xs
xsm
sm
md
lg

ยกต่อไป “บังยี VS ก๊อง” ลุ้นเลือกตั้งบอลไทยโมฆะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชัยชนะของ วรวีร์ มีโอกาสเป็นโมฆะ
ASTV ผู้จัดการรายวัน – ณ เวลานี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะถูกศาลกีฬาโลกพิพากษาให้ชัยชนะจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะ หากเป็นเช่นนนั้นวงการลูกหนังอาจต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ เนื่องจากมองดูแล้วหลักฐานของฝั่ง “บิ๊กก๊อง” วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิงที่เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนั้นก็มีน้ำหนักพอตัว

ปัญหาการเลือกตั้ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังถือเป็นมหากาพย์ไม่รู้จักจบสิ้น แม้ว่า วรวีร์ มะกูดี อดีตนายใหญ่ 3 สมัย จะได้รับการชูมือเหนือผู้ท้าชิงอย่าง วิรัช ชาญพานิชย์ ด้วยคะแนน 42-28 เสียง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 แต่ขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินทางไปให้ปากคำต่อศาลกีฬาโลก หรือ “ซีเอเอส” ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่ฝั่งผู้ปราชัยเป็นโจทย์ยื่นเรื่องฟ้องให้เข้ามาตรวจสอบการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นว่าผิดข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯหรือไม่ ก่อนจะมีคำตัดสินออกมาประมาณวันที่ 26 มีนาคมนี้

สำหรับเรื่องที่ฝั่งฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตให้ศาลกีฬาโลกสอบสวนมีอยู่ 3 ประเด็นใหญ่ๆ คือ 1.มีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการอุทธรณ์ฝั่งนายวรวีร์โดยพลการ 2.มีสโมสรสมาชิกฝั่งตนถูกผู้อื่นสวมสิทธิ์เข้าไปลงคะแนนแทน และ 3.นายวรวีร์ และสภากรรมการชุดเดิมอีก 8 ราย ทำผิดข้อบังคับฉบับใหม่ ข้อ 21.4 ที่ระบุว่าสภากรรมการและเลขาธิการที่อยู่ในระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ไม่มีสิทธิลงคะแนนหรือได้รับการเป็นตัวแทนของสโมสรสมาชิก

ซึ่งหากวิเคราะห์กันแล้ว 2 ข้อแรกนั้นเกี่ยวพันกันและมีสิทธิ์ที่จะออกได้ทั้ง 2 หน้า เพราะแต่ละฝั่งก็มีหลักฐานของตนเอง ด้าน วิรัช มีพยานบุคคลและเอกสารของผู้เสียสิทธิ์ที่ลัดฟ้าตามไปให้ข้อมูลด้วย ส่วน วรวีร์ ก็มีเอกสารหลักฐานและเทปบันทึกเหตุการณ์ในวันเลือกตั้งว่าทุกอย่างเรียบร้อยโปร่งใส รวมถึงยังมีผลการรับรอง

ข้อสุดท้ายถือเป็นไม้เด็ดของฝั่ง วิรัช ที่จะใช้มัดตัวคู่แข่งก็ว่าได้ เพราะแม้ว่าทาง วรวีร์ จะชี้แจงว่าตนเองและคณะได้ลาออกจากตำแหน่งก่อนวันเลือกตั้งแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2556 ก็ตาม แต่หลังจากนั้นได้มีการเผยหลักฐานว่าทางสมาคมฟุตบอลฯยังไม่มีการขอจดทะเบียนสภากรรมการชุดใหม่แต่อย่างใด ยังคงเป็นรายชื่อกรรมการชุดเดิมที่ขอจดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 จึงทำให้ “บังยี” ยังต้องปฏิบัติหน้าที่นายกสมาคมฯต่อจนกว่าจะมีสภากรรมการชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 85 และอาจส่งผลถึงการที่เจ้าตัวไปเป็นโหวตเตอร์เสียเอง

หาก วรวีร์ ไม่สามารถแก้ต่างเรื่องการเป็นผิดข้อบังคับเป็นตัวแทนไปโหวตคะเนนเสียเองได้ มีสิทธิ์ที่ผลการตัดสินจะเข้าทางฝั่ง “บิ๊กก๊อง” สูง และเป็นไปได้ที่ศาลกีฬาโลกจะมีมติให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะแล้วให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้น ที่ดูแล้วน่าจะเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด ส่วนที่จะต้องโทษหนักถึงขนาดให้คู่แข่งเป็นฝ่ายชนะไปเลยหรือถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลตลอดชีวิตนั้นคงเป็นไปได้ยาก และก็ต้องขึ้นอยู่กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา” อีกครั้งว่าจะออกมาเทคแอ็คชันตามที่คำพิพากษาของศาลกีฬาโลกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลการตัดสินของศาลกีฬาโลกจะเข้าทางผู้ท้าชิง แต่ วิรัช เองยังต้องรับมือกับปัญหาในประเทศที่ยังแก้ไม่ตก เพราะขณะนี้เรื่องการจดทะเบียนรับรองสภากรรมการชุดใหม่ของ วรวีร์ ถึงมือการปกครองแล้ว ซึ่งทางกรมการปกครองตั้งธงแล้วว่าหากเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย รวมถึงมีหนังสือรับรองจาก กกท. และทุกอย่างไม่ขัดต่อกฎหมายไทย ทางกรมฯต้องจดทะเบียนรับรองภายใน 45 วัน นับจากวันที่ 19 มีนาคม 2557 หรือภายในวันที่ 2 พฤษภาคม นี้เท่านั้น ส่วนผลการตัดสินของศาลกีฬาโลกจะเป็นอย่างไรนั้นจะไม่มีผลต่อการจดทะเบียนที่ยึดกฎหมายไทยเป็นหลัก ที่สำคัญคดีที่ฝั่งฝ่ายค้านฟ้องร้องต่อศาลปกครองในประเทศ อาทิ มีปลอมแปลงเอกสารโดยแอบแก้ไขข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯก่อนนำไปจดทะเบียน และ มีการจัดการเลือกตั้งโดยมิชอบ นั้นทางศาลก็ยังไม่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งคุ้มครองออกมาแต่อย่างใด ทำให้ทางกรมการปกครองจึงต้องเดินหน้าต่อตามหน้าที่ของตนเอง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางด้านของ นายกษิติ กมลนาวิน คอลัมนิสต์กีฬาชื่อดัง และ 1 ในผู้แสดงความจำนงลงสมัครท้าชิงการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯครั้งที่ผ่านมาก่อนสุดท้ายจะถอนตัวไป ได้ให้ทรรศนะว่ามีโอกาสสูงที่คำตัดสินจะเข้าทางฝั่งนายวิรัช “ผมมองว่าคุณวรวีร์ จะได้เปรียบจากการที่เป็นบอร์ดบริหารของฟีฟามายาวนาน จึงอาจทำให้ได้รับความเคารพนับถือมากในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีผลการรับรองของหน่วยงานกีฬาในประเทศอย่าง กกท.ที่จะใช้เป็นหลักฐานในการประกอบคำพิจารณาอีกด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ผมก็มองว่ากกท.ยังไม่น่าจะรีบพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาเพราะยังมีฝ่ายเสียประโยชน์ยื่นฟ้องร้องอยู่จำนวนมาก”

“อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งคุณวรวีร์น่าจะเสียเปรียบในเรื่องการทำผิดข้อบังคับที่ห้ามเป็นตัวแทนไปลงคะแนน เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวอ้างมาตลอดว่ายังอยู่ในตำแหน่ง และยังไม่เคยมีการแถลงข่าวหรือแสดงหลักฐานอย่างเป็นทางการเลย ผมจึงคาดว่าทิศทางของศาลน่าจะมีคำตัดสินให้การเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นไม่ถูกต้อง แต่คงจะไม่ถึงกับเป็นการทุจริต เนื่องจากแม้สภากรรมการจะเป็นผู้ผิดข้อบังคับแต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าบัตรในหีบใบไหนเป็นของใคร และศาลคงตัดสินให้มีการเลือกตั้งใหม่ ส่วนจะมีบทลงโทษในตัวบุคคลหรือไม่นั้นก็ต้องว่ากันอีกที” กษิติ เผย

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


วิรัช หวังศาลกีฬาโลกเป็นที่พึ่งสุดท้าย
กษิติ กมลนาวิน เชื่อผู้ท้าชิงได้เปรียบ
กำลังโหลดความคิดเห็น