"บิ๊กชา" ปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกเทควันโด ตั้งคณะกรรมการสอบสวน “โค้ชเช” เช ยอง ซอก เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ กรณีฟิวส์ขาดลงมือซ้อม “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ จอมเตะสาววัย 23 ปี หลังตกรอบแรกในศึก "โคเรีย โอเพน 2014" ที่เกาหลีใต้ ก่อนเตรียมชี้แจงรายละเอียดและข้อเท็จจริงในวันที่ 14 กรกฏาคม นี้
ความคืบหน้ากรณี "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดทีมชาติไทยรุ่นประชาชนวัย 23 ปี เจ้าของเหรียญทองแดงศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่อุซเบกิสถาน รุ่นน้ำหนัก 62 กก.หญิง แฉข้ามประเทศผ่านทางเฟซบุ๊กของตัวเองว่า ถูก "โค้ชเช" ลงโทษเกินกว่าเหตุ จากกรณีที่เจ้าตัวมาแข่งขันช้าและไม่พร้อมลงสนามจนเป็นเหตุให้แพ้นักกีฬาเจ้าถิ่นขาดลอย 6-12 คะแนน ในศึก "โคเรีย โอเพน” เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลัง "โค้ชเช" ได้เรียกประชุมด่วนพร้อมกับสอบถามถึงสาเหตุที่มาช้า ก่อนที่จะทำร้ายร่างกายนักกีฬา
ล่าสุด "บิ๊กชา" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโด ในฐานะประธานคัดเลือกนักเทควันโดทีมชาติไทย เปิดเผยว่า “หลังทราบเรื่องทั้งหมด ผมได้โทรศัพท์สอบทางไปทางทีมงานสตาฟฟ์โค้ชชาวไทย รวมไปถึง โค้ชเช ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร โดยในวันดังกล่าวมีนักเทควันโดไทยลงแข่งขันถึง 6 คน ทำให้โค้ชที่ดูแลนักกีฬาอยู่ต้องคอยวิ่งรอกแต่ละสนามให้ทันลงแข่งขัน พอมาถึงคิวของ รุ่งระวี ที่ลงแข่งรอบแรก ฝ่ายจัดการแข่งขันได้ประกาศให้ลงสนามได้แล้ว และคู่แข่งก็เดินออกมาวอร์มรอบบริเวณข้างสนาม แต่ตัวนักกีฬาไทยยังไม่ออกมา ทำให้สตาฟฟ์โค้ชชาวไทยต้องรีบวิ่งไปเรียกตัว รุ่งระวี ที่ยังไม่ได้ใส่อุปกรณ์ป้องกันมาให้ทันเวลา มิเช่นนั้นจะถูกกรรมการปรับแพ้ ทำให้ รุ่งระวี ต้องมาที่สนามโดยไม่ได้วอร์มร่างกาย ก่อนแพ้คู่แข่งด้วยผลงานและฟอร์มที่ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้”
“จากเรื่องนี้ทำให้ โค้ชเช ที่มีลักษณะนิสัยเป็นคนทำอะไรจริงจังและทุ่มเทให้กับนักกีฬาอย่างเต็มที่ รู้สึกเสียใจและมองว่านักกีฬาไม่ใส่ใจ ไม่มีความพร้อมจึงเรียกมาว่ากล่าวตักเตือนและลงโทษในแบบของเขา ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาคนอื่นๆที่ทำผิดพลาดลักษณะแบบนี้ หรือไม่สู้ให้เต็มที่ ก็จะถูกลงโทษเช่นเดียวกัน เพราะนี่คือกีฬาต่อสู้ทุกคนจะต้องมีความกระตือรือร้นตื่นตัวอยู่เสมอ เนื่องจากที่ผ่านมาเราเคยใช้โค้ชไทยดูแลนักกีฬาแบบไทยๆมาแล้ว ส่งผลให้ผลงานที่ออกมาไม่ดี อีกทั้งลักษณะนิสัยเด็กไทยไม่ค่อยมีระเบียบวินัยขาดการทุ่มเทเอาใจใส่ พอมาเจอกับ โค้ชเช ที่เข้มงวดในเรื่องนี้มากๆ ทุกอย่างก็ดีขึ้นจนมีผลงานในระดับโลก”
“ผมคิดว่าถ้าหากโค้ชเขาไม่รักหรือสนใจนักกีฬาคนนี้เลยก็คงไม่ว่ากล่าวตักเตือนพูดอะไรมากมาย แค่ไม่สนใจก็จบไปแล้ว เพราะนักกีฬาแต่ละรุ่นจะบอกต่อกันเองว่า โค้ชเช ทุ่มเทและจริงจังในกีฬาชนิดนี้มากน้อยแค่ไหน เพราะทุกวันนี้ที่เขาอยู่ได้ก็เพราะผลงานเป็นหลัก หากฝีมือและศักยภาพความสามารถในตัว โค้ชเช ไม่ดีจริง คงไม่สามารถพานักกีฬาไทยไปคว้าเหรียญเงินกีฬา โอลิมปิกเกมส์ ได้”
อุปนายกสมาคมเทควันโดไทย ยังกล่าวอีกว่า “อย่างไรก็ตาม สมาคมจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง ทั้งตัว โค้ชเช เอง และ รุ่งระวี แต่ต้องรอให้ทั้งคู่กลับเมืองไทยเสียก่อน โดยนักกีฬาทั้งหมดจะมาถึงในวันที่ 17 กรกฏาคมนี้ เบื้องต้นได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโด รับทราบแล้ว ซึ่ง ผศ.พิมล ก็เห็นดีด้วยให้ตั้งคณะกรรมการสอบส่วนเรื่องนี้เป็นการด่วน หากใครผิดก็ว่าไปตามผิด สมาคมพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว เพราะเราต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง และเข้าใจความรู้สึกของคุณพ่อและคุณแม่ รุ่งระวี เป็นอย่างดี เพราะตัวเองก็เป็นพ่อคนเหมือนกัน แต่ก็อยากให้มองจุดประสงค์ของ โค้ชเช ด้วยว่า ที่เขาลงโทษหรือว่ากล่าวตักเตือนเด็กไปนั้น อาจจะมีหนักบ้างเบาบ้างมันเพราะความเป็นห่วงเป็นใยมากกว่า และอยากให้นักกีฬาคนนั้นๆประสบความสำเร็จได้ดิบได้ดีมีชื่อเสียงอนาคตที่ดี”
ส่วนกรณีที่จะมีการนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับ นางปวีณา หงสกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ เจ้ามูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หรือ ไปแจ้งความดำเนินคดีนั้น "บิ๊กชา" ทิ้งท้ายทำนองไม่อยากให้เรื่องภายในแคมป์นักกีฬาทีมชาติเป็นกระแสสังคมขนาดนั้น เพราะปัจจุบันสังคมไทยมีแต่ปัญหาวุ่นวายมากแล้ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการลงโทษนักกีฬาที่เกินกว่าเหตุ แต่ต้องดูเจตนาการกระทำด้วยว่าเพื่ออะไร ทุกสมาคมกีฬาก็จะมีมาตรฐานแตกต่างกันออกไป มิเช่นนั้นอนาคตต่อจากไปนี้นักกีฬาทีมชาติคนไหนไม่พอใจ หรือ ถูกโค้ชลงโทษอะไรก็ตาม คงวิ่งมาร้องเรียนแจ้งความดำเนินคดีกันไม่รู้จบ ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดกว่านักกีฬาจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ต้องยอมรับในระบบต่างๆหลายอย่าง รวมไปถึงความศรัทธาในตัวผู้ฝึกสอนด้วย แต่เมื่อยอมรับไม่ได้ก็ต้องพิจารณาตัวเองและเดินจากไป เพื่อให้คนที่พร้อมและเหมาะสมกว่าเข้ามาทำหน้าที่แทน
สำหรับทางสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย จะเตรียมตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 14 กรกฏาคม นี้ เวลา 14.00 น. โดยจะมีการชี้แจงเรื่องดังกล่าวทั้งหมดให้รับทราบรายละเอียด ที่ทำการสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย กกท.หัวหมาก
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *