เช้าวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ศึกซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 48 ระหว่าง เดนเวอร์ บรองโกส์ กับ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส มีคิวชิงชัยกันที่ เม็ตไลฟ์ สเตเดียม ในนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเว็บไซต์ "มิดเวสต์ สปอร์ตส แฟนส์" (Midwest Sports Fans) รวมเอา 10 ประเด็นน่าสนใจในการชิงชัย "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" มาให้ได้ติดตามกัน ดังนี้
10. เพอร์ซีย์ ฮาร์วิน จะมีผลกับเกมแค่ไหน
ซีฮอว์คส ประสบความสำเร็จในฤดูกาล 2013/14 โดยปราศจาก ฮาร์วิน ซึ่งช่วงหน้ารร้อนเซ็นสัญญา 6 ปี รับค่าเหนื่อย 67 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2 พันล้านบาท) เป็นเงินการันตี 25.5 ล้านเหรียญฯ (ราว 765 ล้านบาท) แต่ปีกนอกวัย 25 ปี เล่นให้ทีมแค่เกมเดียว รับบอลหนึ่งหนได้ระยะ 17 หลา เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ รวมถึง คอนคัสชัน (กระทบกระเทือนทางสมอง) โดย "เหยี่ยวทะเล" ยอมส่งสิทธิ์ดราฟท์รอบแรกปี 2013 และรอบ 7 ปี 2014 ให้แก่ มินเนโซตา ไวกิงส์ เพื่อให้ได้มาซึ่ง ฮาร์วิน ที่พลาดการลงสนามมาตลอดจากการผ่าตัดสะโพก จนกระทั่งสัปดาห์ที่ 11 ถึงคืนสนาม แน่นอนถ้า ฮาร์วิน เต็มร้อยสามารถสร้างความแตกต่างให้กับเกมได้มาก แต่เมื่อบาดเจ็บมาตลอดช่วงสองซีซันหลัง ซีแอตเทิล จึงทำการบ้านสำหรับการไม่มี ฮาร์วิน ไว้เจอกับ บรองโกส์ แล้ว
9. เวส เวลเกอร์ จะดร็อปบอลครั้งสำคัญเหมือนปี 2012 หรือไม่
ขณะที่เวลาในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 46 เหลืออีก 4.06 นาที นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ขึ้นนำ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส 17-15 และบอลก็อยู่ที่เส้น 44 หลาในแดน "ยักษ์ใหญ่" สถานการณ์ดาวน์ที่ 2 ต้องการ 11 หลา ทอม เบรดี ยอดควอเตอร์แบ็กเล็งหาปีกตัวโปรด นั่นก็คือ เวลเกอร์ ซึ่งไปรอที่จุดนัดหมายเส้น 25 หลา พื้นที่เปิดแล้ว แต่ผู้เล่นระดับออล-โปร ดร็อปบอลอย่างเหลือเชื่อ ก่อนท้ายที่สุด อีลาย แมนนิง นำทัพนิวยอร์ก แซงคว้าชัย 21-17 คว้าแชมป์ไปครอง มาคราวนี้ เวลเกอร์ มีโอกาสดีกับ บรองโกส์ ได้รับบอลจาก เพย์ตัน แมนนิง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการปาบอลคอมพลีท ดังนั้นปีกนอกร่างเล็กไม่สามารถดร็อปบอลง่ายๆ หรือจังหวะสำคัญได้อีก
8. ริชาร์ด เชอร์แมน ไม่ได้โม้ ?
