สินธุ พูนศิริวงศ์ ไร้คู่ต่อกร นั่งเก้าอี้นายกสมาคมมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 14 ติดต่อกัน หลังสมาชิกสโมสรทั้ง 24 เสียงให้ความไว้วางใจ พร้อมดันคณะกรรมการบริหารคนรุ่นใหม่มาทำหน้าที่แทน ขณะที่งบดุลสมาคมมีเงินเหลือในคลังกว่า 3 ล้านบาท
นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิปฯ โดยมีวาระคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ หลังคณะกรรมการชุดเดิมได้บริหารงานมาจนครบวาระ 2 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีสมาชิกสโมสรและกรรมการบริหารที่มีสิทธิ์ออกเสียงได้ทั้งสิ้น 24 เสียง จากทั้งหมด 31 เสียง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ประชุมได้สรุปผลงานในช่วงรอบปีที่ผ่านทั้งการแข่งขันในประเทศและต่างประเทศ การเปิดอบรมผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินให้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงความสำเร็จในการคว้า 1 เหรียญทองกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์ลเชี่ยนอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่อินชอน เกาหลีใต้ จาก “แอม ร้อยครู” อมรรัตน์ อ่วมด้วง นอกจากนี้ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่พม่า ทัพสอยคิวไทยยังคว้า 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน กับ 1 เหรียญทองแดง ถือว่า เกินเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ขณะที่ผลงานนักแทงอาชีพโลกของไทยสามารถสร้างผลงานอยู่ในระดับเมนทัวร์ได้ถึง 4 คน ประกอบด้วย “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง มือ 47 ของโลก, “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ อดีตแชมป์เยาวชนโลก, “เอฟ นครนายก” เทพไชา อุ่นหนู อดีแชมป์สมัครเล่นโลกปี 53 และ “เช็ก นครนายก” รัชโยธิน โยธารักษ์ ดาวรุ่งดวงใหม่ ส่วน “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม อดีตมือ 3 ของโลกขวัญใจชาวไทย หลังจากหลุดท็อปมือ 64 ของโลก ได้สิทธิ์ตั๋วไวลการ์ดกลับไปลุยอาชีพโลกอีกครั้ง จากการประสานงานของ “บิ๊กสิน” สินธุ
พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมฯ ต่อไปยัง มร.แบร์รี่ เฮิร์น ประธานสอยคิวอาชีพโลก ที่ได้ให้ตั๋วดังกล่าวกับ รัชพล พร้อมด้วย “มัจจุราชผมทอง” สตีเฟน เฮนดรี อดีตแชมป์โลก 7 สมัย และ “เทพบุตรคิวทอง” สตีฟ เดวิส อดีตแชมป์โลก 6 สมัย ด้านงบดุลสมาคมสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2556 สมาคมมีรายรับ 46,264,023 บาท รายจ่าย 43,003,467 บาท สรุปสมาคมมีรายได้เหลือ 3,260,556 บาท พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งให้ นางภารดี ยงวณิชย์ เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอีกครั้ง
จากนั้นเข้าสู่สาระสำคัญ การเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ดิสสทัต ภูริปโชติ อุปนายกสมาคมฯ เป็นประธานในการเลือกชั่วคราว และให้สมาชิกสโมสรเป็นผู้เสนอชื่อตัวนายกสมาคม ก่อนที่ “เสี่ยตู่” อภิวิชญ์ สินสุวรรณเมธี รองประธานฝ่ายจัดการแข่งขัน เป็นผู้เสนอชื่อ นายสินธุ เป็นนายกสมาคมอีกครั้ง ที่ประชุมไม่มีผู้ใดคัดค้าน ส่งผลให้ "บิ๊กสิน" นายสินธุ เป็นนายกสมาคมสมัยที่ 14 ติดต่อกัน เป็นรองเพียงแค่ “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย ที่นั่งเก้าอี้นายกสมาคมถึง 15 สมัยเท่านั้น
หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น “บิ๊กสิน” นายสินธุ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณสมาชิกสโมสรทุกคนที่ให้ความไว้วางใจนั่งตำแหน่งนี้อีกสมัย เพราะยังมีงานหลายอย่างต้องสะสางให้สำเร็จ เพื่อสร้างผลงานให้ดีกับสมาคมและประเทศชาติ ที่ผ่านมาต้องขอบคุณคณะกรรมการบริหารทุกคนในการทุ่มเทเสียสละทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม เพราะการทำงานในตำแหน่งดังกล่าวนี้ไม่มีเงินเดือนค่าจ้างอะไร ทุกคนมีใจรักและอยากทำเพื่อพัฒนากีฬาชนิดนี้ให้ดียิ่งขึ้น นโยบายหลังจากนี้ไปอยากจะสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงคณะกรรมการบริหารสมาคมที่มีไฟและเวลาเข้ามาทำงานให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากคณะกรรมการบริหารส่วนใหญ่ก็อายุมากแล้ว อยากได้คนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้ามาทำหน้าที่ในตรงจุดนี้บ้าง เพื่อพัฒนากีฬาชนิดนี้อย่างจริงจังและยั่งยืนต่อไป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *