คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ในที่สุดทีมชาติไทยของเราก็ลบล้างอาถรรพ์ที่ไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จ เมื่อทีมลูกหนังแม่เนื้อนิ่มภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ที่พูดก็พูดเถอะก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยได้รับเครดิตจากสื่อมวลชนทั้งใน และนอกประเทศมากนัก ว่าเป็นเพียงแค่คนคุมซ้อมวิ่งเรียกพลังเพื่อความฟิตของนักกีฬาเท่านั้น ทั้งที่เป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชคนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศพม่า หลังการลาออกของ "โค้ชจุ่น" จตุพร ประมลบาล ที่ไปคุยทีม ยาสูบ-ศุลกากร เอฟซี ช่วงนั้นมีกระแสข่าวมากมายว่าจะดึงโค้ชชื่อดังมาร่วมทีม โดยเฉพาะในรายของ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ก่อนที่สุดท้ายจะมาลงเอยกับคนที่ใช่ในปัจจุบัน
จากผลงานพาทีมเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2015 ในฐานะทีมอันดับ 5 ของเอเชีย ส่งผลให้ วิคเตอร์ มอนตาเกลียอานี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งแคนาดา ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 7 หรือ “ฟีฟ่า” วีเมนส์ เวิร์ลด์คัพ 2015 กล่าวต้อนรับ 5 ทีมฟุตบอลหญิงตัวแทนทวีปเอเชีย ซึ่งแคนาดาเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 6 มิ.ย. ถึง 5 ก.ค. ปีหน้า อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับกล่าวต้อนรับทีมชาติไทยจากการเป็นทีมแรกในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้เป็นพิเศษ
ความสำเร็จครั้งนี้แม้จะถูกค่อนขอดว่าแข้งสาวไทย โชคดี ที่ทัวร์นาเมนต์นี้ "โสมแดง" เกาหลีเหนือ โดนแบนห้ามเข้าร่วมการแข่งขัน เพราะมีการตรวจพบการใช้สารกระตุ้น ซึ่งก็คงปฎิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ เนื่องจากมาตรฐานผู้เล่นไทยถ้าไม่หลอกตัวเองก็ต้องยอมรับว่าห่างชั้นกับทีมหัวแถวประจำทวีปอย่าง ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และ เกาหลีเหนือ จึงเกิดคำถามที่ว่า ต่อจากนี้เราจะทำอย่างไรในฟุตบอลโลก
โดยสมาคมลูกหนังฯ เตรียมเรียกหารือเรื่องวางแผนเก็บตัวกันแล้วช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป้าหมายมี 2 รายการด้วยกัน ประกอบด้วยการเตรียมทีมสำหรับเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 ก.ย.-4 ต.ค. ปีนี้ ก่อนจะลากยาวไปถึงฟุตบอลโลก 2015 ซึ่งเท่าที่ทราบ "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ประธานเทคนิคทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย คนที่เป็นมันสมองคอยช่วยแนะนำทีมโค้ชของไทย ยอมรับว่าทีมชุดนี้ยังไม่สมบูรณ์พร้อม และต้องปรับแต่งแก้ไขกันอีกมาก
ที่น่าสนใจสำหรับความเห็นของ "โค้ชหรั่ง" คือการกำหนดทิศทาง และรูปแบบการเล่น ซึ่งยอดกุนซือรายนี้เปิดเผยว่าอยากให้ผู้เล่นทีมชาติไทยศึกษารูบแบบการเล่นของแข้งสาวทีมชาติญี่ปุ่น ที่ก้าวเป็นแชมป์เอเชียจากศึกเอเชียนคัพ 2014 หลังปราบทั้งจีน และออสเตรเลียลงได้ เพราะมองว่าทีมลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัยไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่ แต่กลับทรงพลัง และแม่นยำในการผ่านบอล
