โชเซ มูรินโญ กลับมารับงานผู้จัดการทีม เชลซี อีกครั้ง ทว่ากลับถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักโดยเฉพาะแท็กติกการเล่นที่เน้นเกมรับมากเป็นพิเศษ จนทำให้แฟนบอลหลายๆ คนรู้สึกไม่ชอบใจกับสไตล์การเล่นแบบนี้ ล่าสุดก็ถูก แอตเลติโก มาดริด เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ทำให้ เดลี เมล์ วิเคราะห์ 5 สิ่งที่เจ้าตัวควรเร่งปรับปรุงแก้ไขเพื่อกลับมาทวงความสำเร็จในปีหน้า
1. โละแข้งเก่า-เติมเลือดใหม่
สอดส่ายสายตาไปที่ขุมกำลังที่มีอยู่จะพบว่า มูรินโญ ยังคงใช้งานนักเตะตัวเก๋าอยู่หลายตำแหน่งทั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด, แอชลีย์ โคล หรือ ซามูเอล เอโต จนทำให้บางครั้งเกมไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร ดังนั้นกุนซือเลือดโปรตุกีส ควรเพิ่มความสดใหม่ดึงแข้งระดับเวิลด์คลาสอย่าง ดิเอโก กอสตา ดาวยิง “ตราหมี” ที่หมายตาอยู่ หรือแข้งระดับคุณภาพรายอื่นๆ ที่อายุยังน้อย มาผนึกกำลังกับแข้งวัยรุ่นอย่าง ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส, ออสการ์ ฯลฯ เพื่อทำให้ “สิงห์บลูส์” กลายเป็นทีมที่น่าหวาดกลัวทันทีตั้งแต่เห็นรายชื่อนักเตะก่อนลงสนาม
2. ปล่อย ตอร์เรส ให้ทีมอื่น
เป็นที่รู้กันดีว่านับตั้งแต่ย้ายมาสวมเสื้อ เชลซี ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) เป็นสถิติโยกย้ายสูงสุดของลีกผู้ดี ทว่ายังไม่สามารถโชว์ฟอร์มคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปแม้แต่ปอนด์เดียว โดยฤดูกาลนี้ยิงไปเพียง 10 ประตู แถมยังไม่สามารถลงมาช่วยทีมในจังหวะสำคัญๆ ได้เลย เรียกว่าสัญชาตญาณนักล่าสมัยอยู่กับ ลิเวอร์พูล จางหายไปหมดแล้วดังนั้น มูรินโญ ต้องเลือกว่าจะเก็บหรือปล่อยออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้ กอสตา เข้ามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
3. เลิกเล่นสงครามจิตวิทยา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเล่นสงครามจิตวิทยานี้คือสิ่งที่ “เดอะ สเปเชียล วัน” ถนัดเป็นพิเศษ ทว่าปีนี้ดูจะหนักข้อเกินไปเมื่อเจ้าตัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของผู้ตัดสินอยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ลงโทษย้อนหลังกลับมาและพลาดคุมทีมข้างสนามในบางเกม ทั้งนี้ เจ้าตัวควรลดละเลิกเรื่องการใช้จิตวิทยาและมองในแง่ดีบ้างเพื่อจะได้มีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น
4. เปิดเกมบุกใส่คู่แข่ง
มูรินโญ เป็นกุนซือที่เน้นทำทีมสไตล์ตั้งรับแล้วสวนกลับได้มีประสิทธิภาพคนหนึ่งของวงการฟุตบอล ซึ่งแท็กติกดังกล่าวก็ได้ผลมาแล้วหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะเกมที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะการันตีชัยชนะได้แต่ก็ทำให้แฟนๆบางส่วนไม่พอใจและอึดอัดไม่น้อย แถมแท็กติกสไตล์ “รถบัสอุดหน้าประตู” ล่าสุดก็ยังใช้ไม่ได้ผลโดน “ตราหมี” ถลุงประตูแบบยับเยินจนแม้แต่ผู้เล่นแนวรุกอย่าง เอเดน ฮาซาร์ด ยังต้องเปิดปากวิจารณ์แท็กติกของเจ้านายแบบไม่มีชิ้นดีจนน่าจะทำให้ มูรินโญ ต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติดังกล่าวแล้วกลับมาเปิดเกมบุกให้มากขึ้น
5. ดึงแข้งเยาวชนขึ้นมาเสริมแกร่ง
โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ทุ่มเงินมหาศาลในการสร้างอคาเดมีนักเตะของทีมขึ้นมา และในกลุ่มแข้งเยาวชนนั้นก็มีนักเตะชั้นดีให้เลือกใช้งานมากมาย โดยเฉพาะ รูเบน ลอฟตัส ชีค กองกลางจอมจ่ายและ แพทริก แบมฟอร์ด ที่ปล่อยให้ เอ็มเค ดอนส์ กับ ดาร์บี เคาน์ตี ยืมตัวไปใช้งานแต่ระเบิดสกอร์ได้ถึง 25 ประตู เรียกว่าฝีไม้ลายมือไม่แพ้รุ่นพี่หากดึงเข้ามาเล่นได้เชื่อว่า เชลซี จะมีผู้เล่นให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลายและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมได้มากกว่าเดิม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
