เอเยนซี - ปฏิทินพลิกหน้าเข้าสู่เดือนเมษายน ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าถึงเวลาแล้วที่เหล่านักเทนนิสทั้งชายและหญิงฝั่ง เอทีพี กับ ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ จะต้องเตรียมตัวปรับโหมดการเล่นของตัวเองเข้าสู่การไล่ล่าแชมป์บนพื้นผิวคอร์ตดินท่ามกลางสภาพอากาศและแสงแดดอันร้อนระอุช่วงซัมเมอร์ โดยจะเริ่มที่รายการใหญ่ มอนติ คาร์โล มาสเตอร์ส ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน จนจบ แกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพน วันที่ 8 มิถุนายน ซึ่ง “บลีชเชอร์ รีพอร์ท” สื่อกีฬาของสหรัฐอเมริกา คัดสุดยอดไฮไลท์ที่แฟนหวดห้ามพลาดมาให้ได้ติดตามกันถึง 5 เรื่องดังต่อไปนี้
1. นาดาล ยึดบัลลังก์เจ้าพ่อคอร์ตดิน?
เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลคอร์ตดิน ราฟาเอล นาดาล นักหวดมือ 1 โลกคนปัจจุบัน แทบจะจองตำแหน่งแชมป์ทุกรายการที่เจ้าตัวลงแข่งขันก็ว่าได้เพราะเชี่ยวชาญกับการลงเล่นบนพื้นผิวนี้เป็นพิเศษ และมักจะทำผลงานได้ดีเสมอจนได้แชมป์ในทัวร์นาเมนต์คอร์ตดินกลับบ้านไปประดับตู้โชว์ได้ถึง 43 รายการตลอดการเล่นอาชีพ รวมถึง แกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพน ที่แทบจะเป็นรายการ “เคี้ยวขนม” เพราะโกยโทรฟีไปคนเดียวถึง 8 สมัย
ทว่าที่สื่อต้องตั้งเครื่องหมายคำถามตัวโตต่อท้าย เป็นเพราะผลงานในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2014 ยังไม่น่าประทับใจ แม้จะได้แชมป์ 2 รายการที่ โดฮา กับ บราซิล แต่ก็เป็นเพียงรายการเล็ก ขณะที่ ออสเตรเลียน โอเพน เข้ารอบชิงชนะเลิศแต่ฟอร์มสู้ สตานิสลาส วาวรินกา เจ้าของแชมป์ชาวสวิตไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยคือ โนวัค ยอโควิช ศัตรูตัวฉกาจที่เริ่มคืนฟอร์มและยัดเยียดความปราชัยในรอบชิงที่ ไมอามี เดือนที่แล้วแถมยังหวังแย่งแชมป์รายการอื่นๆ ด้วย เรียกว่าไม่ง่ายเลยสำหรับ “เอล มาทาดอร์” สำหรับภารกิจครองเจ้าแห่งคอร์ตดินในปีนี้
2. ยอโควิช กับสแลมสุดท้ายที่รอคอย
แม้ไม่ใช่พื้นผิวที่ถนัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของ โนวัค ยอโควิช หวดมาดทะเล้นเจ้าของตำแหน่งมือวางอันดับ 2 ของโลก มักถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ในรายการต่างๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะ 3 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับ มาสเตอร์ส ที่ มาดริด, โรม และ มอนติ คาร์โล ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ครบทุกรายการแล้ว แถมยังเป็นแชมป์ที่ได้มาจากการปราบ นาดาล ราชาคอร์ตดิน เสียด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ “โนเล” ต้องการมากที่สุดคงหนีไม่พ้น สแลม เฟรนช์ โอเพน เพราะเป็นโทรฟีระดับเมเจอร์รายการเดียวที่ยังไม่เคยสัมผัสเป็นเจ้าของสักครั้ง ใกล้เคียงสุดคือปี 2012 ที่ฝ่าด่าน โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จอมเก๋าชาวสวิสฯ เข้าถึงรอบชิงแต่ไปแพ้ นาดาล แบบน่าเสียดาย 1-3 เซต ขณะเดียวกันด้วยฟอร์มที่กำลังเข้าฝักต่อเนื่องโดยมี บอริส เบ็คเกอร์ คุมเกมอยู่ด้านหลังก็น่าลุ้นเหลือเกินว่าจะมีงานเลี้ยงฉลองของเจ้าตัวในห้องแต่งตัวของ โรลังต์ การ์รอส หรือไม่?
3. ลุ้น “สแตน-หลี่ นา” เบิ้ล 2 สแลมติด
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก สตานิสลาส วาวรินกา มือแกร่งจาก สวิตเซอร์แลนด์ อีกต่อไปแล้ว หลังยกระดับการเล่นก้าวผ่านร่มเงาของ “เฟดเอ็กซ์” หยิบแชมป์ แกรนด์ สแลม รายการแรกในชีวิตได้ที่ ออสเตรเลีย แถมยังเป็นการเอาชนะ นาดาล แบบเหนือชั้นจนทำให้สื่อต้องใส่ชื่อของหวดวัย 28 ปี เข้าทำเนียบเต็งแชมป์ที่ โรลังต์ การ์รอส ปีนี้ด้วย แม้ต้องเจอกับคู่ต่อสู้ระดับเขี้ยวลากดินที่รออยู่เบื้องหน้า แต่หากฟิตซ้อมหนักจนเบิ้ลสแลม 2 รายการติดที่ฝรั่งเศสได้ ก็จะสร้างชื่อเป็นนักหวดคนแรกในรอบ 22 ปี ที่ได้แชมป์ระดับเมเจอร์ 2 รายการแรก ตาม จิม คูเรียร์ ทำไว้เมื่อปี 1992
ฝั่งของ หลี่ นา ที่เวลานี้ยกสถานะตัวเองขึ้นเป็นนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของฝั่งเอเชียเรียบร้อยจากผลงานคว้าสแลมใบที่ 2 ของตัวเองในมหานครเมลเบิร์น แม้ผลงานดร็อปไปนิดหน่อยแต่เมื่อถึงฤดูกาลคอร์ตดิน “หมวยหลี่” ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเข้าชิงได้ถึง 4 รายการ ส่วนปีนี้หากนักหวดหญิงวัยเก๋าจากแดนมังกร มือ 2 ของโลก เถลิงสแลมที่ปารีสได้เป็นสมัยที่ 2 เซเรนา วิลเลียมส์ ที่ตอนนี้นั่งแท่นเป็นมือ 1 โลกอยู่แต่ฟอร์มการเล่นเริ่มตกลงไป คงเริ่มรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ เพราะจะทำให้การลุ้นบัลลังก์ราชินีนักหวดปีนี้สนุกเข้มข้นยิ่งขึ้น
4. “เมอร์เรย์” กับแชมป์แรกบนคอร์ตดิน
เมอร์เรย์ วัย 26 ปี ขึ้นแท่นเป็นนักหวดลูกสักหลาดเบอร์ 1 ของฝั่งสหราชอาณาจักรอย่างไร้ข้อกังขา จากความสำเร็จคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2012 ที่บ้านเกิด บวก สแลม 2 สมัยใน ยูเอส โอเพน 2012 และ วิมเบิลดัน ปีที่แล้ว ทว่าเมื่อถึงฤดูกาลคอร์ตดินทีไรเปรียบเหมือน “ของสแลง” เพราะนอกจากฮาร์ดคอร์ตและคอร์ตหญ้าแล้ว ยังไม่เคยมีแชมป์คอร์ตดินติดมือเลยแม้แต่รายการเดียว ดีที่สุดคือเข้าตัดเชือก เฟรนช์ โอเพน ปี 2011 และรอบ 8 คนสุดท้าย ปี 2009 และ 2012
ขณะเดียวกันด้วยอาการบาดเจ็บบริเวณด้านหลังที่เรื้อรังมาตลอดทำให้เจ้าตัวยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้เหมือนปีที่แล้วจนตกไปอยู่มือ 8 ของโลก ประกอบกับเพิ่งแยกทาง อิวาน เลนเดิล โค้ชคู่ใจที่ร่วมงานกันมานาน โอกาสปลดล็อกแชมป์คอร์ตดินรายการแรกกลายเป็นงานยากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่แน่หากได้โค้ชที่เคมีตรงกันเข้ามาช่วยปรับสไตล์และเรียกความฟิตกลับมาได้เร็วก็ถือว่ายังพอมีโอกาสบ้าง
5. ม้ามืดตัวสอดแทรกแย่งแชมป์
ไม่ว่ารายการใดย่อมมีตัวละครหน้าใหม่ยกระดับผลงานขึ้นมาแย่งแชมป์กับนักหวดตัวเต็งอยู่เสมอ โดยเฉพาะปีนี้มีที่น่าจับตาหลายรายไล่ตั้งแต่ โทมัส เบอร์ดิช มือ 1 ของเช็กที่เคยยัดเยียดความปราชัยให้ ยอโควิช มาแล้วที่ มอนติ คาร์โล แถมยังเล่นคอร์ตดินได้ดีไม่แพ้คนอื่น เช่นเดียวกับสองผู้เล่นจอมเสิร์ฟหนักอย่าง มิลอส ราโอนิค จาก แคนาดา กับ จอห์น อิสเนอร์ ชาวอเมริกันที่ทำให้คู่ต่อสู้ระดับท็อป 10 น้ำตาตกมานักต่อนัก รวมถึง ดาบิด เฟร์เรร์ จอมเก๋าจากสเปนที่โชว์ฟอร์มกวาดแชมป์คอร์ตดินไปแล้ว 10 รายการ
ส่วนฝ่ายหญิงแม้ไม่มีที่โดดเด่นมากแต่ชื่อของ โดมินิกา ซิบุลโควา สาวสวยจากสโลวาเกีย ก็ไม่อาจมองข้ามไปได้เพราะเคยฝากผลงานเข้าตัดเชือก เฟรนช์ โอเพน มาแล้วปี 2009 แถมปีนี้ยกระดับฟอร์มจนได้เป็นรองแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพน ด้วย หากผลงานยังดีต่อเนื่องไม่แน่อาจมีเซอร์ไพรซ์เกิดขึ้นอีกครั้งก็ได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
