คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ก็เพิ่งเป็นข่าวตึงโครมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี่เอง เมื่อ อาดีด๊าส เซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุน สโมสรฟุตบอล แมนเช้สเต้อร์ ยูนายเถ็ด เป็นระยะเวลา 10 ปี ด้วยเงินจำนวน 750 ล้าน พาวน์ด หรือ 940 ล้าน ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 41,360 ล้านบาท ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 เป็นต้นไป คือหลังจากที่ ปิศาจแดง หมดสัญญากับ นิเค่ หรือที่คนอเมริกันเรียกว่า นายกี้
ความจริง นิเค่ ซึ่งเป็นค่ายผลิตภัณฑ์กีฬาใหญ่ที่สุดในโลกและผูกพันกับ แมน ยู มาตั้งแต่ปี 2002 ด้วยสัญญา 13 ปี ก็อยากจะต่อสัญญาออกไปอีกเหมือนกัน แต่ไม่อาจสู้กับเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นได้ เพราะตอนที่ตนเองกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยนั้น เสียเงินเพียงแค่ 303 ล้าน พาวน์ด หรือ 368 ล้าน ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 16,376 ล้านบาท เท่านั้นเอง จึงต้องประกาศยอมถอยออกไป
เฮิร์สท ด๊าสเล่อร์ (Horst Dassler) ลูกชายของ อด๊อลฟ์ ด๊าสเล่อร์ ผู้ก่อตั้ง อาดีด๊าส เล็งเห็นผลพวงที่จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาลในการเข้ามาสนับสนุนวงการกีฬา เขาจึงนำ อาดีด๊าส เข้าร่วมใน โอลิมปิค เกมส์ ที่ เมลเบิร์น ปี 1956 และอีกหนที่ เมฮีโก ปี 1968
จนเข้าสู่ทศวรรษที่ 70 หมอนี่เริ่มเข้าใจดีขึ้นว่า การเป็นมิตรที่สนิทแนบแน่นกับองค์กรกีฬาอย่าง โอลิมปิค ฟีฟ่า หรือสหพันธ์กรีฑานานาชาติ จะเป็นหนทางให้ตนเองได้เปรียบคู่แข่งทางธุรกิจ ทำให้บ่อยครั้ง อาดีด๊าส ต้องเข้าไปถือหางใครต่อใครในการเลือกตั้งผู้นำองค์กร จนถึงทุกวันนี้ ผู้ผลิตเสื้อผ้า รองเท้ากีฬาชื่อดังรายนี้ก็ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักให้ ฟีฟ่า และมันคงไม่ผิดอะไรหรอก ถ้าเอ็งไม่ได้มีส่วนในการกำหนดผลการตัดสินใดๆอย่างไม่ยุติธรรม เพื่อผลทางธุรกิจของเอ็ง
ผมคงไม่ใช่คนเดียวในโลกที่รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจที่ได้ทราบว่า หลังจากจบการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2014 แล้ว คณะกรรมการของ ฟีฟ่า ได้พิจารณาตัดสินให้ ลิโอเนล เม้สซี่ กองหน้าทีมชาติอารเกนตีน่า เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทอร์นาเม้นท์ ได้รับลูกบอลทองคำไปครอง
บรรดาแฟนบอล รวมทั้งสื่อมวลชนนานาชาติต่างก็ไม่เห็นด้วยกับผลการพิจารณาดังกล่าวและรุมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักทีเดียว ฟีฟ่า เลือกออกมาอย่างนี้ได้ยังไง อาริเอ็น ร๊อบเบ็น มิดฟีลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส น่าจะโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในทอร์นาเม้นท์นี้มากกว่ามั้ย หรือแม้แต่ เจมส์ หรือ ฆาเม้ส โรดริเกซ มิดฟีลด์ทีมชาติโกล็อมเบีย ก็น่าจะเหมาะสมกว่า
ฟีฟ่า จะอธิบายได้หรือไม่ว่า เม้สซี่ ดีกว่า มานูเอ็ล นอยเอ้อร์ โทมัส มุลเล่อร์ ฟีลิพ ลาห์ม หรือ โทนี่ โคร้ส ของ เจอรมานี ทีมแช้มพ์โลกอย่างไร ทั้งๆ ที่ใครได้ชมนัดชิงชนะเลิศก็ต้องลงความเห็นว่า นัดนี้ เม้สซี่ เล่นได้งั้นๆ ไม่ได้โชว์อะไรที่มันสุดยอดออกมาเลย หมอนี่มีโอกาสยิง 4 ครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบเลยสักลูกเดียว
สำหรับฟุตบอลโลกแล้ว ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า เม้สซี่ โชว์ฟอร์มยิง 4 ประตูก็เพียงในรอบแรกกับทีมที่ต่ำชั้นกว่า เมื่อมาถึงรอบน็อค เอ๊าท์ เจอของจริง เม้สซี่ เท้าบอด ยิงประตูไม่ได้อีกเลย อันนี้ไม่เพียงแค่ฟุตบอลโลกหนนี้เท่านั้น แต่นับย้อนไปในฟุตบอลโลก ปี 2006 และ 2010 ก็เถอะ และเขาก็ยังไม่สามารถนำทีมชาติคว้าแช้มพ์โลก ต่างกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่ทำสำเร็จในปี 1986
