“โค้ชหญิงเวทีผู้ชาย” ก้าวที่รอการยอมรับ

เอเยนซี - นับตั้งแต่ขยับรั้งมือ 2 ของโลกเดือนสิงหาคมปี 2009 ตามด้วยปลดล็อก แกรนด์ สแลม แรก รายการ “ยูเอส โอเพน” ต่อด้วยคว้าเหรียญทอง โอลิมปิก ที่เกิดขึ้นปีเดียวกันคือ 2012 ซึ่งน่าจะเป็นปีทองในอาชีพของ แอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิสชาวสกอต ก็ว่าได้ จนทำให้แววทะยานสู่บัลลังก์มือ 1 อยู่แค่เอื้อม แต่แล้วกลับแยกทาง อิวาน เลนเดิล โค้ชชาวเช็ก แบบเหลือเชื่อเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตามด้วยการทาบ อเมลี โมเรสโม อดีตมือ 1 ของโลกชาวฝรั่งเศส ขึ้นมาแทน ตามมาด้วยคำถามมากมาย เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่ผู้หญิงจะเทรนให้กับผู้ชาย

เลนเดิล ถือเป็นผู้ปลุกปั้นและเติมเต็มให้ เมอร์เรย์ ครบเครื่องมากกว่าเดิม ทั้งฝีไม้ลายมือและสภาพจิตใจ จนตามมาสู่การคว้า แกรนด์ สแลม ที่ 2 คือ วิมเบิลดัน เมื่อปี 2013 แต่จากนั้นทุกอย่างหยุดชะงัก ส่วนหนึ่งก็เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลัง ทว่าก็ไม่มีใครทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการแยกทางครั้งนี้

หลังศึก เฟรนช์ โอเพน เมื่อเดือนมิถุนายน 2014 ที่ เมอร์เรย์ พ่ายให้กับ ราฟาเอล นาดาล ของสเปน รอบรองชนะเลิศ ก็ได้ประกาศแต่งตั้ง โมเรสโม ดีกรีแชมป์ 2 แกรนด์ สแลม ออสเตรเลียน โอเพน กับ วิมเบิลดัน ปี 2006 ขึ้นทำหน้าที่ผู้ฝึกสอน โดยขั้นแรกตกลงกันว่าจะร่วมงานเฉพาะทัวร์นาเมนต์คอร์ตหญ้าเท่านั้น จริงอยู่ไม่มีใครปฏิเสธว่าสาวหล่อชาวฝรั่งเศสวัย 35 ปี มีฝีมือและชื่อชั้นในวงการเคยขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก 39 สัปดาห์เดือนกันยายน 2004 รวมถึงซิวเหรียญเงิน โอลิมปิก 2004 แต่เรื่องความเหมาะสมนั้นมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

โมเรสโม เคยร่วมงานกับ มิเชล ลอดรา อดีตเจ้าของแชมป์ แกรนด์ สแลม ประเภทชายคู่ 3 รายการ ระยะสั้น 1 เดือน แถมยังเคยพาผู้เล่นหญิงอย่าง วิคตอเรีย อซาเรนกา ของเบลารุสขึ้นมือ 1 โลก รวมถึงซิวแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพน 2012 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูเอส โอเพน ในปีเดียวกัน รวมถึงผลักดัน มาริยง บาร์โตลี รุ่นน้องร่วมชาติคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน 2013 ถือเป็นโปรไฟล์ชั้นดีของเธอที่ทำให้หลายฝ่ายสนับสนุนให้ร่วมงานกับ เมอร์เรย์ ต่อไป

ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วยเชื่อว่าประเภทชายนั้นมีการแข่งขันที่สูงกว่าฝ่ายหญิงไม่ว่าจะเป็นการเล่นถึง 5 เซตในรายการ แกรนด์ สแลม ครั้นการจะนำผู้หญิงมาปรึกษาก็ไม่มีประสบการณ์ รวมถึงพลังของลูกเสิร์ฟที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นผู้หญิงอาจจะไม่มีทริกตรงนี้มาแนะนำได้เพียงพอ ปัจจุบันนักเทนนิสชายใน เอทีพี มีเพียง เดนิส อิสโตมิน มือ 41 โลกจากอุซเบกิสถาน ซึ่งมี เคลาดิยา คุณแม่ของตนเป็นโค้ช กับ มิคาอิล คูคุชกิน มือ 54 ของโลกจากคาซัคสถาน ที่แต่งตั้ง อนาสตาเซีย ให้เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวในปี 2009 ก่อนที่ทั้งคู่จะจูงมือเข้าพิธีวิวาห์เมื่อปี 2011

ผลงานของ เมอร์เรย์ นับตั้งแต่ได้ โมเรสโม มคุมนั้นดูเหมือนไม่มีพัฒนาการแพ้ ราเด็ก สเตปาเน็ก ตกรอบ 3 รายการอุ่นเครื่อง “ควีนส์ แลนด์ คลับ” ก่อนจะอกหักป้องกันแชมป์ที่ ออล อิงแลนด์ คลับ แพ้ กริกอร์ ดิมิตรอฟ ของ บัลแกเรีย ทำให้ ณ ปัจจุบัน อันดับโลกของหวดวัย 27 ปี หล่นลงมาอยู่ที่ 10 แล้ว เหตุปีนี้ยังไม่มีถ้วยแชมป์ใดๆ ติดมือเลย แต่ด้วยการที่อดีตมือ 1 ฝรั่งเศสเพิ่งรับงานได้เพียงแค่ 1 เดือน อาจทำให้แท็คติคหลายอย่าง รวมถึงการประสานงานอาจยังไม่เข้าที่เข้าทางก็เป็นได้

ผู้เล่นหญิงใช้โค้ชชาย ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก แต่ผู้เล่นชายใช้โค้ชผู้หญิง กลับไม่ค่อยมีให้เห็น ดูเหมือนข้อแตกต่างที่สำคัญในการเป็นโค้ชนั้น ผู้ชายจะได้รับการยอมรับจากเพศตรงข้ามมากกว่า เหตุเพราะถูกออกแบบมาให้มีความเป็นผู้นำ ดังนั้นการสอนจะดูเข้มงวด กวดขัน ก้าวร้าว ดุดัน จริงจัง เห็นได้จากการแข่งขันกีฬาหลายชนิด แต่ เมอร์เรย์ อาจจะต้องการจุดเด่นส่วนอื่นของ โมเรสโม ซึ่งตอนนี้ยังไม่แสดงออกมาให้เห็น

จูดี เมอร์เรย์ คุณแม่วัย 54 ปี ซึ่งเป็นติวเตอร์ให้กับสองพี่น้อง เจมี และ แอนดี ในช่วงเริ่มต้นของการเล่นเทนนิส ได้เผยว่า “การแต่งตั้ง อเมลี เป็นโค้ช แสดงให้เห็นว่าเรื่องเพศไม่ใช่อุปสรรค ไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมผู้หญิงถึงเป็นโค้ชไม่ได้ เมื่อดูจากสิ่งที่เธอเคยทำไว้ตอนแข่ง ทำไมคนที่มีประสบการณ์ในวงการเทนนิส ถึงไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้เล่นชายได้ เราต้องการต้นแบบในการสร้างแรงบันดาลใจและความเชื่อให้กับโค้ชหญิงคนต่อๆ ไปในอนาคต ผู้ชายยังสามารถฝึกซ้อมผู้หญิงได้ แล้วกลับกัน ทำไมผู้หญิงถึงจะฝึกซ้อมผู้ชายบ้างไม่ได้”

อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูผลงานของ เมอร์เรย์ หลังเดือนตุลาคมว่าคะแนนสะสมในปีนี้จะติด 1 ใน 8 ลุยศึกใหญ่ “บาร์เคลยส์ เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์” ระหว่างวันที่ 9 - 16 พฤศจิกายน ที่อังกฤษได้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ ก็มีโอกาสสูงที่จะต้องเริ่มหาโค้ชใหม่ต่อในปีหน้า แต่กลับกันถ้า โมเรสโม ช่วยให้ซิวแชมป์รายการใหญ่ เชื่อว่าอาจจะเป็นการจุดประกายให้เหล่าโค้ชหญิงลืมตาอ้าปากได้รับการยอมรับในวงการนักเทนนิสชายบ้างก็ได้

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *