทำให้ บับบา กลายเป็นเหมือนดาราดังของทีมร่วมกับ ฟิล มิคเคลสัน ในการเตรียมทีมสู้กับทีมยุโรป ที่มี รอรีย์ แม็คอิลรอย เป็นสตาร์ไปในตัว
โดย ไรเดอร์ คัพ ที่สนาม กลีนีเกิลส์ สกอตแลนด์ ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ จะถือเป็นโอกาสสำคัญที่ บับบา จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า มีดีมากกว่าการคว้าแชมป์ที่ออกัสตา ซึ่งแน่นอนว่าหากครั้งนี้เขาทำสำเร็จ ผนึกกำลังกับเพื่อนร่วมชาติทวงแชมป์ที่แฟนกอล์ฟอเมริกันรอคอยกลับมาจากทีมยุโรป จะถือเป็นการลบคำสบประมาททั้งหมดลงไปในทันที
ขณะเดียวกันอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่ บับบา จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้คือการเพลย์ออฟ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ทั้ง 4 สนามโดยคะแนนสะสมปัจจุบันเขารั้งอันดับที่ 3 และต้องโชว์ฟอร์มเก่งทุกสัปดาห์เพื่อเข้าไปเป็นก้านเหล็ก 30 คนสุดท้ายลุ้นรางวัล “บิ๊กโบนัส” เงินรางวัลโบนัสสูงสุด 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 320 ล้านบาท) ที่สนามสุดท้ายในรายการ “โคคา-โคลา แชมเปียนชิป” ให้ได้
โค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของ บับบา ที่ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อเอาชนะใจแฟนกอล์ฟสหรัฐฯ และสื่อในบ้านเกิดที่คอยสบประมาท พร้อมทั้งตั้งแง่มาตลอดว่า เขามีดีแค่คว้าแชมป์เมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส” เพียงรายการเดียว ส่วนแมตช์อื่นๆ เป็นเพียงแค่ตัวประกอบเท่านั้น
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *