คอลัมน์ “BUZZER BEAT” โดย “MVP”
อย่างที่เคยเกริ่นไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในที่สุด เดอชอน แจ็คสัน ปีกนอกฟรีเอเยนต์จาก ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ก็ลงเอยกับ วอชิงตัน เรดสกินส์ ด้วยสัญญา 3 ปี 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 720 ล้านบาท) แน่นอนว่า “อินเดียนแดง” น่าจะมีทีมบุกที่น่าจับตาไม่น้อยทีเดียว ครั้นศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2014-15 เปิดฉากขึ้น ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ควอเตอร์แบ็กตัวเก่งของทีม จะต้องพิสูจน์ฝีมือว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
เรดสกินส์ จัดการเทรดเพื่อเอาสิทธิ์การดราฟต์อันดับ 2 ปี 2012 คว้าตัว หนุ่มจากมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ มารับตำแหน่งจอมทัพ ซึ่งผลงานปีแรกถือว่า น่าประทับใจไม่น้อย และดูจะโดดเด่นกว่า แอนดรูว์ ลัก นัมเบอร์วันดราฟต์ปีเดียวกันเสียด้วยซ้ำ พร้อมซิวรางวัล “รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์” และพาทีมเข้าเพลย์ออฟ ทว่า เจ้าตัว โชคร้าย เนื่องจากเกิดบาดเจ็บเอ็นเข่าจนต้องรับการผ่าตัดในรอบไวล์ด การ์ด กับ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส จนต้องพักยาว จึงต้องถอนตัวจาก “โพรโบว์ล” แทน
หลังจากพักรักษาตัวนานหลายเดือน จอมขว้างวัย 24 ปี กลับไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งอย่างเคย ขว้างไป 3,203 หลา 16 ทัชดาวน์ เสียไป 12 อินเทอร์เซ็ปต์ 6 ฟัมเบิล ผิดจากซีซันแรก 3,200 หลา 20 ทัชดาวน์ 5 อินเทอร์เซ็ปต์ 3 ฟัมเบิล พอดูเหมือน ลัก จอมทัพ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส ผลงานดูจะสมราคาดราฟต์เบอร์ 1 ยิ่งขึ้น ด้วยการพาแฟรนไชส์ซิวตั๋วเพลย์ออฟ และแชมป์กลุ่ม เอเอฟซี (AFC) ใต้, สร้างไดรฟ์การบุกตัดสินเกม 11 ไดรฟ์ โดยเป็นการคัมแบ็กควอเตอร์สุดท้ายอีก 8 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ด้วยขุมกำลังฤดูกาลหน้า ไม่น่าแปลกใจหาก กริฟฟิน จะกลับมาสร้างชื่อบนสังเวียนคนชนคนอีกครั้ง เมื่อ เรดสกินส์ คว้า เดอชอน แจ็คสัน มาเป็นอีกออปชันหนึ่ง นอกเหนือจาก ปิแอร์ การ์ซอน ปีกนอกตัวเก่ง ซึ่งถูกล็อกเป้ามากสุด 184 ครั้ง ห่างจาก ซานตา มอสส์ ปีกเบอร์ 2 หรือ จอร์แดน รีด ไทต์เอนด์ กว่า 3 เท่าตัว เท่ากับว่า กริฟฟิน จะสามารถกระจายปีกมากขึ้น รวมถึงอาจสร้างความสับสนแก่ทีมพวกกองหลังที่คอยตามประกบ และหากคู่แข่งมัวแต่ระวังการขว้างจนถอยลึก กริฟฟิน ยังมีทีเด็ดจากการถือบอลวิ่งเองเสริมอีกด้วย
เบื้องหลังการย้ายสู่รัง เฟดเอ็กซ์ ฟิลด์ แจ็คสัน ยกเครดิตแก่ “อาร์จีทรี” เป็นผู้มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจครั้งนี้ นับว่าเป็นการบ่งถึงความสัมพันธ์อันดีที่แฟนๆ จะได้เห็นการประสานงานของทั้งคู่ อีกทั้ง มือกาววัย 27 ปี ก็ยังกระสันพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ นึกเสียดายที่เขี่ยหนึ่งในซูเปอร์สตาร์แห่งแฟรนไชส์ ทิ้ง เนื่องจากกังวลด้านภาพลักษณ์มากไป การมาเล่นให้คู่ปรับร่วมกลุ่ม เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก ถือว่าถูกเหมาะเหม็งทีเดียว
จะว่าไป อาร์จีทรี ก็มีทางเลือกในการบุกไม่แตกต่างจาก โคลิน เคเปอร์นิก ควอเตอร์แบ็ก ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ซึ่งมี อันควาน โบลดิน กับ ไมเคิล แคร็บทรี คู่หูปีกนอกร่างยักษ์ คอยรับบอลทางลึก หรืออาจใช้การขว้างสั้นให้ เวอร์นอน เดวิส ปีกในคู่ใจ หรือวิ่งเอง หากแฟรนไชส์ใดมีเกมรุกอันหลากหลาย ก็ย่อมผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ แม้ เรดสกินส์ อาจไม่ถึงขั้นลุ้นแชมป์ แต่ก็น่าจะใกล้เคียงบ้างไม่มากก็น้อย
หากซีซันหน้า เจ้าของรางวัล ไฮส์แมน โทรฟี ปี 2010 ยังไม่สามารถเรียกศรัทธาแฟนๆ กลับมาได้ ก็คงต้องบอกว่าเป็นฤดูกาลอันน่าผิดหวังอีกครั้งสำหรับ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด แม้อาจไม่ถึงกับลุ้นผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) แต่อย่างน้อยๆ เรดสกินส์ น่าจะมีสิทธิ์คว้าตั๋วเพลย์ออฟ
ส่วนคู่แข่งอย่าง นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ส่อแววจะยวบลงไป เนื่องจากเสีย จัสติน ทัคส์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ จอมเก๋า และ ฮาคีม นิกส์ ปีกเบอร์ 2 กอปรกับ อีลาย แมนนิง ควอเตอร์แบ็ก ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย ส่วน ดัลลัส คาวบอยส์ ทีมรับก็อ่อนลงไปเช่นกัน จากการโละ เดอมาร์คัส แวร์ ไลน์แบ็กเกอร์ และ ดีเฟนซีฟ เอนด์ กำลังสำคัญ และทีมบุกก็ยังยึดติดสตาร์หน้าเดิมๆ อย่าง โทนี โรโม (ควอเตอร์แบ็ก), เจสัน วิตเทน (ปีกใน) หรือ เดซ ไบรอันท์ (ปีกนอก) และ อีเกิลส์ ก็เสียปีกอันดับ 1 ของทีมให้แก่คู่แข่งเสียด้วย เท่ากับว่าตัดแขน-ขา นิค โฟลส์ ควอเตอร์แบ็กวัยหนุ่ม ซึ่งแจ้งเกิดจากการแย่งงาน ไมเคิล วิค อย่างสวยหรู
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
อย่างที่เคยเกริ่นไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในที่สุด เดอชอน แจ็คสัน ปีกนอกฟรีเอเยนต์จาก ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ก็ลงเอยกับ วอชิงตัน เรดสกินส์ ด้วยสัญญา 3 ปี 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 720 ล้านบาท) แน่นอนว่า “อินเดียนแดง” น่าจะมีทีมบุกที่น่าจับตาไม่น้อยทีเดียว ครั้นศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2014-15 เปิดฉากขึ้น ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ควอเตอร์แบ็กตัวเก่งของทีม จะต้องพิสูจน์ฝีมือว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
เรดสกินส์ จัดการเทรดเพื่อเอาสิทธิ์การดราฟต์อันดับ 2 ปี 2012 คว้าตัว หนุ่มจากมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ มารับตำแหน่งจอมทัพ ซึ่งผลงานปีแรกถือว่า น่าประทับใจไม่น้อย และดูจะโดดเด่นกว่า แอนดรูว์ ลัก นัมเบอร์วันดราฟต์ปีเดียวกันเสียด้วยซ้ำ พร้อมซิวรางวัล “รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์” และพาทีมเข้าเพลย์ออฟ ทว่า เจ้าตัว โชคร้าย เนื่องจากเกิดบาดเจ็บเอ็นเข่าจนต้องรับการผ่าตัดในรอบไวล์ด การ์ด กับ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส จนต้องพักยาว จึงต้องถอนตัวจาก “โพรโบว์ล” แทน
หลังจากพักรักษาตัวนานหลายเดือน จอมขว้างวัย 24 ปี กลับไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งอย่างเคย ขว้างไป 3,203 หลา 16 ทัชดาวน์ เสียไป 12 อินเทอร์เซ็ปต์ 6 ฟัมเบิล ผิดจากซีซันแรก 3,200 หลา 20 ทัชดาวน์ 5 อินเทอร์เซ็ปต์ 3 ฟัมเบิล พอดูเหมือน ลัก จอมทัพ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส ผลงานดูจะสมราคาดราฟต์เบอร์ 1 ยิ่งขึ้น ด้วยการพาแฟรนไชส์ซิวตั๋วเพลย์ออฟ และแชมป์กลุ่ม เอเอฟซี (AFC) ใต้, สร้างไดรฟ์การบุกตัดสินเกม 11 ไดรฟ์ โดยเป็นการคัมแบ็กควอเตอร์สุดท้ายอีก 8 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ด้วยขุมกำลังฤดูกาลหน้า ไม่น่าแปลกใจหาก กริฟฟิน จะกลับมาสร้างชื่อบนสังเวียนคนชนคนอีกครั้ง เมื่อ เรดสกินส์ คว้า เดอชอน แจ็คสัน มาเป็นอีกออปชันหนึ่ง นอกเหนือจาก ปิแอร์ การ์ซอน ปีกนอกตัวเก่ง ซึ่งถูกล็อกเป้ามากสุด 184 ครั้ง ห่างจาก ซานตา มอสส์ ปีกเบอร์ 2 หรือ จอร์แดน รีด ไทต์เอนด์ กว่า 3 เท่าตัว เท่ากับว่า กริฟฟิน จะสามารถกระจายปีกมากขึ้น รวมถึงอาจสร้างความสับสนแก่ทีมพวกกองหลังที่คอยตามประกบ และหากคู่แข่งมัวแต่ระวังการขว้างจนถอยลึก กริฟฟิน ยังมีทีเด็ดจากการถือบอลวิ่งเองเสริมอีกด้วย
เบื้องหลังการย้ายสู่รัง เฟดเอ็กซ์ ฟิลด์ แจ็คสัน ยกเครดิตแก่ “อาร์จีทรี” เป็นผู้มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจครั้งนี้ นับว่าเป็นการบ่งถึงความสัมพันธ์อันดีที่แฟนๆ จะได้เห็นการประสานงานของทั้งคู่ อีกทั้ง มือกาววัย 27 ปี ก็ยังกระสันพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ นึกเสียดายที่เขี่ยหนึ่งในซูเปอร์สตาร์แห่งแฟรนไชส์ ทิ้ง เนื่องจากกังวลด้านภาพลักษณ์มากไป การมาเล่นให้คู่ปรับร่วมกลุ่ม เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก ถือว่าถูกเหมาะเหม็งทีเดียว
จะว่าไป อาร์จีทรี ก็มีทางเลือกในการบุกไม่แตกต่างจาก โคลิน เคเปอร์นิก ควอเตอร์แบ็ก ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ซึ่งมี อันควาน โบลดิน กับ ไมเคิล แคร็บทรี คู่หูปีกนอกร่างยักษ์ คอยรับบอลทางลึก หรืออาจใช้การขว้างสั้นให้ เวอร์นอน เดวิส ปีกในคู่ใจ หรือวิ่งเอง หากแฟรนไชส์ใดมีเกมรุกอันหลากหลาย ก็ย่อมผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ แม้ เรดสกินส์ อาจไม่ถึงขั้นลุ้นแชมป์ แต่ก็น่าจะใกล้เคียงบ้างไม่มากก็น้อย
หากซีซันหน้า เจ้าของรางวัล ไฮส์แมน โทรฟี ปี 2010 ยังไม่สามารถเรียกศรัทธาแฟนๆ กลับมาได้ ก็คงต้องบอกว่าเป็นฤดูกาลอันน่าผิดหวังอีกครั้งสำหรับ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด แม้อาจไม่ถึงกับลุ้นผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) แต่อย่างน้อยๆ เรดสกินส์ น่าจะมีสิทธิ์คว้าตั๋วเพลย์ออฟ
ส่วนคู่แข่งอย่าง นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ส่อแววจะยวบลงไป เนื่องจากเสีย จัสติน ทัคส์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ จอมเก๋า และ ฮาคีม นิกส์ ปีกเบอร์ 2 กอปรกับ อีลาย แมนนิง ควอเตอร์แบ็ก ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย ส่วน ดัลลัส คาวบอยส์ ทีมรับก็อ่อนลงไปเช่นกัน จากการโละ เดอมาร์คัส แวร์ ไลน์แบ็กเกอร์ และ ดีเฟนซีฟ เอนด์ กำลังสำคัญ และทีมบุกก็ยังยึดติดสตาร์หน้าเดิมๆ อย่าง โทนี โรโม (ควอเตอร์แบ็ก), เจสัน วิตเทน (ปีกใน) หรือ เดซ ไบรอันท์ (ปีกนอก) และ อีเกิลส์ ก็เสียปีกอันดับ 1 ของทีมให้แก่คู่แข่งเสียด้วย เท่ากับว่าตัดแขน-ขา นิค โฟลส์ ควอเตอร์แบ็กวัยหนุ่ม ซึ่งแจ้งเกิดจากการแย่งงาน ไมเคิล วิค อย่างสวยหรู
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