กลายเป็นประเด็นใหญ่ เมื่อ ริชาร์ด เชอร์แมน ตัวคุมปีกซีฮอว์คส ข่มใส่ปีก ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส แบบไม่ให้เกียรติกันเลย แน่นอนไม่มีใครปฏิเสธว่าหมอนี่ไม่ใช่ยอดตัวคุมปีกคนหนึ่งของ NFL แต่ลูกโวหลังเกมชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี (NFC) ทำให้ เชอร์แมน คงต้องโชว์ศักยภาพออกมาเต็มที่ในเกมที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลกอย่าง "ซูเปอร์โบว์ล" หรือไม่ก็ต้องยอมรับคำติเตียนกลับมาเสียเอง
7. สภาพอากาศ
โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีกเปิดไฟเขียวให้ "ซูเปอร์โบว์ล" มาแข่งกันสนามกลางแจ้งท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ จึงไม่แคล้วโดนเสียงวิจารณ์ แม้พยากรณ์อากาศเบื้องต้น สุดสัปดาห์นี้ไร้หิมะและฝนกวน แต่อุณหภูมิเลขตัวเดียวแน่นอน ซึ่ง เพย์ตัน แมนนิง จอมทัพ "ม้าป่า" ไม่ค่อยถูกโฉลกกับเกมที่หนาว ความได้เปรียบอาจไปตกอยู่กับ "เหยี่ยวทะเล" ที่รูปเกมไม่ได้เน้นขว้างเป็นหลัก
6. สุขภาพของ จอห์น ฟ็อกซ์
หัวหน้าโค้ช บรองโกส์ เข้าผ่าตัดหัวใจช่วงต้นฤดูกาล และกลับมาทำงานปกติในสัปดาห์ที่ 10 และก็พักไปอีก 2-3 อาทิตย์ คัมแบ็กใหม่วีคที่ 14 ซึ่งช่วงที่ ฟ็อกซ์ ไม่อยู่ แจ็ค เดล ริโอ โค้ชทีมรับขึ้นมาทำหน้าที่ได้ไม่ตกหล่น ถึงแม้ เฮดโค้ชวัย 58 ปี กลับมาประจำหน้าที่ แต่หลายคนมองว่าหาก "ม้าป่า" โขยกแชมป์ซูเปอร์โบว์ลหนนี้ได้ ฟ็อกซ์ ได้แหวนแชมป์วงแรก หลังจากเกมชิงแชมป์ครั้งที่ 38 เคยนำ แคโรไลนา แพนเธอร์ส แพ้ให้ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 29-32 คงถึงเวลาที่ ฟ็อกซ์ จะปิดฉากอาชีพเพื่อใส่ใจกับสุขภาพตัวเองเต็มที่
5. รัสเซล วิลสัน VS เพย์ตัน แมนนิง
ถ้า วิลสัน เข้าลีกเมื่อสัก 10 ปีก่อน ควอเตอร์แบ็กร่าง 5 ฟุต 11 นิ้ว (ประมาณ 180 เซนติเมตร) หนัก 206 ปอนด์ (ราว 93 กิโลกรัม) เขาคงไม่วิ่งเยอะเหมือนทุกวันนี้ คงขว้างบอลสล็อตให้ปีก แต่ ณ วันนี้ วิลสัน คือตัวแทนควอเตอร์แบ็กสมัยใหม่ ที่ใช้ความคล่องตัวให้เป็นประโยชน์ เป็นอ๊อปชั่นที่จอมทัพยุคเก่าไม่ค่อยมีกัน ขณะที่ แมนนิง เป็นควอเตอร์แบ็กดั่งเดิม ปักหลักขว้างบอลอยู่ในพ็อกเก็ตได้อย่างทรงประสิทธิภาพ การเจอกันในซูเปอร์โบว์ลหนนี้ เป็นบทพิสูจน์ว่า คลื่นลูกเก่าจะโดนคลื่นลูกใหม่ซัดออกจากฝั่งหรือไม่
4. กองหลังซีฮอว์คส ปะทะ กลุ่มปีก บรองโกส์
ซีฮอว์คส มีกลุ่มตัวคุมปีกที่สุดยอดของลีก แต่กำลังโดนท้าทายโดยกลุ่มปีกยอดฝีมือของ บรองโกส์ ทุกสายตาจ้องไปที่ ริชาร์ด เชอร์แมน ขณะที่อีกฟาก บายรอน มาร์แชลล์ ขึ้นมาทดแทน แบรนดอน บราวเนอร์ ได้ยอดเยี่ยม โฉบไป 4 อินเทอร์เซปต์ อัดจนคู่แข่งเสียฟัมเบิลก็มี ส่วนตำแหน่ง "เซฟตี้" เอิร์ล โธมัส กับ แคม แชนเซลเลอร์ ถือเป็นยอดนักกีฬา ทั้งหมดนี้ต้องรับมือ เดอมาเรียส โธมัส ปีกตัวท็อป NFL ซึ่งรับบอลไป 92 ครั้ง มากที่สุดในอาชีพการเล่น ได้ระยะ 1,430 หลา 14 ทัชดาวน์ ไหนจะมี เอริค เด็คเกอร์ รับบอล 87 หน 1,288 หลา 11 ทัชดาวน์ ไม่รวม เวลเกอร์ ที่รับบอลได้ 73 ครั้ง 778 หลา 12 ทัชดาวน์ หรือว่า ปีกในอย่าง จูเลียส โธมัส ที่รับไป 65 ครั้ง 788 หลา 12 ทัชดาวน์
3. พีท แครอล พิสูจน์ฝีมือโค้ชระดับแชมป์
ไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นเฮดโค้ช นิวยอร์ก เจ็ตส์ (ปี 1994) และ แพทริออตส์ ปี 1997-99) จนต้องกลับไปคุมทีมระดับมหาวิทยาลัย สถิติคุมทัพ USC ชนะ 97 แพ้ 19 เกม กวาดแชมป์โบว์ลต่างๆ มากมาย แต่ตอนนี้ แครอล ใช้เวลาแค่ 4 ปี ในการนำ "เหยี่ยวทะเล" บินกลับสู่ซูเปอร์โบว์ล หลังทีมเคยผิดหวังเมื่อปี 2006 พ่ายให้ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ทั้งนี้ แครอล รู้แก่ใจว่า (อเมริกัน) ฟุตบอล มหาวิทยาลัย กับทีมอาชีพ ต่างกันลิบลับ แต่ถ้าไปถึงแชมป์ประเทศ ชื่อของโค้ชวัย 62 ปี คงได้ถูกจารึกเสียที
2. ทีมบุกอันดับ 1 ดวล ทีมรับอันดับ 1
นี่คือ เกมแห่งความฝันของแฟนๆ ที่จะได้ดูการประชันกันระหว่าง ทีมบุกอันดับ 1 ของบรองโกส์ กับ ทีมรับอันดับ 1 ของซีฮอว์คส ไม่น่าเชื่อว่าฤดูกาลนี้ "เหยี่ยวทะเล" อนุญาตให้คู่แข่งเจาะทำระยะเฉลี่ยแค่ 273.6 หลา ต่อเกม ป้องกันการขว้างยอดเยี่ยม เสียแค่ 172 หลา ต่อเกม ที่สำคัญโดนทำคะแนนใส่เพียงเกมละ 14.4 แต้ม เท่านั้น ขณะที่ "ม้าป่า" ได้ระยะต่อเกม 457.3 หลา เกมรุกทางอากาศได้เฉลี่ย 340.3 หลา ทำได้ 606 คะแนน ในซีซันนี้ ชนะคู่แข่งเฉลี่ย 10.1 แต้ม คอคนชนคนคงอยากให้ถึงเกมวันอาทิตย์นี้เร็วๆ
1. เพย์ตัน แมนนิง กับแหวนแชมป์อีกสักวง
แมนนิง คือสุดยอดผู้เล่นในประวัติศาสตร์ NFL เฉพาะฤดูกาลปกติ ได้รับเลือกให้เป็น "ผู้เล่นทรงคุณค่า" 4 สมัย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด สมัยที่ 5 กำลังจะตามมา เป็นผู้เล่นระดับออล-โปร 10 สมัย ติดโปร-โบว์ล 13 สมัย เป็นผู้เล่นทีมบุกยอดเยี่ยมฝั่ง AFC 8 สมัย ทุบสถิติต่างๆ มากมายในลีก แต่เพิ่งได้เข้าสู่ซูเปอร์โบว์ล สมัยที่ 3 สองหนก่อนหน้านี้ชนะ 1 แพ้ 1 เป็นแชมป์กับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส เมื่อปี 2007 ด้วยการอัด ชิคาโก แบร์ส 29-17 แต่ปี 2010 เสียท่า ดรูว์ บรีส์ อีกหนึ่งยอดควอเตอร์แบ็ก และพลพรรค นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส 17-31 สุดสัปดาห์นี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับ ซูเปอร์สตาร์วัย 37 ปี ที่จะหาเกียรติยศลำดับที่ 2 ให้ตัวเอง เพื่อเทียบเท่า อีลาย แมนนิง น้องชายที่ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์กับ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส 2 สมัย ไปก่อนหน้านี้