บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์คู่บุญของ "แพ็คแมน" แมนนี ปาเกียว เผยกำลังรอเอกสารรับรองภาษีจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้ติดต่อประสานงานไปแล้ว หลังยอดกำปั้นชาวฟิลิปปินส์ถูกกรมสรรพากรบ้านเกิดเข้ามาแขวนทรัพย์สินห้ามแตะต้องหรือดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากไม่ได้ข้อสรุปคงต้องไปสู้กันต่อในชั้นศาล
ก่อนหน้านี้มีรายงานจากกรมสรรพากรประเทศฟิลิปปินส์ ว่า ปาเกียว อดีตนักชกที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ หลบเลี่ยงภาษีจากรายได้ในไฟต์เอาชนะ ออสการ์ เดอ ลาโฮยา ชาวอเมริกัน และ ริคกี ฮัตตัน เมื่อปี 2008-2009 รวมเป็นเงินราว 50.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ร้อนถึง อารัม โปรโมเตอร์กำปั้นวัย 34 ปีต้องออกมาแก้ต่างว่าได้ชำระภาษีไปแล้วและไม่จำเป็นต้องจ่ายรอบสองให้ประเทศบ้านเกิด
อารัม เผย หลังไฟต์ ปาเกียว คืนฟอร์มแพ้ 2 ครั้งรวดด้วยการเอาชนะคะแนน แบรนดอน ริออส ชาวมะกัน แบบเอกฉันท์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน ณ เขตปกครองพิเศษมาเก๊า คว้าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่น เวลเตอร์เวต ของ องค์กรมวยโลก (ดับเบิ้ลยูบีโอ) มาครอง ว่า "เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ยืนยันว่าไม่ต้องจ่ายภาษี 2 ครั้ง หากชำระที่สหรัฐอเมริกาไปแล้วและรอการรับรองเท่านั้น"
"การชกแต่ละไฟต์ที่เกิดขึ้นใน อเมริกา รวมถึงปี 2008 และ 2009 ได้มีการจ่ายภาษีร้อยละ 30 โดยตรงไปแล้วผ่านทางกรมสรรพากร (ไออาร์เอส) ด้วยการโอนเงินอิเล็คทรอนิกส์ (อีเอฟที) โดยมีตัวเลขยืนยันทั้งเงินฝากและการชำระชัดเจน ซึ่งทาง อเมริกา ก็อำนวยความสะดวกทุกอย่างในนามของผู้เสียภาษีคือ ปาเกียว" อารัม เผย
ด้าน ปาเกียว ที่ต้องการนำเงินไปบริจาคเพื่อช่วยผู้ประสบภัยพายุ "ไห่เยี่ยน" ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จนมีคนเสียชีวิตและสูญหายเกือบ 7 พันคน กล่าวว่า "ผมไม่ได้กระทำความผิดทางอาญา ขโมย หรือปกปิดใดๆ ทั้งสิ้น เพราะได้จ่ายเงินภาษีที่อเมริกาไปแล้ว ถ้าไม่ทำคงถูกจัดการและไม่สามารถเดินทางกลับไปได้อีกเด็ดขาด"