ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กอล์ฟ ยูเอส พีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2014 เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ดูแล้วสนุกเข้มข้นกว่าหลายซีซันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นแชมป์ รวมถึงตำแหน่งมือ 1 ของโลกยังน่าสนใจ จนถึงศึกเมเจอร์ที่ 4 ของปี “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ที่จะเปิดฉากวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคมนี้ อีกทั้งคะแนนสะสม “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ใครจะเป็น 125 คนสุดท้ายเพื่อชิงชัย “บิ๊กโบนัส” นอกจากนี้ยังต้องเร่งผลงานเพื่อติดทีม ไรเดอร์ คัพ ของทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ “บลีเชอร์ รีพอร์ต” วิเคราะห์โจทย์ของโปรดังแต่ละรายที่ต้องพิสูจน์ตัวเองมาฝากกันดังนี้
ไทเกอร์ วูดส์ (สหรัฐฯ)
โปรวัย 38 ปี มีโอกาสที่จะพลาดติดเป็น 1 ใน 125 คนลงแข่งขันกอล์ฟ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” สนามแรกที่ “เดอะ บาร์เคลย์ส” เป็นหนที่ 2 ต่อจากปี 2011 (จบอันดับ 129) โดยปัจจุบันรั้งที่ 215 มีคะแนนสะสมเพียง 45 แต้ม เพราะได้รับบาดเจ็บยาวตั้งแต่มีนาคม โดย “พญาเสือ” ยังมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองลงป้องกันแชมป์ศึกเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป บริดจ์สโตน อินวิเตชันแนล ที่เปิดฉากแข่งขันวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อด้วยการลงลุ้นเมเจอร์ใบที่ 15 ในศึก “พีจีเอ แชมเปียนชิป” วันที่ 7 ส.ค. นี้ นอกจากจะมีตั๋ว เฟดเอ็กซ์ คัพ และ ตำแหน่งแชมป์เมเจอร์เป็นเดิมพัน วูดส์ ยังต้องโชว์ฟอร์มให้เข้าตา ทอม วัตสัน กัปตันทีมสหรัฐฯ เพื่อลุ้นติดทีมด้วย
ฟิล มิคเคลสัน (สหรัฐฯ)
อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างจาก ไทเกอร์ มากนัก ผลงานตลอดฤดูกาล 2014 ไม่น่าประทับใจ ไม่เคยติดท็อป 10 แม้แต่รายการเดียว จนอันดับโลกล่าสุดหล่นไปรั้งมือ 13 ของโลก ซึ่งแน่นอนว่า อันดับของ “เลฟตี” ไม่ดีพอที่จะถูกเลือกติดทีมไรเดอร์ คัพ สหรัฐฯ โดยอัตโนมัติใน 10 คนแรก และหากเขายังทำผลงานไม่ดีในเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป และเมเจอร์สุดท้ายของปี คงต้องไปวัดใจเอาว่า ทอม วัตสัน จะเลือกติดทีมในโควตาของกัปตันทีมหรือไม่ แต่ยังถือว่าโชคดีไม่น้อยที่คะแนน เฟดเอ็กซ์ คัพ ของโปรสิงห์อีซ้ายรั้งที่ 89 ยังได้ไปเล่นในอีก 4 รายการใหญ่ส่งท้ายปีแน่นอน
รอรีย์ แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ)
กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังจากยุติปัญหาชีวิตส่วนตัวด้วยการเลิกรากับ คาโรไลน์ วอซเนียคกี แฟนสาวนักเทนนิส และคว้าแชมป์เมเจอร์ที่ 3 ด้วยวัย 25 ปี พร้อมกับการเป็นแชมป์ใบที่ 13 ในอาชีพก้านเหล็ก พร้อมถูกมองว่าจะขึ้นครองมือ 1 โลกหลังจากจบซีซันนี้ อย่างไรก็ดี “รอร์ส” มีคิวพิสูจน์ตัวเองด้วยการโชว์ความยอดเยี่ยมคว้าแชมป์เมเจอร์ 2 รายการติดต่อกัน เพื่อตามรอยรุ่นพี่ชาวไอร์แลนด์เหนืออย่าง พาแดรก แฮริงตัน ที่เป็นแชมป์บริติช โอเพน และ พีจีเอ แชมเปียนชิป เมื่อปี 2008 พร้อมทวงบัลลังก์มือ 1 โลกที่คุ้นเคยคืนจาก อดัม สกอตต์ โปรชาวออสซีอย่างยิ่งใหญ่
ริคกี ฟาวเลอร์ (สหรัฐฯ)
ถ้าวัดกันเฉพาะศึกเมเจอร์ 3 รายการแรกของปี เชื่อว่า ไม่มีใครผลงานดีไปกว่า โปรเจ้าพ่อแฟชันจากเมืองลุงแซม (อันดับ 5 ร่วมใน เดอะ มาสเตอร์ส, 2 ร่วมในศึกยูเอส โอเพน และ 2 ร่วมใน บริติช โอเพน) ยิ่งไปกว่านั้นในฤดูกาลนี้ ฟาวเลอร์ ได้โค้ชสวิงมือดีอย่าง บุช ฮามอน อดีตโปรดังมาช่วยติวเตอร์จึงไม่แปลกใจที่ยกระดับผลงานขึ้นมาอย่างน่าตื่นเต้น ซึ่งหากว่าสามารถเป็นแชมป์ พีจีเอ แชมเปียนชิป ได้ส่งท้ายปี 2014 เชื่อว่า น่าจะมีเรื่องให้พูดถึงมากกว่า คอแลคชันเสื้อผ้าเด่นๆ ของเจ้าตัวแน่นอน
อดัม สกอตต์ (ออสเตรเลีย)
กลายเป็นเหมือนกับเพชรฆาตรเงียบที่มาซิวมือ 1 โลกไปจาก ไทเกอร์ วูดส์ ในปี 2014 และแม้ว่าจะมีแชมป์ติดมือไปเพียงใบเดียวในรายการ “คราวน์ พลาซา อินวิเตชันแนล” เมื่อเดือนพฤษภาคม ด้วยการชนะเพลย์ออฟ แต่ก็ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ ขณะที่ในเวทีระดับเมเจอร์ สกอตต์ ยังต้องการพิสูจน์ตัวเอง หลังจากปลดล็อกเมเจอร์แรกใน เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ เมื่อปี 2013 และหากยังต้องการรักษาตำแหน่งมือ 1 โลกต่อไปเขาควรจะคว้าแชมป์เมเจอร์ที่ 2 ของตัวเองส่งท้ายฤดูกาลนี้ให้ได้
บับบา วัตสัน (สหรัฐฯ)
จอมตีไกลจากเมืองลุงแซมประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ 2 เมเจอร์ ที่สนาม ออกัสตา ทว่าทั้ง ยูเอส โอเพน และ ดิ โอเพน กลับไม่ผ่านตัดตัว โดยมีการวิเคราะห์ว่า บับบา มักทำได้ดีในสนามที่มีแฟร์เวย์ยาวๆ และตีได้ไกล ดังนั้นเขาจะต้องลบคำสบประมาทกับโจทย์หินนี้ด้วยการเป็นแชมป์รายการอื่นๆ ที่สนามใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ออกัสตา ในรัฐจอร์เรีย ว่า เขาคือโปรกอล์ฟระดับแถวหน้าของโลกอย่างแท้จริง
เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
