คอลัมน์ “BUZZER BEAT” โดย “MVP”
พบกันเป็นครั้งแรกต้อนรับลมร้อนต้นเดือนเมษายนพอดี จึงต้องขอฝากเนื้อฝากตัวตามขนมธรรมเนียมประเพณีไทยกันสักหน่อย โดยจากนี้จะเจอกันเป็นประจำทุกวันพฤหัสบดีกับแวดวงข่าวสารฟากอเมริกันเกม
เข้าเรื่องเลยแล้วกันศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ กำลังจะปิดฉากฤดูกาลปกติอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นเร็วๆ นี้ เราคงจะเห็นโฉมหน้าการประกบคู่รอบเพลย์ออฟ สายตะวันออก และ ตะวันตก ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคงหนีไม่พ้นการชิงรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซึ่งหากลองพิจารณาอย่างจริงๆ จังๆ คงไม่มีใครโดดเด่นเกินกว่า เควิน ดูแรนท์ แม่ทัพ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์
ดูแรนท์ ดราฟต์เบอร์ 2 ปี 2008 โลดแล่นอยู่ในวงการมานานร่วม 6 ปี เคยคว้ารางวัล รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์ ,ติดออล-สตาร์ 5 ครั้ง และแชมป์ผู้เล่นทำสกอร์สูงสุด 3 สมัยซ้อน (2010-12) แต่สุดท้ายก็กลายป็นพระรองของสตาร์รุ่นพี่อย่าง เลอบรอน เจมส์ และ คาร์เมโล แอนโธนี อยู่ร่ำไป
แต่ฤดูกาล 2013-14 เรียกได้ว่าน่าผิดหวังสำหรับ “เมโลแมน” ถึงแม้จะยังเล่นอย่างคงเส้นคงวามาตลอด ทว่าสถานการณ์พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เมื่อ นิวยอร์ก นิกส์ แปรสภาพจากตัวเต็ง กลายเป็นทีมกระเสือกกระสนกับการเบียดแย่งตั๋วเพลย์ออฟใบสุดท้าย ก็เท่ากับว่าตัดคู่แข่งไปหนึ่งราย ส่วน “คิงเจมส์” แน่นอนว่ายังเป็นแคนดิเดตทุกๆ ซีซัน แต่คราวนี้ไฮไลต์มีเพียงกด 61 แต้ม สูงสุดในอาชีพใส่ ชาร์ลอตต์ บ็อบแค็ทส์ คงไม่อาจเทียบเท่าซีซันก่อน ซึ่งสร้างสถิติส่อง 30 แต้ม ยิงฟิลด์โกล 60 เปอร์เซ็นต์ 6 เกมรวด หากมองกันเรื่องความสม่ำเสมอ
การเข้าๆ ออกๆ ของ รัสเซลล์ เวสต์บรูก การ์ดจ่ายคู่หู ที่มีปัญหาเจ็บเข่า ทำให้ “เคดี” ต้องแบกภาระมากกว่าเดิม นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่คราวนี้ “โอเคซี” มิได้บ้อท่าดังเช่นรอบเพลย์ออฟปีที่แล้ว โดย ดูแรนท์ ต้องรับผิดชอบด้านการคุมบอล ซึ่งก็ทำได้น่าพอใจไม่แพ้กันปิดสกอร์ที่มีเป็นทุนอยู่แล้ว เนื่องจากค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงถึง 5.6 แอสซิสต์ต่อเกม (ปีที่แล้ว 4.6) แถมยังมีไฮไลต์เด่น คือ การเข้าใกล้สถิติซัดเกิน 25 แต้ม 40 เกมรวดของตำนานที่ทุกคนรู้จักแม้ไม่ดูบาสฯ อย่าง ไมเคิล จอร์แดน (1985-86) แถมยังมีโอกาสครองแชมป์ทำคะแนนสมัย 4 อีกด้วยจากผลงาน 32.2 แต้ม ทิ้งห่าง คาร์เมโล แอนโธนี ถึง 4.2 แต้ม
ส่วนม้ามืดอีก 1 รายซึ่งสื่อหลายสำนักจับตามองจะแย่งรางวัล MVP กับ ดูแรนท์ และ เลอบรอน ได้แก่ เบลค กริฟฟิน ฟอร์เวิร์ดตัวเก่ง แอลเอ คลิปเปอร์ส ซึ่งฤดูกาลนี้ หนุ่มจากมหาวิทยาลัย โอกลาโฮมา พิสูจน์แล้วว่าตนไม่ได้มีดีแค่การดังก์อันหนักหน่วงอย่างที่ผ่านมา ตามสถิติจากเว็บไซต์ “Dimemag.com” เผยว่า จอมแม่นวัย 25 ปี พัฒนาด้านการจัมพ์ชูตขึ้นมาเยอะทีเดียว เข้าเป้าถึง 36 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะระยะ 16-25 ฟุต แม่นยำ 36 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากฤดูกาลที่แล้ว ทำได้แค่ 33 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 16-25 ฟุต 34 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการยิง 3 แต้ม กระโดดจาก 17.9 เป็น 27.5 เปอร์เซ็นต์ ปิดสกอร์ 24.0 แต้ม 9.6 รีบาวนด์
ทิ้งท้ายวันนี้ขอแว่บมายังตลาดฟรีเอเยนต์ที่ทำท่าจะซาไปพอสมควร อยู่ดีไม่ว่าดี ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ก็ปลุกความคึกคัก ปล่อย เดอชอน แจ็คสัน ปีกนอกเบอร์ 1 ของทีม ซึ่งรับบอล 1,332 หลา 9 ทัชดาวน์ เสียอย่างนั้น อันเนื่องมาจากข่าวลือว่า เจ้าตัวพัวพันแก็งค์ข้างถนนเมืองแอลเอ ไม่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อทีมหรือไม่ แต่ตอนนี้มีรายงานว่า วอชิงตัน เรดสกินส์ คู่ปรับร่วมสาย เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก กำลังจะคว้าตัวไปผนึกกำลัง ปิแอร์ การ์ซอน ที่ทำผลงาน 1,343 หลา 5 ทัชดาวน์
ดูท่าหาก เจย์ กรูเดน หัวหน้าโค้ชคนใหม่ ยังคงวางใจ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ควอเตอร์แบ็ก นำทัพต่อ เห็นทีคงไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบันวิ่งมากนัก และอาจเปิดเกมขว้างยาวสนุกมือทีเดียว โดยค่าเฉลี่ยการรับบอลต่อหนึ่งครั้งของ การ์ซอน และ แจ็คสัน อยู่ที่ 11.9 และ 16.2 หลา ตามลำดับ และมีอ็อปชันเกมวิ่งจาก อัลเฟร็ด มอร์ริส ที่ตะลุยไป 1,275 หลา 7 ทัชดาวน์ แค่คิด “อินเดียนแดง” ก็น่าจับตามองไม่น้อยเมื่อถึงฤดูกาลใหม่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
พบกันเป็นครั้งแรกต้อนรับลมร้อนต้นเดือนเมษายนพอดี จึงต้องขอฝากเนื้อฝากตัวตามขนมธรรมเนียมประเพณีไทยกันสักหน่อย โดยจากนี้จะเจอกันเป็นประจำทุกวันพฤหัสบดีกับแวดวงข่าวสารฟากอเมริกันเกม
เข้าเรื่องเลยแล้วกันศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ กำลังจะปิดฉากฤดูกาลปกติอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นเร็วๆ นี้ เราคงจะเห็นโฉมหน้าการประกบคู่รอบเพลย์ออฟ สายตะวันออก และ ตะวันตก ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคงหนีไม่พ้นการชิงรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซึ่งหากลองพิจารณาอย่างจริงๆ จังๆ คงไม่มีใครโดดเด่นเกินกว่า เควิน ดูแรนท์ แม่ทัพ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์
ดูแรนท์ ดราฟต์เบอร์ 2 ปี 2008 โลดแล่นอยู่ในวงการมานานร่วม 6 ปี เคยคว้ารางวัล รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์ ,ติดออล-สตาร์ 5 ครั้ง และแชมป์ผู้เล่นทำสกอร์สูงสุด 3 สมัยซ้อน (2010-12) แต่สุดท้ายก็กลายป็นพระรองของสตาร์รุ่นพี่อย่าง เลอบรอน เจมส์ และ คาร์เมโล แอนโธนี อยู่ร่ำไป
แต่ฤดูกาล 2013-14 เรียกได้ว่าน่าผิดหวังสำหรับ “เมโลแมน” ถึงแม้จะยังเล่นอย่างคงเส้นคงวามาตลอด ทว่าสถานการณ์พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เมื่อ นิวยอร์ก นิกส์ แปรสภาพจากตัวเต็ง กลายเป็นทีมกระเสือกกระสนกับการเบียดแย่งตั๋วเพลย์ออฟใบสุดท้าย ก็เท่ากับว่าตัดคู่แข่งไปหนึ่งราย ส่วน “คิงเจมส์” แน่นอนว่ายังเป็นแคนดิเดตทุกๆ ซีซัน แต่คราวนี้ไฮไลต์มีเพียงกด 61 แต้ม สูงสุดในอาชีพใส่ ชาร์ลอตต์ บ็อบแค็ทส์ คงไม่อาจเทียบเท่าซีซันก่อน ซึ่งสร้างสถิติส่อง 30 แต้ม ยิงฟิลด์โกล 60 เปอร์เซ็นต์ 6 เกมรวด หากมองกันเรื่องความสม่ำเสมอ
