ฉะเชิงเทรา - ออมสินสาขาดั้งเดิม แหล่งเก็บเงินเก่าแก่ของคนแปดริ้ว ถูกแห่ถอนเงินแน่น ขณะชาวบ้านโวยหลังธนาคารมีเงินสดจ่ายให้ไม่เพียงพอ ต้องจ่ายเป็นเช็ค ด้านเจ้าหน้าที่แจงเหตุเพราะเป็นสาขาขนาดเล็ก และติดวันหยุดยาวจึงไม่มีเงินสดสำรองไว้มาก เชื่อพรุ่งนี้เข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนสาขาใหญ่กลางเมืองผู้คนใช้บริการเงียบเหงา
วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศความตื่นตระหนก และหวั่นเกรงว่าธนาคารออมสิน ซึ่งมีรัฐบาลเป็นประกัน จะประสบปัญหาด้านการเงิน หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการปล่อยสินเชื่อ เกื้อหนุน ธ.ก.ส.จ่ายหนี้สินชาวนา ตามนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้น ที่ธนาคารออมสิน สาขาฉะเชิงเทรา ถนนสันติราษฎร์ ซึ่งเป็นสาขาเก่าแก่ดั้งเดิม เปิดทำการมานานกว่า 71 ปี (1 ม.ค.2486) หรือตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นคลังออมสิน สังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลข กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม ถือได้ว่าเป็นกระปุกออมสินแหล่งเก็บเงินออมที่สำคัญของคนแปดริ้วมาอย่างยาวนานนั้น
มีประชาชนแห่ทยอยกันเข้ามาขอถอนเงินออม เงินเก็บ และขอแลกถอนเงินสดจากสลากออมสินคืนจำนวนมาก จนทางธนาคารไม่มีเงินสดจ่ายให้ ต้องออกเป็นเช็ค ซึ่งต้องรอถึง 3 วันทำการ จึงจะสามารถเบิกจ่ายได้ ทำให้มีประชาชนที่พากันมาขอถอนเงินหลายรายโวยวาย และพูดในทำนองเชิงประชดให้ผู้สื่อข่าวฟังที่ด้านนอกหน้าธนาคาร แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อแสดงตนในการให้สัมภาษณ์เป็นข่าว เนื่องจากหวั่นเกรงบารมีของนักการเมืองในพื้นที่สังกัดพรรครัฐบาลชุดนี้
โดยหลายรายที่เคยประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งจนมีรายได้หลายสิบล้านบาทนั้น ต่างพากันบ่นว่าเงินที่เก็บออมไว้ในรูปแบบของสลากออมสิน มีมูลค่าถึงกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อน้ำพักน้ำแรงของตน และคนในครอบครัว หากมีอันต้องเป็นไป หรือต้องสูญสลายหายไปแล้ว ครอบครัวจะทำอย่างไร จึงขอมาถอนเงินสดเอาไปเก็บไว้ก่อนเองจะดีกว่า
ขณะที่ชายวันกลางคนอีกรายกล่าวว่า มีเงินเก็บอยู่ในธนาคารออมสินแห่งนี้กว่า 3 ล้านบาท ครั้งแรกตั้งใจว่าจะมาถอนเงินออก แต่เมื่อมาถึงเห็นมีคนมาถอนเงินเยอะ จึงขอมาดูลาดเลาเอาไว้ก่อน แล้วจะกลับเข้ามาถอนเงินใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพราะเห็นว่ามีหลายคนที่เข้ามาขอถอนเงินแล้วกลับยังไม่ได้เงิน โดยบางรายได้มาเป็นเพียงเช็ค ที่จะต้องรอการนำไปขึ้นเงินนานถึง 3 วัน จึงจะแลกได้เป็นเงินสด
ส่วนนางสมหญิง แสงแก้วโสภา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 10 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า แม้จะมีเงินฝากอยู่เพียงน้อยนิดแค่หนึ่งหมื่นบาทเศษ ก็จะเข้ามาขอถอนออกเอาไปเก็บไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของเงินออมที่หาได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง และไม่ต้องการให้ใครเอาเงินของเราไปใช้ในทางที่ผิด และไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามกลไกการบริหารจัดการด้านการเงินที่แท้จริง
ด้านผู้บริหารระดับสูงของธนาคารออมสินสาขาดังกล่าว กล่าวว่า เป็นเพียงความตื่นกลัวของประชาชนที่พากันวิตกไปเอง ซึ่งความจริงแล้วไม่มีอะไร โดยสาเหตุที่ในวันนี้ทางธนาคารไม่มีเงินสดจ่ายให้แก่ลูกค้า เนื่องมาจากเป็นช่วงที่เพิ่งผ่านพ้นวันหยุดยาวต่อเนื่องมานานหลายวัน ทางธนาคารจึงไม่ได้สำรองเงินสดเอาไว้มาก จึงทำให้มีเงินสดไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่าย ซึ่งคาดว่าวันพรุ่งนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบรรยากาศการใช้บริการของประชาชนในธนาคารออมสิน สาขาถนนมหาจักพรรดิ์ อ.เมือง ซึ่งเป็นสำนักงานสาขาที่ใหญ่กว่า และมีสำนักงานเขตของทางธนาคารอยู่บนตึกเดียวกันนี้ด้วย กลับมีประชาชนเข้ามาใช้บริการอย่างบางตา เนื่องจากเป็นสาขาที่เพิ่งเปิดทำการใหม่ได้เพียง 7-8 ปีเท่านั้น จึงอาจจะไม่ใช่แหล่งเก็บเงินออมของประชาชนที่ตั้งใจสะสมเงินทุนสำรองไว้ใช้ยามแก่ชราภาพ หรือเก็บเงินฝากไว้ให้แก่บุตรหลาน
ซึ่งจากการสอบถามผู้บริหารสาขาระบุว่า วันนี้มีประชาชนเข้ามาขอเบิกจ่ายถอนเงินออกจากธนาคารประมาณ 20 รายเท่านั้น และก็ยังไม่พบว่าจะมีการตื่นตกใจตามกระแสแต่อย่างใด
วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศความตื่นตระหนก และหวั่นเกรงว่าธนาคารออมสิน ซึ่งมีรัฐบาลเป็นประกัน จะประสบปัญหาด้านการเงิน หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการปล่อยสินเชื่อ เกื้อหนุน ธ.ก.ส.จ่ายหนี้สินชาวนา ตามนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้น ที่ธนาคารออมสิน สาขาฉะเชิงเทรา ถนนสันติราษฎร์ ซึ่งเป็นสาขาเก่าแก่ดั้งเดิม เปิดทำการมานานกว่า 71 ปี (1 ม.ค.2486) หรือตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นคลังออมสิน สังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลข กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม ถือได้ว่าเป็นกระปุกออมสินแหล่งเก็บเงินออมที่สำคัญของคนแปดริ้วมาอย่างยาวนานนั้น
มีประชาชนแห่ทยอยกันเข้ามาขอถอนเงินออม เงินเก็บ และขอแลกถอนเงินสดจากสลากออมสินคืนจำนวนมาก จนทางธนาคารไม่มีเงินสดจ่ายให้ ต้องออกเป็นเช็ค ซึ่งต้องรอถึง 3 วันทำการ จึงจะสามารถเบิกจ่ายได้ ทำให้มีประชาชนที่พากันมาขอถอนเงินหลายรายโวยวาย และพูดในทำนองเชิงประชดให้ผู้สื่อข่าวฟังที่ด้านนอกหน้าธนาคาร แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อแสดงตนในการให้สัมภาษณ์เป็นข่าว เนื่องจากหวั่นเกรงบารมีของนักการเมืองในพื้นที่สังกัดพรรครัฐบาลชุดนี้
โดยหลายรายที่เคยประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งจนมีรายได้หลายสิบล้านบาทนั้น ต่างพากันบ่นว่าเงินที่เก็บออมไว้ในรูปแบบของสลากออมสิน มีมูลค่าถึงกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อน้ำพักน้ำแรงของตน และคนในครอบครัว หากมีอันต้องเป็นไป หรือต้องสูญสลายหายไปแล้ว ครอบครัวจะทำอย่างไร จึงขอมาถอนเงินสดเอาไปเก็บไว้ก่อนเองจะดีกว่า
ขณะที่ชายวันกลางคนอีกรายกล่าวว่า มีเงินเก็บอยู่ในธนาคารออมสินแห่งนี้กว่า 3 ล้านบาท ครั้งแรกตั้งใจว่าจะมาถอนเงินออก แต่เมื่อมาถึงเห็นมีคนมาถอนเงินเยอะ จึงขอมาดูลาดเลาเอาไว้ก่อน แล้วจะกลับเข้ามาถอนเงินใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพราะเห็นว่ามีหลายคนที่เข้ามาขอถอนเงินแล้วกลับยังไม่ได้เงิน โดยบางรายได้มาเป็นเพียงเช็ค ที่จะต้องรอการนำไปขึ้นเงินนานถึง 3 วัน จึงจะแลกได้เป็นเงินสด
ส่วนนางสมหญิง แสงแก้วโสภา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 10 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า แม้จะมีเงินฝากอยู่เพียงน้อยนิดแค่หนึ่งหมื่นบาทเศษ ก็จะเข้ามาขอถอนออกเอาไปเก็บไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของเงินออมที่หาได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง และไม่ต้องการให้ใครเอาเงินของเราไปใช้ในทางที่ผิด และไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามกลไกการบริหารจัดการด้านการเงินที่แท้จริง
ด้านผู้บริหารระดับสูงของธนาคารออมสินสาขาดังกล่าว กล่าวว่า เป็นเพียงความตื่นกลัวของประชาชนที่พากันวิตกไปเอง ซึ่งความจริงแล้วไม่มีอะไร โดยสาเหตุที่ในวันนี้ทางธนาคารไม่มีเงินสดจ่ายให้แก่ลูกค้า เนื่องมาจากเป็นช่วงที่เพิ่งผ่านพ้นวันหยุดยาวต่อเนื่องมานานหลายวัน ทางธนาคารจึงไม่ได้สำรองเงินสดเอาไว้มาก จึงทำให้มีเงินสดไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่าย ซึ่งคาดว่าวันพรุ่งนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบรรยากาศการใช้บริการของประชาชนในธนาคารออมสิน สาขาถนนมหาจักพรรดิ์ อ.เมือง ซึ่งเป็นสำนักงานสาขาที่ใหญ่กว่า และมีสำนักงานเขตของทางธนาคารอยู่บนตึกเดียวกันนี้ด้วย กลับมีประชาชนเข้ามาใช้บริการอย่างบางตา เนื่องจากเป็นสาขาที่เพิ่งเปิดทำการใหม่ได้เพียง 7-8 ปีเท่านั้น จึงอาจจะไม่ใช่แหล่งเก็บเงินออมของประชาชนที่ตั้งใจสะสมเงินทุนสำรองไว้ใช้ยามแก่ชราภาพ หรือเก็บเงินฝากไว้ให้แก่บุตรหลาน
ซึ่งจากการสอบถามผู้บริหารสาขาระบุว่า วันนี้มีประชาชนเข้ามาขอเบิกจ่ายถอนเงินออกจากธนาคารประมาณ 20 รายเท่านั้น และก็ยังไม่พบว่าจะมีการตื่นตกใจตามกระแสแต่อย่างใด