ASTVผู้จัดการรายวัน - การแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย “เอเอฟซี วีเมนส์ เอเชี่ยนคัพ 2014” ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 14-25 พฤษภาคม 2557 เพื่อเป็นการคัดเลือกเอา 5 ทีมดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ผ่านเข้าไปสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2015 ที่ประเทศแคนาดา
อย่างที่ทราบกันดีว่าทัพแม่เนื้อนิ่มไทยจะต้องพบงานที่หนักอึ้ง หลังถูกจับอยู่ในสาย บี ร่วมกับ จีน, เกาหลีใต้ และพม่า ขณะที่สายเอ ประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น, เวียดนาม ออสเตรเลีย และจอร์แดน โดยทีมชาติไทย จะประเดิมสนามในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ พบกับทีมชาติจีน ซึ่งหากจะการันตีการผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในฐานะทีมอันดับ 2 ของสาย เราจะต้องแบ่งแต้มจากแข้งสาวแดนมังกรมาให้ได้ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากมากก็ตาม
ทำให้งานหนักตกไปอยู่ที่กุนซือมากประสบการณ์อย่าง “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ที่คลุกคลีอยู่กับทีมชาติไทยตั้งแต่สมัยเป็นนักฟุตบอลในปี พ.ศ. 2535 ยอมรับว่าแม้ในการพบกับทีมชาติจีนในครั้งนี้จะเป็นรองอยู่มาก ความหวังในการแบ่งแต้มอาจจะต้องสู้ด้วยเกมรับ แต่หากเน้นเกมรับอย่างเดียวก็เปรียบเสมือนรอเสียประตูได้เช่นกัน
“เราต้องอาศัยการเปลี่ยนเกมให้เร็วจากรับเป็นรุก และการเล่นเกมสวนกลับ ซึ่งฝากความหวังไว้ที่ “เอ๋” อนุชศรา หมายเจริญ ผู้ซัดประตูชัยให้ทีมฟุตบอลหญิงเอาชนะเวียดนาม 2-1 ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 27 เพราะเป็นผู้เล่นที่มีความคล่องตัวสูง และเล่นได้หลายตำแหน่ง นอกจากนี้ก็ยังมี นิสา ร่มเย็น นักเตะที่มีความเฉียบขาดในการทำประตู มายืนเป็นหน้าต่ำ ปล่อยให้ “เนตร” กาญจนา สังข์เงิน ที่มีเทคนิคเฉพาะตัวรับหน้าที่หัวหอก”
เมื่อดูจากรูปเกมส์ตามแท็กติก ต้องยอมรับว่ากุนซือรายนี้ไม่ได้เกรงกลัวคู่แข่งคนสำคัญอย่างจีน แต่ก็ยังไม่ประมาทติวเข้มในเกมรับอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน โดย “โค้ชหนึ่ง” กล่าวต่อว่า “ก่อนหน้านี้เราจะพบปัญหาเรื่องผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง ดารัตน์ ช่างปลูก, ณัฐกานต์ ชินวงศ์, ดวงนภา ศรีตะลา, สุนิสา สร้างไธสง ที่แม้ว่าจะมีประสบการณ์ร่วมทีมกันมาหลายปี แต่ยังไม่สามารถประสานงานกันได้ดีพอ ทำให้ได้เน้นในเรื่องนี้มาตลอดช่วงเวลาที่ได้ฝึกซ้อม และได้มีการปรับตำแหน่งของผู่เล่นแต่ละคนตามความเหมาะสม เพื่อแก้จุดอ่อนในเรื่องเกมรับ”
นอกจากนี้ อดีตแข้งสาวทีมชาติไทย ยังได้กล่าวถึงความพร้อมของคู่แข่งต่ออีกว่า “จากการศึกษาเทปบันทึกการแข่งขันของจีนในรอบปีที่ผ่านมา จะมี 2 นักเตะที่ประมาทไม่ได้นั่นคือ “หยาง ลี” ผู้เล่นหมายเลข 11 ซึ่งจะเป็นตัวเพลย์เมกเกอร์ของทีม และมีการจ่ายบอลที่ทะลุทะลวงมาก อีกคนคือ “หลี่ หยิง” กองหน้าหมายเลข 10 ซึ่งมีความสูงใหญ่ และมีจังหวะขึ้นโหม่งที่เฉียบขาด จะต้องระวังมากเป็นพิเศษ”
ด้าน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดนี้ ยอมรับว่าลูกทีมต้องเจอกับความกดดันมาก แต่ก็เชื่อว่าด้วยประสบการณ์จะช่วยให้ผ่านสถานการณ์กดดันไปได้ “การได้เจอกับทีมชั้นนำระดับโลกอย่างทีมชาติจีน ถือเป็นงานหนัก และกดดันมาก แต่เชื่อว่าประสบการณ์การเตรียมตัวฝึกซ้อมช่วงที่ผ่านมาน่าจะช่วยได้มาก”
“ส่วนเรื่องชื่อชั้นแม้ทีมชาติไทยจะเป็นรองทีมอย่าง จีน และ เกาหลีใต้ ทว่าเมื่อถึงเวลาลงสนามแล้ว คู่แข่งเองที่ดีกรีเหนือกว่า หากเจอสภาพจิตใจของผู้เล่นไทยที่สู้เต็มร้อย เชื่อว่าสามารถทดแทนในเรื่องความเป็นรองของฝีเท้าได้แน่นอน”
ขณะที่ “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่ปรึกษาและผู้ช่วยโค้ชทีมฟุตบอลหญิงชุดนี้กล่าวสอดรับกับผู้จัดการทีมคนสวยด้วยว่า “ผมรู้ดีว่าอาการกดดัน หรืออาการเกร็งสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ก็บอกให้ผู้เล่นทุกคนคิดเหมือนกันว่า เรามี 2 มือ 2 ขา เหมือนกับคู่แข่งทุกอย่าง ไม่อยากให้ไปสนใจว่าใครได้เปรียบ หรือเสีบเปรียบ เพราะถ้าเราไม่มั่นใจในตัวเอง เป้าหมายทุกอย่างที่วางไว้คงจะไม่มีทางสำเร็จอย่างแน่นอน”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ระหว่างวันที่ 14-25 พฤษภาคมนี้ ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะลงสนามแรกในวันที่ 15 พฤษภาคม พบกับทีมชาติจีน โดยไทยจะลงเล่นในระบบ 4-5-1 โดยมี วราภรณ์ บุญสิงห์ เฝ้าเสา แผงแบ็กโฟร์มี อนุศรา หมายเจริญ อยู่ทางซ้าย ให้ ดวงนภา ศรีตะลา จับคู่กับ ณัฐกานต์ ชินวงษ์ ในตำแหน่งเซนเตอร์อาล์ฟ และ ดารัตน์ ช่างปลูก ประจำการฝั่งขวา ส่วนกองกลางวางผู้เล่นถึง 5 คน ให้ อินทร์อร พันธ์ชา กับ ณภัทร สีเสริม เล่นเป็นกลางตัวรับ ใช้ สุนิสา สร้างไธสง กับ วารุณี เพ็ชรวิเศษ อยู่ทางริมเส้นทั้ง 2 ข้าง โดยมี นิสา ร่มเย็น เป็นกองหน้าตัวต่ำ ส่วนหน้าเป้าเป็น กาญจนา สังข์เงิน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