การเข้าๆ ออกๆ ของ รัสเซลล์ เวสต์บรูก การ์ดจ่ายคู่หู ที่มีปัญหาเจ็บเข่า ทำให้ “เคดี” ต้องแบกภาระมากกว่าเดิม นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่คราวนี้ “โอเคซี” มิได้บ้อท่าดังเช่นรอบเพลย์ออฟปีที่แล้ว โดย ดูแรนท์ ต้องรับผิดชอบด้านการคุมบอล ซึ่งก็ทำได้น่าพอใจไม่แพ้กันปิดสกอร์ที่มีเป็นทุนอยู่แล้ว เนื่องจากค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงถึง 5.6 แอสซิสต์ต่อเกม (ปีที่แล้ว 4.6) แถมยังมีไฮไลต์เด่น คือ การเข้าใกล้สถิติซัดเกิน 25 แต้ม 40 เกมรวดของตำนานที่ทุกคนรู้จักแม้ไม่ดูบาสฯ อย่าง ไมเคิล จอร์แดน (1985-86) แถมยังมีโอกาสครองแชมป์ทำคะแนนสมัย 4 อีกด้วยจากผลงาน 32.2 แต้ม ทิ้งห่าง คาร์เมโล แอนโธนี ถึง 4.2 แต้ม
ส่วนม้ามืดอีก 1 รายซึ่งสื่อหลายสำนักจับตามองจะแย่งรางวัล MVP กับ ดูแรนท์ และ เลอบรอน ได้แก่ เบลค กริฟฟิน ฟอร์เวิร์ดตัวเก่ง แอลเอ คลิปเปอร์ส ซึ่งฤดูกาลนี้ หนุ่มจากมหาวิทยาลัย โอกลาโฮมา พิสูจน์แล้วว่าตนไม่ได้มีดีแค่การดังก์อันหนักหน่วงอย่างที่ผ่านมา ตามสถิติจากเว็บไซต์ “Dimemag.com” เผยว่า จอมแม่นวัย 25 ปี พัฒนาด้านการจัมพ์ชูตขึ้นมาเยอะทีเดียว เข้าเป้าถึง 36 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะระยะ 16-25 ฟุต แม่นยำ 36 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากฤดูกาลที่แล้ว ทำได้แค่ 33 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 16-25 ฟุต 34 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการยิง 3 แต้ม กระโดดจาก 17.9 เป็น 27.5 เปอร์เซ็นต์ ปิดสกอร์ 24.0 แต้ม 9.6 รีบาวนด์
ทิ้งท้ายวันนี้ขอแว่บมายังตลาดฟรีเอเยนต์ที่ทำท่าจะซาไปพอสมควร อยู่ดีไม่ว่าดี ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ก็ปลุกความคึกคัก ปล่อย เดอชอน แจ็คสัน ปีกนอกเบอร์ 1 ของทีม ซึ่งรับบอล 1,332 หลา 9 ทัชดาวน์ เสียอย่างนั้น อันเนื่องมาจากข่าวลือว่า เจ้าตัวพัวพันแก็งค์ข้างถนนเมืองแอลเอ ไม่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อทีมหรือไม่ แต่ตอนนี้มีรายงานว่า วอชิงตัน เรดสกินส์ คู่ปรับร่วมสาย เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก กำลังจะคว้าตัวไปผนึกกำลัง ปิแอร์ การ์ซอน ที่ทำผลงาน 1,343 หลา 5 ทัชดาวน์
ดูท่าหาก เจย์ กรูเดน หัวหน้าโค้ชคนใหม่ ยังคงวางใจ โรเบิร์ต กริฟฟิน เดอะ เธิร์ด ควอเตอร์แบ็ก นำทัพต่อ เห็นทีคงไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบันวิ่งมากนัก และอาจเปิดเกมขว้างยาวสนุกมือทีเดียว โดยค่าเฉลี่ยการรับบอลต่อหนึ่งครั้งของ การ์ซอน และ แจ็คสัน อยู่ที่ 11.9 และ 16.2 หลา ตามลำดับ และมีอ็อปชันเกมวิ่งจาก อัลเฟร็ด มอร์ริส ที่ตะลุยไป 1,275 หลา 7 ทัชดาวน์ แค่คิด “อินเดียนแดง” ก็น่าจับตามองไม่น้อยเมื่อถึงฤดูกาลใหม่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