ผมจะบอกอะไรอย่างนึง ให้สังเกตดูให้ดีว่า ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทอร์นาเม้นท์ มักจะตกอยู่กับนักเตะที่ยังมีสัญญาอยู่กับ อาดีด๊าส ค่ายที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของ ฟีฟ่า เสมอ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ปี 1998 แล้วครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ก็เพิ่งเป็นข่าวตึงโครมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี่เอง เมื่อ อาดีด๊าส เซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุน สโมสรฟุตบอล แมนเช้สเต้อร์ ยูนายเถ็ด เป็นระยะเวลา 10 ปี ด้วยเงินจำนวน 750 ล้าน พาวน์ด หรือ 940 ล้าน ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 41,360 ล้านบาท ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 เป็นต้นไป คือหลังจากที่ ปิศาจแดง หมดสัญญากับ นิเค่ หรือที่คนอเมริกันเรียกว่า นายกี้
ความจริง นิเค่ ซึ่งเป็นค่ายผลิตภัณฑ์กีฬาใหญ่ที่สุดในโลกและผูกพันกับ แมน ยู มาตั้งแต่ปี 2002 ด้วยสัญญา 13 ปี ก็อยากจะต่อสัญญาออกไปอีกเหมือนกัน แต่ไม่อาจสู้กับเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นได้ เพราะตอนที่ตนเองกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยนั้น เสียเงินเพียงแค่ 303 ล้าน พาวน์ด หรือ 368 ล้าน ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 16,376 ล้านบาท เท่านั้นเอง จึงต้องประกาศยอมถอยออกไป
เฮิร์สท ด๊าสเล่อร์ (Horst Dassler) ลูกชายของ อด๊อลฟ์ ด๊าสเล่อร์ ผู้ก่อตั้ง อาดีด๊าส เล็งเห็นผลพวงที่จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาลในการเข้ามาสนับสนุนวงการกีฬา เขาจึงนำ อาดีด๊าส เข้าร่วมใน โอลิมปิค เกมส์ ที่ เมลเบิร์น ปี 1956 และอีกหนที่ เมฮีโก ปี 1968
จนเข้าสู่ทศวรรษที่ 70 หมอนี่เริ่มเข้าใจดีขึ้นว่า การเป็นมิตรที่สนิทแนบแน่นกับองค์กรกีฬาอย่าง โอลิมปิค ฟีฟ่า หรือสหพันธ์กรีฑานานาชาติ จะเป็นหนทางให้ตนเองได้เปรียบคู่แข่งทางธุรกิจ ทำให้บ่อยครั้ง อาดีด๊าส ต้องเข้าไปถือหางใครต่อใครในการเลือกตั้งผู้นำองค์กร จนถึงทุกวันนี้ ผู้ผลิตเสื้อผ้า รองเท้ากีฬาชื่อดังรายนี้ก็ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักให้ ฟีฟ่า และมันคงไม่ผิดอะไรหรอก ถ้าเอ็งไม่ได้มีส่วนในการกำหนดผลการตัดสินใดๆอย่างไม่ยุติธรรม เพื่อผลทางธุรกิจของเอ็ง
ผมคงไม่ใช่คนเดียวในโลกที่รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจที่ได้ทราบว่า หลังจากจบการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2014 แล้ว คณะกรรมการของ ฟีฟ่า ได้พิจารณาตัดสินให้ ลิโอเนล เม้สซี่ กองหน้าทีมชาติอารเกนตีน่า เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทอร์นาเม้นท์ ได้รับลูกบอลทองคำไปครอง
บรรดาแฟนบอล รวมทั้งสื่อมวลชนนานาชาติต่างก็ไม่เห็นด้วยกับผลการพิจารณาดังกล่าวและรุมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักทีเดียว ฟีฟ่า เลือกออกมาอย่างนี้ได้ยังไง อาริเอ็น ร๊อบเบ็น มิดฟีลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส น่าจะโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในทอร์นาเม้นท์นี้มากกว่ามั้ย หรือแม้แต่ เจมส์ หรือ ฆาเม้ส โรดริเกซ มิดฟีลด์ทีมชาติโกล็อมเบีย ก็น่าจะเหมาะสมกว่า
ฟีฟ่า จะอธิบายได้หรือไม่ว่า เม้สซี่ ดีกว่า มานูเอ็ล นอยเอ้อร์ โทมัส มุลเล่อร์ ฟีลิพ ลาห์ม หรือ โทนี่ โคร้ส ของ เจอรมานี ทีมแช้มพ์โลกอย่างไร ทั้งๆ ที่ใครได้ชมนัดชิงชนะเลิศก็ต้องลงความเห็นว่า นัดนี้ เม้สซี่ เล่นได้งั้นๆ ไม่ได้โชว์อะไรที่มันสุดยอดออกมาเลย หมอนี่มีโอกาสยิง 4 ครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบเลยสักลูกเดียว
สำหรับฟุตบอลโลกแล้ว ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า เม้สซี่ โชว์ฟอร์มยิง 4 ประตูก็เพียงในรอบแรกกับทีมที่ต่ำชั้นกว่า เมื่อมาถึงรอบน็อค เอ๊าท์ เจอของจริง เม้สซี่ เท้าบอด ยิงประตูไม่ได้อีกเลย อันนี้ไม่เพียงแค่ฟุตบอลโลกหนนี้เท่านั้น แต่นับย้อนไปในฟุตบอลโลก ปี 2006 และ 2010 ก็เถอะ และเขาก็ยังไม่สามารถนำทีมชาติคว้าแช้มพ์โลก ต่างกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่ทำสำเร็จในปี 1986
ผมจะบอกอะไรอย่างนึง ให้สังเกตดูให้ดีว่า ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทอร์นาเม้นท์ มักจะตกอยู่กับนักเตะที่ยังมีสัญญาอยู่กับ อาดีด๊าส ค่ายที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของ ฟีฟ่า เสมอ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ปี 1998 แล้วครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
