xs
xsm
sm
md
lg

“แสงมณี” รีสตาร์ท พามวยไทยโกอินเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แสงมณี หวังสร้างชื่อแบบ บัวขาว
ASTVผู้จัดการรายวัน – ก่อนหน้านี้ แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ กำปั้นขาสั้นดาวรุ่งวัยเพียงแค่ 17 ปี ตกเป็นที่จับตามองพอสมควร หลังหน่วยก้านเข้าตา สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เรียกไปรับใช้ชาติ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในอนาคตไล่ล่าเหรียญทองในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ แต่ภายหลังใช้เวลาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนเจ้าตัวตัดสินใจกลับมาชกมวยไทยตามเดิม พร้อมวาดฝันมีเป้าหมายโกอินเตอร์พาศิลปะแม่ไม้มวยไทยดังไกลระดับโลก

แสงมณี เจ้าของฉายา “ขวัญใจนักเรียน” ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ ถือเป็นนักมวยไทยค่าตัวเงินแสน เพราะกวาดรางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วนจากการชกมวยไทยทั้งเวทีลุมพินีกับราชดำเนิน ด้วยจุดขายทั้งลีลาและหน้าตาหล่อเหลาทำให้ทุกคนนึกถึง สามารถ พยัคฆ์อรุณ จนไปเข้าตาผู้ใหญ่หลายคนหยิบยื่นโอกาสก้าวไปชกมวยสากลสมัครเล่น อย่างไรก็ตามหนุ่มจากจังหวัดขอนแก่นชั่งน้ำหนักดูแล้วมองว่าเร็วเกินไป

โดยกล่าวกับทีม MGR SPORT ยอมรับว่ามีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับมวยสากลสมัครเล่นจริง “ตอนแรกตัดสินใจไปชกมวยสากลสมัครเล่นนั้น เนื่องด้วยทางสมาคมมวยฯ ทาบทามเข้าไปร่วมทีมชาติไทย ตอนนั้นดีใจมากที่ได้รับโอกาสและตอบรับเข้าร่วม แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องฝึกซ้อมจริงๆ แล้วพบว่า ยังไม่สามารถที่จะชกมวยสากลได้ เพราะเริ่มแรกยังติดรูปแบบการชกมวยไทยอยู่ จึงยังไม่สามารถปรับตัวได้”

พร้อมกันนี้มีกระแสว่า แสงมณี อาจจะควบทั้งมวยไทยกับมวยสากลสมัครเล่นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า “ทางสมาคมมวยฯ ยื่นคำขาดหากจะชกมวยสากลก็ต้องเลิกซ้อมมวยไทยเด็ดขาดหรือหากต้องการที่ชกมวยไทยต่อ ก็ต้องหยุดซ้อมมวยสากล ทำให้ผมต้องตัดสินใจหันกลับมาชกมวยไทยอย่างเดิม เพราะผมทราบดีว่ายังต้องปรับสไตล์การชกอีกมาก และไม่มีทางที่จะได้ไปชกในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิลแน่นอน”

ทว่า แสงมณี ยืนยันว่าประตูสู่วงการมวยสากลสมัครเล่นนั้นยังไม่ปิดตาย พร้อมวางแผนที่จะกลับไปในอีก 6 ปีข้างหน้า เพราะเมื่อวัย 23 ปีบริบูรณ์ ก็น่าจะหนุ่มแน่นและแข็งแกร่งเพียงพอ “ผมยังไม่ทิ้งความฝันในการชกมวยสากลฯ แน่นอน แต่เมื่อเล็งเห็นแล้วว่าตัวเองอายุยังน้อย สามารถกลับไปร่วมแคมป์ทีมชาติไทย สำหรับติดธงในโอลิมปิก 2020 ได้ โดยระหว่างนี้จะฟิตซ้อมกับมวยไทยไปก่อน”

ส่วนเป้าหมายของการทุ่มเทให้กับมวยไทยแบบเต็มร้อยอีกครั้ง หนุ่มน้อยเมืองคอนเผยว่า “สำหรับตัวผมแล้ว ผมบอกตรงๆ เลยว่าอยากขึ้นชกมวยไทยในระดับอินเตอร์มาก เพราะเราหวังที่จะประกาศให้โลกได้รู้ว่า ศิลปะแม่ไม้มวยไทยของเรายอดเยี่ยมขนาดไหน ซึ่งถ้าเราชกมวยสากลในตอนนี้ ดีที่สุดแราก็ได้แค่แชมป์โอลิมปิก แต่ถ้าเป็นในทางมวยไทย เราสามารถมีหลายเส้นทางให้เลือกในระดับโลกได้ ซึ่งใจจริงแล้วผมอยากตามรอยของรุ่นพี่อย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ”

ด้านนายหนูกัน สิทธิ์เดช คุณพ่อของกำปั้นวัย 17 เองก็สนับสนุนและเห็นด้วยกับบุตรชาย “อยากให้เขาชกมวยไทยก่อน เพราะตอนนี้เขายังเด็กกระดูกยังไม่ถึงขั้นที่จะชกมวยสากลได้ และอาวุธของมวยสากลมีแค่หมัด ต้องใช้ประสบการณ์เข้าช่วยด้วย แต่มวยไทยนั้นเราสามารถใช้ได้ทั้ง หมัด ศอก เข่า หรือ แข้ง ได้อย่างเต็มที่ นักมวยสากลแทบทุกคนต่างขึ้นมาจากมวยไทยทั้งนั้น และเราก็ไม่อยากให้เขาลืมบุญคุณของมวยไทยที่ทำให้เขามีทุกวันนี้ได้ และเราอยากให้เขาก้าวไปชกมวยไทยในต่างประเทศดูบ้างเพื่อที่จะได้เจอกับคู่ชกหลากหลายสไตล์ อีกทั้งยังได้นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยอีกด้วย”

ขณะเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าการชกมวยไทยนั้น แสงมณี ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่า นางเพ็ญศรี สิทธิ์เดช คุณแม่ ได้เผยถึงกำปั้นยอดกตัญญูว่า “ลูกได้เงินจากการชกมวยไทยอยู่ประมาณไฟต์ละ 140,000 บาท ซึ่งทุกบาททุกสตางค์ เขาให้แม่เก็บหมด ตอนนี้แม่ก็ได้ นำเงินที่เขาหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ไปปลูกบ้านให้เขาและซื้อรถยนต์มาใช้ในครอบครัว เชื่อว่าเขายังสามารถชกมวยไทยเก็บเงินช่วยเหลือครอบครัวได้อีกมาก ส่วนเรื่องอนาคตในทีมชาติไทยกับมวยสากลนั้น เชื่อว่าสุดท้ายแล้วไม่เกินความสามารถอย่างแน่นอน”

จากนี้ แสงมณี มีโปรแกรมขึ้นชกมวยไทย ในรายการ “ศึกลุมพินีแชมเปียนส์เกริกไกรนัดเปิดสนามอย่างเป็นทางการ” ในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนามมวยลุมพินีแห่งใหม่ บนถนนรามอินทรา ซึ่งก็ต้องจับตาดูว่าเส้นทางที่เลือกแล้วนั้นจะไปได้ไกลจนถึงฝั่งฝันหรือไม่ เหนืออื่นใดก็เชื่อว่าเป้าหมายที่อยู่ในใจนักกีฬาทุกคนรวมถึงหนุ่มน้อยอนาคตไกลรายนี้ก็คือรับใช้ชาติและคว้าเหรียญทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัวร์นาเมนต์ระดับโลกอย่าง โอลิมปิก อยู่ที่ว่าโอกาสจะมาถึงเมื่อไหร่รวมถึงพร้อมแค่ไหนเท่านั้นเอง
คุณแม่เพ็ญศรี กำลังใจของกำปั้นวัยรุ่น
ประตูสู่เหรียญทองโอลิมปิกยังไม่ปิด
กำลังโหลดความคิดเห็น