ได้ยินได้ฟังแผนงานคร่าวๆ ก็รู้สึกว่าสวยงามน่าชื่นชม แต่แผนต่างๆ ที่จะนำมาใช้นั้น พูดตรงๆ ว่าเหมือนเป็นการยกระดับระยะสั้น แต่เชื่อว่าแฟนฟุตบอลก็คงอยากเห็นแผนระยะยาวที่จะพัฒนาผู้เล่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันระบบลีก อย่างน้อยๆ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่โยนทุกอย่างไปอยู่ที่ตัก "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ อยู่คนเดียว...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ในที่สุดทีมชาติไทยของเราก็ลบล้างอาถรรพ์ที่ไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จ เมื่อทีมลูกหนังแม่เนื้อนิ่มภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ที่พูดก็พูดเถอะก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยได้รับเครดิตจากสื่อมวลชนทั้งใน และนอกประเทศมากนัก ว่าเป็นเพียงแค่คนคุมซ้อมวิ่งเรียกพลังเพื่อความฟิตของนักกีฬาเท่านั้น ทั้งที่เป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชคนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศพม่า หลังการลาออกของ "โค้ชจุ่น" จตุพร ประมลบาล ที่ไปคุยทีม ยาสูบ-ศุลกากร เอฟซี ช่วงนั้นมีกระแสข่าวมากมายว่าจะดึงโค้ชชื่อดังมาร่วมทีม โดยเฉพาะในรายของ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ก่อนที่สุดท้ายจะมาลงเอยกับคนที่ใช่ในปัจจุบัน
จากผลงานพาทีมเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2015 ในฐานะทีมอันดับ 5 ของเอเชีย ส่งผลให้ วิคเตอร์ มอนตาเกลียอานี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งแคนาดา ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 7 หรือ “ฟีฟ่า” วีเมนส์ เวิร์ลด์คัพ 2015 กล่าวต้อนรับ 5 ทีมฟุตบอลหญิงตัวแทนทวีปเอเชีย ซึ่งแคนาดาเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 6 มิ.ย. ถึง 5 ก.ค. ปีหน้า อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับกล่าวต้อนรับทีมชาติไทยจากการเป็นทีมแรกในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้เป็นพิเศษ
ความสำเร็จครั้งนี้แม้จะถูกค่อนขอดว่าแข้งสาวไทย โชคดี ที่ทัวร์นาเมนต์นี้ "โสมแดง" เกาหลีเหนือ โดนแบนห้ามเข้าร่วมการแข่งขัน เพราะมีการตรวจพบการใช้สารกระตุ้น ซึ่งก็คงปฎิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ เนื่องจากมาตรฐานผู้เล่นไทยถ้าไม่หลอกตัวเองก็ต้องยอมรับว่าห่างชั้นกับทีมหัวแถวประจำทวีปอย่าง ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และ เกาหลีเหนือ จึงเกิดคำถามที่ว่า ต่อจากนี้เราจะทำอย่างไรในฟุตบอลโลก
โดยสมาคมลูกหนังฯ เตรียมเรียกหารือเรื่องวางแผนเก็บตัวกันแล้วช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป้าหมายมี 2 รายการด้วยกัน ประกอบด้วยการเตรียมทีมสำหรับเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19 ก.ย.-4 ต.ค. ปีนี้ ก่อนจะลากยาวไปถึงฟุตบอลโลก 2015 ซึ่งเท่าที่ทราบ "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ประธานเทคนิคทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย คนที่เป็นมันสมองคอยช่วยแนะนำทีมโค้ชของไทย ยอมรับว่าทีมชุดนี้ยังไม่สมบูรณ์พร้อม และต้องปรับแต่งแก้ไขกันอีกมาก
ที่น่าสนใจสำหรับความเห็นของ "โค้ชหรั่ง" คือการกำหนดทิศทาง และรูปแบบการเล่น ซึ่งยอดกุนซือรายนี้เปิดเผยว่าอยากให้ผู้เล่นทีมชาติไทยศึกษารูบแบบการเล่นของแข้งสาวทีมชาติญี่ปุ่น ที่ก้าวเป็นแชมป์เอเชียจากศึกเอเชียนคัพ 2014 หลังปราบทั้งจีน และออสเตรเลียลงได้ เพราะมองว่าทีมลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัยไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่ แต่กลับทรงพลัง และแม่นยำในการผ่านบอล
ได้ยินได้ฟังแผนงานคร่าวๆ ก็รู้สึกว่าสวยงามน่าชื่นชม แต่แผนต่างๆ ที่จะนำมาใช้นั้น พูดตรงๆ ว่าเหมือนเป็นการยกระดับระยะสั้น แต่เชื่อว่าแฟนฟุตบอลก็คงอยากเห็นแผนระยะยาวที่จะพัฒนาผู้เล่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันระบบลีก อย่างน้อยๆ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่โยนทุกอย่างไปอยู่ที่ตัก "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ อยู่คนเดียว...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *