ศาลกีฬาโลก ให้ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ครองตำแหน่งถึงปี พ.ศ. 2560 หลังเป็นฝ่ายชนะคดีเหนือ “บิ๊กก๊อง” วิรัช ชาญพานิชย์ พร้อมสั่งให้ผู้ท้าชิงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของการพิพากษาคดีทั้งหมด จากการเปิดเผยของ นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายนายกสมาคมแห่งประเทศไทย
หลังจากมีข่าวหลุดออกมาว่า ศาลกีฬาโลก หรือ “ซีเอเอส” ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีคำพิพากษาให้ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับชัยชนะเหนือ วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิงที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรณีที่มองว่าการเลือกตั้งประมุขบอลไทย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 ไม่เป็นไปตามกฎข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายนายกสมาคมแห่งประเทศไทยได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องคำพิพากษาผลการตัดสินของศาลกีฬาโลกต่อหน้าสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (สนามศุภชลาศัย) ในแต่ละประเด็นดังนี้
ข้อกล่าวหาที่ 1 มีการกล่าวหาว่า ผู้บริหารระดับสูงของสมาคมฟุตบอลไทยฯ โดยเฉพาะ ดร.องอาจ ก่อสินค้า และ นางสุปราณี กิตติกรณ์ ได้กระทำการไม่เหมาะสมโดยการแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งนั้น ศาลกีฬาโลกได้วินิจฉัยแล้วว่าทั้งคู่ไม่ได้กระทำการแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งแต่อย่างใด โดยศาลวินิจฉัยว่าจากคำบันทึกพยานที่ปรากฏในการพิจารณา ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือหลักฐานที่แสดงว่าทั้งคู่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในการเลือกตั้งครั้งนี้
และตามระเบียบข้อบังคับการเลือกตั้งได้กำหนดให้ ดร.องอาจ เลขาธิการสมาคมฟุตบอลไทย มีอำนาจหจ้าที่ ส่งเสริม ช่วยเหลือ สนับสนุนความสะดวกในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์คณะศาลฯให้ความเห็นไว้ชัดเจนว่า “องค์คณะมีความประทับใจที่ นางสุปราณี พยานบุคคล มาเบิกความด้วยตัวเอง และเชื่อว่าเป็นพยานที่เบิกความอยู่บนพื้นฐานความจริง รวมถึงวัตถุที่เป็นพยานเอกสารต่างๆ ที่ศาลได้รับพิจารณา มีความน่าเชื่อถือ”
ข้อกล่าวหาที่ 2 มีการกล่าวหาว่า ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกรรมการอุทธรณ์ไม่ชอบต่อกฎระเบียบนั้น กระบวนการพิจารณาอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ปราศจาก “ความยุติธรรมขั้นพื้นฐานของกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์ และ ข้อกล่าวหาที่ 3 ที่การกล่าวหาว่า มีผู้แทนที่ไม่ใช่ผู้แทนที่แท้จริงของบางสโมสรได้เข้ามาเป็นผู้ออกเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556
ศาลกีฬาโลกได้วินิจฉัยทั้งสองประเด็นโดยรวมว่า องค์คณะศาลฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ปรากฏข้อเท็จจริงตามที่ นายวิรัช ผู้กล่าวหายกขึ้นมากล่าวทั้งสองประเด็น โดยให้เหตุผลว่า ไม่ปรากฏสิ่งที่เป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามระเบียบปกติตามระเบียบข้อบังคับการเลือกตั้งที่ส่งผลต่อการพิจารณาอย่างรอบคอบ และคำตัดสินของคณะกรรมการอุทธรณ์
โดยให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า “ไม่มีการโต้แย้งเรื่องนี้มายังสมาคมฟุตบอลฯภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องโต้แย้งภายในกำหนด 4 วัน “ปัญหานี้สร้างขึ้นมาโดยคณะกรรมการเลือกตั้ง (ฝ่ายนายวิรัช) เมื่อเป็นดังนี้ นายวิรัช ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ จึงต้องรับผลกระทำอันนี้” และข้อเท็จจริงตั้งแต่เริ่มกระบวนการจัดการเลือกตั้ง จนการเลือกตั้งเสร็จสิ้น นายวิรัช ก็ยอมรับผลโดยไม่มีการโต้แย้งมาก่อน
ข้อกล่าวหาที่ 4 มีกรรมการบริหารของสมาคมฟุตบอลฯ ได้กระทำการอันไม่เหมาะสมด้วยการเข้าร่วมเลือกตั้งในวันที่ 17 ตุลาคม 2556 ศาลกีฬาโลกได้วินิจฉัยว่า ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้แทนบางสโมสรมีตำแหน่งเป็นสภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯ ได้ลาออกภายในกำหนดระยะเวลาอันสั้น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นนั้น ผู้แทนสโมสรที่ไปใช้สิทธิเป็นผู้แทนของสโมสรและออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 17 ตุลาคม 2556 ไม่เป็นอุปสรรคขัดข้องในการที่จะลาออกไปใช้สิทธิในครั้งนี้
ศาลกีฬาโลก ได้สรุปประเด็นข้อกล่าวหาทุกประเด็น และใช้พยานบุคคลและพยานเอกสารวินิจฉัยข้อกล่าวหาทุกประเด็นโดยครบถ้วนแล้วมีคำพิพากษา “ยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาของ นายวิรัช ชาญพานิชย์” โดยให้ นายวิรัช ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของการพิพากษาคดีทั้งหมด และให้ นายวรวีร์ มะกูดี คงดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมฟุตบอลไทยฯ ถึงปี 2560