เอเยนซี - ในที่สุดก็ถึงวันตัดสินว่าฤดูกาลนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะรูดม่านก่อนกำหนดหรือไม่ เมื่อจะต้องบุกถิ่น อัลลิอันซ์ อารีนา ของ “แชมป์เก่า” บาเยิร์น มิวนิก ทำศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง วันพุธที่ 9 เมษายนนี้ ภายใต้ข้อแม้ต้องยิงประตูให้ได้ เพราะที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เสียอเวย์โกลด้วยสกอร์ 1-1 ขณะที่เจ้าถิ่นก็ต้องปรับกระบวนทัพรับมือพอสมควรกับปัญหานักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบน
แมนฯยู กำลังใจจดจ่อบุกถ้ำ “เสือใต้” แม้นัดแรกจะเสียเปรียบ แต่รูปเกมถือว่าไม่เป็นรองสามารถขึ้นนำไปก่อน จากนั้นเกม พรีเมียร์ ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาก็เรียกความมั่นใจอุ่นเครื่องด้วยการบุกชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-0 แน่นอนว่าเป้าหมายคือตำแหน่งชนะเลิศสถานเดียวเพื่อโควตากลับไปเล่นฤดูกาลหน้าในฐานะแชมป์เก่า เนื่องจากผลงานในลีกเกาะอันดับ 7 ห่างจาก “ท็อปโฟร์” อาร์เซนอล ถึง 7 แต้มขณะที่เหลือ 5 นัดแถมมี เอฟเวอร์ตัน กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นขวากหนามอีก
ก่อนเกมทุกคนพูดถึงสปิริตเมื่อฤดูกาล 2011-12 เชลซี จบอันดับ 6 พรีเมียร์ ลีก ก่อนจะคว่ำ บาเยิร์น นัดชิง แชมเปียนส์ ลีก ด้วยการดวลจุดโทษชนะ 4-3 หลังเสมอกัน 1-1 มานูเอล นอยเออร์ จอมหนึบทีมชาติเยอรมนี ของ “เสือใต้” ก็หวั่นว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย “เราคิดย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน เชลซี ผลงานในลีกไม่ดีเลย แต่ดันคว้าแชมป์ยุโรป จึงถือเป็นปีเคราะห์ร้ายสำหรับเราอย่างแท้จริง”
บาเยิร์น เข้าป้ายชูถาดแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 24 ด้วยสถิติเร็วที่สุดไปแล้ว ทำให้ 2 นัดหลังสะดุดเล่นในบ้านเจ๊า ฮอฟเฟนไฮม์ 3-3 และบุกแพ้ เอาส์บวร์ก 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนเป็นเรื่องของแรงจูงใจที่ต้องตกลงไปเป็นธรรมดา ถือเป็นการปราชัยนัดแรกของฤดูกาลนี้ในลีก พร้อมสถิติไร้พ่ายที่สะสมมาจากปีที่แล้วถูกหยุดไว้ที่ 53 เกม
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ บาเยิร์น จำเป็นต้องปลุกขวัญและกำลังใจแข้ง บาเยิร์น กลับมาโดยเร็วที่สุด แถมนัดนี้จะไม่มี 2 กองกลางคือ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ ฆาบี มาร์ติเนซ โดยรายแรกติดโทษแบนจากใบแดงท้ายเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ส่วนรายหลังสะสมใบเหลืองครบโควตา นอกจากนี้ ติอาโก อัลคานทารา มิดฟิลด์ชาวสแปนิชยังบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ เซอร์ดาน ชากิรี ตัวรุกชาวสวิส ดังนั้นอาจจะต้องดัน ฟิลิปป์ ลาห์ม มายืนหน้าแบ็กโฟร์ร่วมกับ โทนี โครส และให้ ฟรองค์ ริเบรี, อาร์เยน ร็อบเบน กับ โทมัส มุลเลอร์ ปั้นเกมหลัง มาริโอ มานด์ซูคิช ส่วนอีกตัวเลือกก็คือ มาริโอ เกิทเซ ดูภาพรวมแล้วก็ยังเป็นขุมแนวรุกที่เหนือกว่า แมนฯยู
ขณะที่ทีมเยือน แมนฯยู มีปัญหากองหน้าเมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงเล่นแน่นอน เวย์น รูนีย์ เจ็บเท้าวืดเกมกับ นิวคาสเซิล แต่เชื่อว่าคงต้องเสี่ยงเข็นดาวยิงทีมชาติอังกฤษล่าตาข่ายกับภารกิจสุดท้ายของฤดูกาลนี้ แม้ว่า ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ ดาวยิงเม็กซิกัน จะยิงได้นัดถล่ม แอสตัน วิลลา 4-1 และที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ก นัดล่าสุด รวมถึง แดนนี เวลเบ็ค ก็ป่วนแผงหลัง บาเยิร์น ได้ดีในเกมแรก ทว่ากระดูกและประโยชน์อาจจะน้อยกว่า แถมสกอร์เบียดน่าจะรอลุ้นลงมาเปลี่ยนเกมยามคับขันมากกว่า
ส่วนตัวสนับสนุน ชินจิ คากาวะ กับ อัดนัน ยานูไซจ์ น่าจะมีโอกาส หลังทำผลงานได้เข้าตาในระยะหลัง แต่ ฆวน มาตา ปีกทีมชาติสเปน ติดคัพไทจากการเล่นให้ เชลซี มาแล้ว ด้านเกมรับมีลุ้นได้ จอนนี อีแวนส์ ฟิตกลับมา แต่ เดวิด มอยส์ กุนซือ แมนฯยู ประทับใจ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ เนมานยา วิดิช ที่กลับมาเข้าขากันอีกครั้งมากกว่า โดยจะอาศัยประสบการณ์หยุดแนวรุก บาเยิร์น
ค่ำคืนวันเดียวกันอีกหนึ่งคู่ แอตเลติโก มาดริด จะเปิด บิเซนเต กัลเดรอน ทำศึกสายเลือดสเปนรับมือ บาร์เซโลนา โดยนัดแรกบุกเสมอ 1-1 ถือว่าเจ้าถิ่นมีลุ้นเพราะปีนี้เจอกันมา 4 ครั้งเสมอรวด แถมทีมเยือนไม่มี เคราร์ด ปิเก ที่บาดเจ็บ มาร์ก บาร์ตรา จะแทนในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่กองกลางและกองหน้าระดับพระกาฬยังอยู่กันครบ
ด้านทีม แอต.มาดริด ลุ้นเข้ารอบรอบรองชนะเลิศครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1974 อาจไม่มี ดิเอโก กอสตา ดาวยิงจอมถล่มประตู 25 ลูกที่เจ็บจากนัดแรก ณ คัมป์ นู รวมไปถึง อาร์ดา ตูราน กองกลาง ทว่าจะได้ กาบี กัปตันพ้นโทษแบนเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์เปิดบ้านชนะ บียาร์ริล 1-0 กลับมาบัญชาเกม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *