ASTVผู้จัดการรายวัน - ไรอัน กิกส์ สตาร์ค้างฟ้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการยกย่องจากคนวงการลูกหนังโลกถึงการรักษาสภาพร่างกาย เพราะปัจจุบันยังโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดของอังกฤษด้วยวัย 40 ปี ขณะที่แวดวงฟุตบอลไทยก็ถือว่ามี เทิดศักดิ์ ใจมั่น กองกลาง ชลบุรี เอฟซี ที่วัยรุ่นราวคราวเดียวกัน แถมไม่มีวี่แววว่าจะแขวนสตั๊ด
MGR SPORT จึงถือโอกาสจับเข่าคุยกับ เทิดศักดิ์ เกี่ยวกับเคล็ดลับที่ทำให้ยังเป็นแกนหลักของ ชลบุรี เอฟซี ลุยศึก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก เพราะด้วยอายุอานามที่มากขึ้น รูปแบบการซ้อม การดูแลสภาพร่างกายและอาหารการกินก็ย่อมต้องเปลี่ยนไปด้วย
เทิดศักดิ์ ย้อนถึงจุดเริ่มต้นของการเล่นฟุตบอลว่า “ตั้งแต่เด็ก จำความได้ก็เล่นกับพี่ชายสองคน เตะกันแบบธรรมดาทั่วไป คือรวมกลุ่มกันลงสนาม ไม่ได้เดินสายหาเงิน และไม่เคยคาดหวังว่าจะถึงระดับอาชีพด้วยซ้ำ ตอนนั้นคาดหวังไม่ได้ เพราะไม่เป็นรูปธรรม จับต้องไม่ได้ สมัยก่อนใครได้เล่นแค่ โค้ก คัพ ได้ภูมิใจแล้ว แต่ทุกอย่างกลายเป็นความจริง เมื่อสามารถคัดตัวติดทีมชาติชุด 16 ปี ซึ่งตอนนั้นไปแข่งที่ประเทศโอมาน”
สมัยที่เป็นนักเตะอาชีพ เทิดศักดิ์ ที่เคยเล่นให้กับ สิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ แห่งศึก เอส-ลีก สิงคโปร์ ก็ใช้ชีวิตนอกสนามเหมือนวัยรุ่นหนุ่มๆ ทั่วไปไม่ได้มีการดูแลอะไรเป็นพิเศษ ยามว่างจากลงเตะและซ้อมก็จับกลุ่มสังสรรค์เฮฮากับกลุ่มเพื่อนฝูงตามปกติ
ทว่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้แข้งวัย 40 กะรัตหันกลับมาดูแลสภาพร่างกายมากขึ้น มาจากการเดินทางไปค้าแข้งยังต่างประเทศ “จริงๆ ต้องยอมรับว่า ตอนแรกที่ผมเปลี่ยนวิถีชีวิตเลยคือการได้ไปเล่นต่างประเทศ เพราะมองเลยว่าเราต้องทำให้ดีกว่าทุกคน เขาไม่จ้างคนอ่อนแอหรอก ตั้งแต่ตอนนั้นกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น ซ้อมหนักกว่าเดิม เล่นฟิตเนสมากกว่าปกติ ทำทุกวิถีทางที่จะสามารถสู้กับคนอื่นได้ในสนาม อีกอย่างสมัยก่อนผมไม่เคยคิดว่า การกินอาหารเช้ามันดีต่อสุขภาพมาก คือแบบไม่เคยรู้มาจริงๆ ปกติเราก็ไม่กินหรอกอาหารเช้า แต่ไปอยู่ที่เมืองนอก เขาก็แนะนำเลยว่า อาหารเช้าสำคัญมากนะ ผมก็ลองทำ ทำได้สักพัก รู้เลยว่ามันสำคัญมากจริงๆ เวลาเราไปซ้อมเรารู้สึกสดชื่นกว่าปกติจริงๆ”
“อีกประการที่เปลี่ยนชีวิตผม คือ โยคะ อยากแนะนำนักกีฬาฟุตบอลทุกคนว่าควรจะหันมาออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ การทำโยคะหนึ่งชั่วโมงเหนื่อยมาก ใครว่าไม่เหนื่อย นักฟุตบอลพอเล่น พอซ้อมทุกวันมันก็ต้องมีตึงบ้าง ถ้าเราเล่นโยคะ วันละสักหนึ่งชั่วโมงพอ เข้าคอร์สเลย โยคะร้อน โยคะเย็น ผมว่าเห็นผลแน่นอน ยกตัวอย่าง ไรอัน กิกส์ ที่เขาเล่นโยคะเป็นประจำ ร่างกายเขายืดหยุ่นมากเลย ทำให้เล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงตอนนี้ ทุกวันนี้ตัวผมเล่นโยคะอยู่เสมอ เพราะมันสำคัญมากจริงๆ” เทิดศักดิ์ เผย
ด้วยวัยและความเก๋าเกมทำให้ถูกเพื่อนฝูงและรุ่นน้องเรียกว่าเป็น “น้าเทิด” ไปโดยปริยาย แต่ยืนยันว่าสามารถวิ่งจนครบ 90 นาทีได้เหมือนนักฟุตบอลวัยรุ่นคนอื่น “ตอนนี้บางแมตช์ผมสามารถยืนในสนามครบ 90 นาทีเต็ม แต่ถ้ามีแมตช์ติดๆ กัน พัก 2 วันแข่งที อันนี้ก็ไม่ไหว แนวการเล่นของผมคือจะเล่นแบบใช้สมองมากกว่า ไม่ค่อยใช้กำลัง เพราะมีความเชื่อว่าทุกคนพัฒนากันได้ทุกอย่าง ร่างกาย สรีระ ส่วนเวลาฝึกซ้อมก็เต็มที่ คนอื่นซ้อมอย่างไรก็ทำได้เหมือนอกัน แต่ต้องระวังมากกว่าปกติ เพราะถ้าเราเจ็บการฟื้นฟูเรานี่ยากกว่าคนอายุ 20 ปีแน่นอน”
ส่วนเป้าหมายสำหรับอดีตทีมชาติไทย ย้ำชัดต้องพา “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี คว้าแชมป์ให้ได้สักหนึ่งรายการก่อนที่จะเลิกเล่น พร้อมทิ้งท้ายถึงระยะเวลาที่เหลือของตนเองด้วยว่า “ผมอยากได้แชมป์กับต้นสังกัด อยากตอบแทนความหวังของแฟน ชลบุรี เอฟซี ทุกๆ คน เขามีความหวัง ผมเองก็หวัง ขอแค่ให้ได้ถ้วยแชมป์ เราจะทำอย่างไรก็ได้ให้ได้แชมป์ ไม่มีใครจำทีมอันดับ 2 อันดับ 3 คนเขาจำได้แค่ว่าใครได้แชมป์ ส่วนจะเล่นอีกกี่ปีคงตอบไม่ได้ เพราะอนาคตก็คืออนาคต แต่ถ้าเมื่อไรที่ทีมประสบความสำเร็จและลงตัว สักวันมันก็ต้องถึงเวลาที่ผมต้องอำลาสนามเหมือนกัน”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *