นิโค รอสเบิร์ก นักแข่งรถสูตรหนึ่งของทีม เมอร์เซเดส จีพี หยุดความร้อนแรงของ ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมชาวอังกฤษได้สำเร็จ หลังควบรถวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนคว้าแชมป์ไปครองได้ในศึก โมนาโก กรังด์ ปรีซ์ เมื่อคืนวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ศึก ฟอร์มูลา วัน สนามที่ 6 ของฤดูกาล "โมนาโก กรังด์ ปรีซ์" ที่สนาม โมนาโก เซอร์กิต มอนติ คาร์โล สาธารณรัฐโมนาโก แข่งกันแบบ สตรีท เรซ คืนวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ แข่งกัน 78 รอบ ท่ามกลางอุณหภูมิบนแทร็ค 36 องศาเซลเซียส
สิ้นสัญญาณไฟ นิโค รอสเบิร์ก นักขับ เมอร์เซเดส จีพี ทะยานออกตัวจาก โพล โพซิชัน ด้วยความเร็วโดยมี ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมไล่กดดันจากอันดับ 2 ทว่ายังไม่ทันพ้นรอบดี เซฟตี คาร์ ก็ต้องออกมาทำหน้าที่หลังรถของ เซร์จิโอ เปเรซ จากทีม ฟอร์ซ อินเดีย โดนชนที่หัวโค้งจนได้รับความเสียหาย
แดเนียล ริคคิอาร์โด ของ เรด บูลล์ ออกจากกริดที่ 3 แต่เครื่องยังไม่ติดโดน คิมี ไรค์โคเนน ของ เฟอร์รารี ไล่แซงจากที่ 6 ขึ้นมาได้ จากนั้นบรรยากาศการแข่งค่อนข้างจืดชืดนอกจาก 3 คันหัวแถวที่สู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย คันที่เหลือต่างก็พยายามขับประคองเพื่อลุ้นเก็บแต้มเอาไว้
เข้าสู่ช่วงท้ายตำแหน่งไม่เปลี่ยน และก็เป็น รอสเบิร์ก ที่วิ่งเข้าป้ายคว้าแชมป์สนามที่ 2 ในปีนี้ ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 49 นาที และได้ขึ้นเป็นจ่าฝูงบนตารางชิงแชมป์โลกอีกครั้ง มี 122 แต้ม ขณะที่ แฮมิลตัน เข้ามาเป็นที่สองและถูกหยุดสถิติคว้าชัยต่อเนื่องไว้เพียง 4 สนามเท่านั้น ส่วน ริคคิอาร์โด ตามมาเป็นที่ 3
สำหรับ เอฟวัน สนามต่อไป จะเดินทางไปซิ่งกันต่อในศึก แคนาเดียน กรังด์ ปรีซ์ ที่สนาม จิลส์-วิลเลเนิร์ฟ เซอร์กิต ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายนนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *