โซล แคมป์เบลล์ อดีตกองหลังจอมแกร่งทีมชาติอังกฤษ จวก สมาคมลูกหนังเมืองผู้ดี (เอฟเอ) กีดกันไม่ให้สวมปลอกแขนกัปตัน “สิงโตคำราม” เป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี ทั้งที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เนื่องจากเพียงเพราะว่าเป็นคนผิวสี จากการตีข่าวของ “เดอะ ซันเดย์ ไทมส์”
แคมป์เบลล์ รับใช้ อังกฤษ 73 นัด โดยมีเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้นที่ได้เป็นกัปตันทีม ซึ่งอดีตกองหลัง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, อาร์เซนอล และ ปอร์ทสมัธ ออกมาตำหนิ สมาคมฟุตบอลเมืองผู้ดี ที่ไม่ยอมให้ยึดตำแหน่งนี้แบบถาวรเพียงเพราะว่าเป็นคนผิวสี
“ผมเชื่อว่าถ้าหากตนเองผิวขาวคงจะได้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษมากกว่า 10 ปี เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายมาก คิดว่า เอฟเอ คงไม่อยากให้ผมผิวสีด้วย เพราะว่ามีคุณสมบัติที่จะนำทัพ โดยเป็นหัวใจของแผงแบ็กโฟร์ นอกจากนี้ระดับสโมสรก็เคยเป็นผู้นำมาแล้ว สิ่งนี้คงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาไม่ต้องการเช่นเดียวกับแฟนๆ” แคมป์เบลล์ ที่แขวนสตั๊ดเมื่อปี 2012 เผย
แคมป์เบลล์ เป็นกัปตัน อังกฤษ 3 นัดคือเกมอุ่นเครื่องที่พบ เบลเยียม และ สาธารณรัฐเช็ก เมื่อปี 1998 ภายใต้การคุมทัพของ เกล็น ฮอดเดิล ตามด้วยพบ สหรัฐอเมริกา ปี 2005 ตอนที่ สเวน โกรัน อิริคส์สัน กุมบังเหียน
พร้อมกันนี้ แคมป์เบลล์ ยังเผยอีกว่าการที่ถูก ไมเคิล โอเวน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ปาดหน้าคว้าปลอกแขนกัปตันทีมไปครองนั้น ถือเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง “เอฟเอ ไม่ต้องการให้ผมมีสิทธิ์มีเสียงอะไร ส่วน โอเวน ถือเป็นยอดกองหน้า แต่ยังไม่พร้อมที่จะนำทัพ ซึ่งผมเฝ้าถามตัวเองหลายครั้งว่าทำไม ก็ได้คำตอบเดิมคือเรื่องสีผิว”