1. โละแข้งเก่า-เติมเลือดใหม่
สอดส่ายสายตาไปที่ขุมกำลังที่มีอยู่จะพบว่า มูรินโญ ยังคงใช้งานนักเตะตัวเก๋าอยู่หลายตำแหน่งทั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด, แอชลีย์ โคล หรือ ซามูเอล เอโต จนทำให้บางครั้งเกมไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร ดังนั้นกุนซือเลือดโปรตุกีส ควรเพิ่มความสดใหม่ดึงแข้งระดับเวิลด์คลาสอย่าง ดิเอโก กอสตา ดาวยิง “ตราหมี” ที่หมายตาอยู่ หรือแข้งระดับคุณภาพรายอื่นๆ ที่อายุยังน้อย มาผนึกกำลังกับแข้งวัยรุ่นอย่าง ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส, ออสการ์ ฯลฯ เพื่อทำให้ “สิงห์บลูส์” กลายเป็นทีมที่น่าหวาดกลัวทันทีตั้งแต่เห็นรายชื่อนักเตะก่อนลงสนาม
2. ปล่อย ตอร์เรส ให้ทีมอื่น
เป็นที่รู้กันดีว่านับตั้งแต่ย้ายมาสวมเสื้อ เชลซี ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) เป็นสถิติโยกย้ายสูงสุดของลีกผู้ดี ทว่ายังไม่สามารถโชว์ฟอร์มคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปแม้แต่ปอนด์เดียว โดยฤดูกาลนี้ยิงไปเพียง 10 ประตู แถมยังไม่สามารถลงมาช่วยทีมในจังหวะสำคัญๆ ได้เลย เรียกว่าสัญชาตญาณนักล่าสมัยอยู่กับ ลิเวอร์พูล จางหายไปหมดแล้วดังนั้น มูรินโญ ต้องเลือกว่าจะเก็บหรือปล่อยออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้ กอสตา เข้ามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
3. เลิกเล่นสงครามจิตวิทยา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเล่นสงครามจิตวิทยานี้คือสิ่งที่ “เดอะ สเปเชียล วัน” ถนัดเป็นพิเศษ ทว่าปีนี้ดูจะหนักข้อเกินไปเมื่อเจ้าตัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของผู้ตัดสินอยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ลงโทษย้อนหลังกลับมาและพลาดคุมทีมข้างสนามในบางเกม ทั้งนี้ เจ้าตัวควรลดละเลิกเรื่องการใช้จิตวิทยาและมองในแง่ดีบ้างเพื่อจะได้มีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น
4. เปิดเกมบุกใส่คู่แข่ง
มูรินโญ เป็นกุนซือที่เน้นทำทีมสไตล์ตั้งรับแล้วสวนกลับได้มีประสิทธิภาพคนหนึ่งของวงการฟุตบอล ซึ่งแท็กติกดังกล่าวก็ได้ผลมาแล้วหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะเกมที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะการันตีชัยชนะได้แต่ก็ทำให้แฟนๆบางส่วนไม่พอใจและอึดอัดไม่น้อย แถมแท็กติกสไตล์ “รถบัสอุดหน้าประตู” ล่าสุดก็ยังใช้ไม่ได้ผลโดน “ตราหมี” ถลุงประตูแบบยับเยินจนแม้แต่ผู้เล่นแนวรุกอย่าง เอเดน ฮาซาร์ด ยังต้องเปิดปากวิจารณ์แท็กติกของเจ้านายแบบไม่มีชิ้นดีจนน่าจะทำให้ มูรินโญ ต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติดังกล่าวแล้วกลับมาเปิดเกมบุกให้มากขึ้น
5. ดึงแข้งเยาวชนขึ้นมาเสริมแกร่ง
โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ทุ่มเงินมหาศาลในการสร้างอคาเดมีนักเตะของทีมขึ้นมา และในกลุ่มแข้งเยาวชนนั้นก็มีนักเตะชั้นดีให้เลือกใช้งานมากมาย โดยเฉพาะ รูเบน ลอฟตัส ชีค กองกลางจอมจ่ายและ แพทริก แบมฟอร์ด ที่ปล่อยให้ เอ็มเค ดอนส์ กับ ดาร์บี เคาน์ตี ยืมตัวไปใช้งานแต่ระเบิดสกอร์ได้ถึง 25 ประตู เรียกว่าฝีไม้ลายมือไม่แพ้รุ่นพี่หากดึงเข้ามาเล่นได้เชื่อว่า เชลซี จะมีผู้เล่นให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลายและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมได้มากกว่าเดิม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *