xs
xsm
sm
md
lg

“ปรับเบี้ยเลี้ยงตร.คุมม็อบ เหลือบสีกากี”อมอำมหิต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สน.พระอาทิตย์

จะด้วยเหตุ “ซื้อใจ”หรือ “สงสาร”ตำรวจชั้นประทวน ที่ต้องตากแดด เหงื่อท่วมตัวท่ามกลางความเครียดในการเผชิญหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณและขับไล่รัฐบาลที่ปักหลักชุมนุมอยู่บนถนนราชดำเนินมานานนับเดือน


แต่การที่รัฐบาลยอมอนุมัติปรับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบตามที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แม่ทัพใหญ่สีกากี เสนอเรื่องผ่านกระทรวงการคลังก็ถือเป็นสิ่งที่เหมาะสมและถูกต้อง

เพราะแม้การดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมจะเป็นหนึ่งในหน้าที่หลักที่ตำรวจต้องดำเนินการ ในฐานะเป็นผู้รักษากฎหมายบ้านเมืองแต่การดูแลทั้งสวัสดิการ ความเป็นอยู่ และผลตอบแทนการทำงานก็เป็นสิ่งที่ควรจะดำเนินการควบคู่กันไปเนื่องจากการดูแลการชุมนุมเป็นงานเพิ่มเติมจากงานปกติในความรับผิดชอบของตำรวจแต่ละนาย

การปรับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบครั้งนี้แบ่งเป็นค่าอาหารเหมาจ่ายจากเดิมในอัตราคนละ 200 บาทต่อวันปรับขึ้นเป็น 300 บาทต่อวันส่วนค่าตอบแทนในอัตราคนละ 300 บาทต่อวันปรับขึ้นเป็น 400 บาทต่อวัน มีผลตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมาเป็นต้นไป

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เหตุผลว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมีเหตุการณ์ชุมุนมเรียกร้องทางการเมืองและการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆในหลายๆพื้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยงานต่างๆทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เข้าปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวตลอด 24ชั่วโมงโดยต้องจัดอาหารและน้ำดื่มให้แก่กำลังพลดังกล่าววันละ 4 มื้อจึงเป็นเรื่องที่ต้องสร้างขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานนักโภชนาการโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อจัดเมนูอาหารที่มีพลังงานพอเพียงกับการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งต้องมีใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจึงได้ขออนุมัติปรับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบเสนอไปยังกระทรวงการคลัง ต่อมากรมบัญชีกลางได้แจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบว่าทางรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ได้อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

จริงอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันท่าทีตำรวจในการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆแสดงออกถึงอาการเอียงตรงข้ามผู้ชุมนุมอย่างน่าเกลียดหลายๆครั้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ว่าสังคมทั่วไปจะรู้สึกไม่พอใจตำรวจที่มาดูแลการชุมนุมอย่างไรก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับตำรวจชั้นผู้น้อยที่มาดแลการชุมนุมเหล่านี้

เพราะทุกนายล้วนน่าสงสารเมื่ออยู่ในฐานะข้าราชการต้องปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชาเมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งให้มาก็ต้องมา สั่งให้ป้องกันก็ต้องป้องกันการได้รับเงินค่าตอบแทนที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการสนับสนุนการเพิ่มสวัสดิการต่างๆให้ตำรวจชั้นผู้น้อยที่มาปฏิบัติงานเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เพิ่มขึ้นก็ควรถึงมือตำรวจผู้ปฏิบัติงานแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่ใช่ถูกตัดถอนจากพวกเหลือบที่เกาะกินน้ำพักน้ำแรงพวกเดียวกันเองด้วยวิธี

“หักหัวคิว”!!!

เพียงแค่ไม่กี่วันที่มีการปรับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบเสียงโอดครวญก็ออกมาจากตำรวจที่มาดูแลการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับประทานอาหารซ้ำซากโดยเฉพาะข้าวมันไก่ต้องโดนตัดงบเบี้ยเลี้ยงในราคากล่องละ 70 บาท และตอนหลังจากวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ปรับราคาเบี้ยงเลี้ยงค่าอาหารเพิ่มเป็น 300 บาท ทำให้ราคาข้าวมันไก่มีราคาเพิ่มเป็นกล่องละ 100 บาท

ที่สำคัญข้าวมันไก่แต่ละกล่อง มีแต่หนังไก่จำนวนมากไม่เหมือนกับที่ผู้บังคับบัญชาประกาศต่อหน้าสื่อจะมีนักโภชนาการด้านอาหารมาดูแล

เสียงโอดครวญทั้งหมดนี้ได้รับตราประทับ “เป็นจริง”ไม่อิงนิยาย ขนาดชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ส.ส.พรรครักประเทศไทยนักการเมืองจอมแฉยังโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว "ชูวิทย์ I'm No.5" ตีแผ่ชีวิตตำรวจด้วยชื่อเรื่อง “ชีวิตเลือกไม่ได้” เนื้อหาคร่าวๆ “ชูวิทย์”บอกว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ว่าตำรวจชั้นผู้น้อยที่มาคุมม็อบ ได้รับ"เบี้ยเลี้ยง" ไม่ครบตามจำนวนที่หน่วยต้นสังกัดแจ้งเบิกโดยเบิกหลวงวันละ 800 บาท แต่ถูกหัก 300 บาท ได้รับเพียง 500 บาทบ้าง หลังๆถูกหัก500 บาท ได้รับเพียง 300 บาท ล่าสุดถูกหัก 650 บาท ได้รับเพียงวันละ 150 บาท

“โดยอ้างว่าถูกหักเป็นค่าใช้จ่าย เบี้ยใบ้รายทางไม่ว่าจะเป็นค่าข้าวบ้าง ค่าน้ำบ้าง ค่าพิเศษให้นายบ้าง เป็นเสมือนค่าหัวคิวทั้งๆที่ตำรวจเหล่านั้นมาทำหน้าที่ ที่ไม่ได้อยากจะทำเสียเท่าไหร่... ศักดิ์ศรีของตำรวจไม่เหลือ แถมเงินยังไม่พอยาไส้ให้ลูกเมียรู้อย่างงี้ไปเฝ้าหน้าผับ หน้าร้านทองยังดีเสียกว่า ตั้งแต่มีม็อบบรรดาผับปิดกันตี 4 ตี 5 ถึงยันพระบิณฑบาตร”

หากไม่มีมูลหมาไม่ขี้ คนระดับ”ชูวิทย์”จอมแฉะดับต้นๆเมืองไทยถ้าไม่มีข้อมูล ไม่มีความชัดเจน คงไม่ออกมาบอกเช่นนี้อย่างแน่นอน

การหักหัวคิวตำรวจคุมม็อบไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในการมาดูแลการชุมนุมราดำเนินเท่านั้นในอดีตที่ผ่านมาก็มีเรื่องร้องเรียนนาย “แก้มตุ่ย”หลายครั้งอย่างเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ก็ต้องหันมาพึ่งสื่อมวลชนด้วยการเล่าปัญหาไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก การจ่ายเบี้ยเลี้ยงของผู้บังคับบัญชา

ตำรวจคุมฝูงชนบอกครั้งนั้นว่า ตำรวจที่มาควบคุมฝูงชนและดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภาตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 800 บาท ทั้งที่พวกผมได้เพียงเบี้ยเลี้ยงเพียงวันละ 300 บาท และอาหารที่แจกจ่ายมีเพียงข้าวผัดกะเพราและไข่ต้มเท่านั้น จึงสงสัยว่าเงินอีก 500 บาทที่จะได้รับนั้นหายไปไหน

“พวกผมได้เบี้ยเลี้ยงกันแค่วันละ 300 บาทส่วนข้าวก็กะเพรา ไข่ต้ม นอนกันตามมีตามเกิดอยู่หลังบช.น. บ้างอะไรบ้าง ฝากพี่นักข่าวช่วยถามหน่อยว่าเงินอีก 500 บาทหายไปไหน หล่นตรงระหว่างทางที่กระเป๋าใครเพราะเห็นรองนายกฯ ให้ข่าวว่าใช้งบประมาณทั้งหมดถึง 206 ล้านบาท”

เป็นคำถามที่พล.ต.อ.อดุลย์ ต้องหาคำตอบให้กับลูกน้อง.
(แฟ้มภาพ) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.)
กำลังโหลดความคิดเห็น