เอเยนซี - แม้กว่าจะพ้นเส้นตายเทรดของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทว่าตอนนี้หลายทีมเริ่มขยับตัวเพื่อปรับแต่งทัพให้แกร่งขึ้นก่อนเข้าสู่ปีใหม่ หรือครึ่งทางของฤดูกาลปกติ อย่างไรก็ตาม “บลีชเชอร์รีพอร์ต” (bleacherreport) นำเอาท็อปสตาร์ในลีกที่มิควรเทรดเข้ามา เนื่องจากเห็นทีได้ไม่คุ้มเสีย
1. คาร์ลอส บูเซอร์ - ชิคาโก บูลส์
“กระทิงเปลี่ยว” ดูง่อนแง่นทีเดียว หลังจาก เดอร์ริค โรส ต้องปิดเทอมยาวอีกครั้ง ทั้งนี้การ์ดแม่ทัพดูกังวลใจกับทิศทางของทีมในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องขุมกำลัง การที่ คาร์ลอส บูเซอร์ ทำเฉลี่ยแค่ 15.2 แต้ม 9 รีบาวนด์ แม้ชู้ตฟิลด์โกลระดับ 45 เปอร์เซ็นต์ แต่อายุ 32 ปีแล้ว ที่สำคัญค่าเหนื่อยปีนี้ 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 460 ล้านบาท) ฤดูกาลหน้าอีกถึง 16.8 ล้านเหรียญฯ (ราว 500 ล้านบาท) ดังนั้นจึงกินพื้นที่ “เพดานเงินเดือน” อักโขหากทีมใดเทรดพาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด รายนี้ไปเสริมทัพ
2. เจรัลด์ วอลเลซ - บอสตัน เซลติกส์
เซลติกส์ ได้ตัวผู้เล่นรายนี้มาแบบไม่ตั้งใจ ครั้งเทรด เควิน การ์เน็ตต์, พอล เพียร์ซ และ เจสัน เทอร์รี ไปให้ บรูกลิน เน็ตส์ ซึ่งแน่นอนว่า เจรัลด์ วอลเลซ ไม่ใช่อนาคตระยะยาวของแฟรนไชส์ แต่การจะขจัด สมอล ฟอร์เวิร์ด วัย 31 ปี ออกจากถิ่นทีดี การ์เดน หาใช่เรื่องง่าย ด้วยผลงานทำเฉลี่ยแค่ 4.4 แต้มต่อเกม แถมต้องรับภาระค่าเหนื่อยมหาศาลถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 900 ล้านบาท) ในช่วง 3 ปีจากนี้ คงไม่มีทีมใดกล้าแม้แต่จะคิดเทรด
3. โจ จอห์นสัน - บรูกลิน เน็ตส์
ถือเป็นการ์ดจอมแม่นคนหนึ่งของ NBA ที่เป็นตัวแปรนำต้นสังกัดไปสู่แชมป์ได้ ทว่าด้วยค่าจ้างที่บ้าระห่ำซึ่งเซ็นไว้กับเน็ตส์ ปีนี้ 21.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 643 ล้านบาท) ปีหน้าอีก 23.18 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 695 ล้านบาท) และฤดูกาล 2015/16 อีก 24.89 ล้านเหรียญฯ (ราว 746 ล้านบาท) ดังนั้นโอกาสที่ โจ จอห์นสัน จะย้ายทีมคงต้องรอถึงอายุ 35 ปี เมื่อหมดสัญญาในถิ่นบาร์เคลย์ส เซ็นเตอร์ ที่สำคัญทีมไหนจะกล้าบ้าเลือดโปรยเงินให้ผู้เล่นไม้ใกล้ฝั่ง
4. ทายสัน แชนด์เลอร์ - นิวยอร์ก นิกส์
ยามที่สภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีใครปฏิเสธว่า ทายสัน แชนด์เลอร์ คือหนึ่งในเครื่องจักร “รีบาวนด์” และมีเกมรับที่เหนียวหนึบ (ดีกรีผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมเมื่อซีซัน 2011/12) แต่นับจากนี้คงไม่มีซีซันไหนที่ เซ็นเตอร์วัย 31 ปี สามารถปักหลักค้ำวงในให้ต้นสังกัดครบทั้ง 82 เกมในฤดูกาลปกติ การมีข่าวกับ แอลเอ เลเกอร์ส ออกมา แฟนๆ ต้องชั่งใจไม่น้อย เพราะนี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาว อีกทั้งค่าเหนื่อย 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีกสองปีข้างหน้าเป็นภาระที่ มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไปเลเกอร์ส ต้องดีดลูกคิดให้ดี
5. อมาเร สเตาดาไมร์ - นิวยอร์ก นิกส์
ตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา อมาเร สเตาดาไมร์ ลงสนาม 84 เกม รวมเพลย์ออฟ เนื่องจากประสบปัญหาบาดเจ็บมาตลอด ตอนนี้บทบาทกับต้นสังกัดหนักไปเป็นสำรองด้วยซ้ำ ผลงานไม่ได้โดดเด่นอะไร ด้วยค่าจ้างมหาศาลปีนี้ 21.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 648 ล้านบาท) กับปีหน้าอีก 23.4 ล้านเหรียญฯ (ราว 700 ล้านบาท) จะมีสักกี่ทีมที่กล้าลงทุนกับสตาร์วัย 31 ปี ที่เหลือแต่ชื่อในอดีต
6. อีริค กอร์ดอน - นิวออร์ลีน เพลิแกนส์
อันที่จริง เอริค กอร์ดอน เป็นชู้ตติ้งการ์ดฝีมือดีคนหนึ่งของ NBA ลงสนามเป็นตัวจริง 21 เกมให้ทีม ทำเฉลี่ย 16.3 แต้ม ชู้ตฟิลด์โกลระดับ 44 เปอร์เซ็นต์ ระยะสามแต้มแม่นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ แต่คำถามเรื่องสุขภาพในช่วง 2 ปีหลัง ทำให้หลายทีมยังคาใจ อีกทั้งค่าเหนื่อยสองปีนี้ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 420 ล้านบาท) อีกทั้งอ๊อปชั่นต่อสัญญาฤดูกาล 2015/16 อีก 15.5 ล้านเหรียญฯ (ราว 465 ล้านบาท) ยิ่งทำให้ต้องคิดหนักขึ้นไปอีก
7. เนเน ฮิลาริโอ - วอชิงตัน วิซาร์ดส
เคยเด่นสุดขีดกับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เป็นผู้เล่นตัวใหญ่ที่เล่นเกมรับได้ดี ทำเฉลี่ยในการมายัดห่วงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. 14.8 แต้ม 6.2 รีบาวนด์ 1.1 บล็อก เป็นกำลังเสริมที่อาจพลิกผันสถานการณ์ให้ทีมระดับลุ้นแชมป์ได้ลุ้นสัมผัส “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ได้เหมือนกัน แต่ทีมนั้นๆ คงต้องเหลือพื้นที่ใน “ซาลารีแคป” หรือพร้อมจ่ายภาษีฟุ่มเฟือยเข้ากงสีพอสมควร เนื่องจากเซ็นเตอร์บราซิเลียนมีคิวรับค่าเหนื่อยตลอด 3 ปีนี้ที่ 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 390 ล้านบาท)