xs
xsm
sm
md
lg

ไร้อนาคตหัวจรดหาง “ช้างศึก” แค่ไม้ประดับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ช้างศึก” ยุคตกต่ำ
ASTVผู้จัดการรายวัน - แม้การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปเอเชีย หรือ “เอเชียน คัพ 2015” รอบคัดเลือก ทีมชาติไทยจะเหลือโปรแกรมลงฟาดแข้งอีก 1 นัด ในการพบกับ เลบานอน เดือนมีนาคม 2557 ทว่าจากผลงาน 5 นัดที่ผ่านมาในการอยู่ร่วมกลุ่มบี ที่มีทั้ง อิหร่าน, คูเวต และ เลบานอน ขุนพล “ช้างศึก” พ่ายเรียบไม่สามารถเก็บแต้มได้เลย จึงเกิดคำถามขึ้นในหมู่แฟนลูกหนังทั่วไปว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศที่ลีกฟุตบอลในประเทศอย่าง “ไทยพรีเมียร์ลีก” กำลังได้รับความนิยม แต่ผลงานในระดับชาติกลับตรงกันข้าม

ซึ่งบรรดากูรูลูกหนังในประเทศร่วมวิเคราะห์ให้ทีมข่าว MGR Sport รับฟังถึงเหตุที่ทีม “ช้างศึก” ภายใต้การนำของ “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันในครั้งนี้ จนต้องไขก๊อกไปในที่สุด โดย “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของทีม “ฉลามชล” ชลบุรีเอฟซี วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า “ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่ เราค่อนข้างไม่มีความหวัง เพราะผู้เล่นที่มีคุณภาพและความเป็นมืออาชีพยังไม่ได้ถูกส่งลงสนาม นักเตะที่ได้รับโอกาส ก็ไม่มีความกระหายที่จะลงเล่น ไม่มีจินตนาการในการเข้าทำ ขาดความมุ่งมั่น ทั้งที่ทุกสโมสรในประเทศต่างพัฒนาจากจุดเริ่มต้นไปมากแล้ว แต่นักเตะฝีเท้าดีกลับไม่ถูกเรียกเข้ามารับใช้ทีมชาติ”

พร้อมกันนี้อดีตตำนานของทีมชาติไทยกล่าวถึงจุดใหญ่ในการพัฒนาอย่างไร้วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยอย่างเผ็ดร้อนด้วยว่า “ทีมชาติไทย เป็นชาติเดียวในโลก ที่ไม่มีฝ่ายพัฒนาเทคนิค มาทำหน้าที่คอยประเมินผลแข่งขันภายในลีก การพัฒนาอคาเดมี พัฒนาโปรแกรมการฝึกซ้อม ซึ่งทุกข้อล้วนสำคัญ แต่บ้านเราไม่ทำกัน สำหรับผมมองว่าทีมไทยก็ได้แค่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ไม่มีโอกาสเข้าไปร่วมรอบสุดท้ายในแทบทุกรายการใหญ่ และพอโค้ชทีมชาติทำทีมแพ้ ก็เปลี่ยนโค้ชใหม่ โดยไม่มีการกำหนดทิศทางการพัฒนาออกมาเป็นรูปธรรมเช่นเดิม”

ขณะที่ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล บุษปาคม กุนซือทีม “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เพิ่งคว้ารางวัลหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2013 นั้น เชื่อว่าทีมชาติไทยชุดนี้ ผิดตั้งแต่การเลือกตัวผู้เล่นเข้าสู่ทีมไปแล้ว “ผู้เล่นที่มีคุณภาพมากกว่านักเตะในทีมชาติชุดนี้ยังมีอีกมากมาย แต่กลับถูกหมางเมิน หลายคนน่าจะถูกเรียกมาติดทีม เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไทยพรีเมียร์ลีกพัฒนาไปมาก มีความแข็งแกร่งขึ้น แต่ไม่มีการนำผู้เล่นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาเลย อีกเรื่องที่สำคัญคือการเตรียมทีม ต้องยอมรับว่ามีเวลาน้อยมาก ขณะที่สมาคมฟุตบอลฯ เองก็ดูเหมือนยังทำงานได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งจากการเลือกตั้งที่ยังไม่สามารถตั้งคณะทำงานได้เป็นรูปเป็นร่าง เมื่อหัวขบวนยังไม่มีการจัดการที่ดี ผลงานของผู้เล่นทีมชาติจึงยังย่ำแย่อยู่เช่นนี้ต่อไป”

ด้าน อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือทีม ราชนาวี กลับมองเห็นแตกต่างไป โดยแสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของแข้ง “ช้างศึก” ทว่ารู้สึกกังวลกับการทำงานของทีมสตาฟฟ์มากกว่า “ส่วนตัวถือว่าผู้เล่นในชุดนี้มีทั้งข้อดีและเสีย คือ คนที่เพิ่งเคยได้ติดทีมชาติในครั้งนี้ จะมีความกระหายในการลงสนามค่อนข้างมาก ส่วนผู้เล่นเดิมนั้นก็เล่นด้วยกันมานานตั้งแต่ชุดเยาวชนก็ถือว่ามีประสบการณ์สูง ความผิดพลาดต่างๆ เป็นหน้าที่ของโค้ชที่จะต้องเปิดใจดูว่านักเตะในความดูแลของตนเป็นอย่างไร ต้องทำความเข้าใจกับตัวผู้เล่น ว่ามีจุดเด่นจุดด้อยในด้านใดบ้าง แล้วจึงนำมาปรับปรุงเพื่อแก้ไขภาพรวมของทีม จะโทษเหล่านักเตะอย่างเดียวไม่ได้ หากแต่ต้องมองการทำงานของโค้ชด้วยว่ามีความสามารถดึงศักยภาพของผู้เล่นออกมาได้ดีเพียงใด”

นอกจากนี้ “ขงเบ้งลูกหนังเมืองไทย” รับว่าอยากเห็นการวางแผนจากสมาคมฟุตบอลฯ มีทิศทางชัดเจนมากกว่าการทำทีมแพ้แล้วเปลี่ยนโค้ชเหมือนเช่นที่ผ่านมา “หากเราต้องการพัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทยจริง ผมคิดว่าเราควรเริ่มเปลี่ยนแปลงกันจริงๆ ตั้งแต่วันนี้ อาจต้องใช้เวลา 3-4 ปี สำหรับโค้ชวางแผนผู้เล่นเพื่ออนาคต และควรมีแผนพัฒนาผู้เล่นในทุกระดับเพื่อใช้งานในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ตามความเหมาะสม ไม่ใช่พอฟุตบอลแพ้แล้วมาไล่เปลี่ยนโค้ช”

ส่วน “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือจอมลีลาของทีม “แข้งเทพ” แบ็งคอก ยูไนเต็ด แสดงความเห็นใจต่อการทำงานของ “โค้ชง้วน” ว่ามีปัญหามากมาย รวมถึงการบริหารงานอันไม่เป็นมืออาชีพของสมาคมฟุตบอลฯ จนส่งผลให้สโมสรใหญ่บางทีมไม่ยอมปล่อยตัวผู้เล่นมาร่วมทีม “น่าเห็นใจการทำงานของโค้ชทีมชาติไทย เพราะมีผู้เล่นหลายคนที่ไม่สามารถเข้าร่วมทีมได้ ซึ่งปัญหาก็มาจากการบริหารงานของสมาคมฟุตบอลฯ ไม่ชัดเจนในเรื่องทิศทางการพัฒนา อีกทั้งทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทราบว่า โค้ชง้วน เป็นผู้ฝึกสอนชั่วคราวหรือถาวร แค่เรื่องนี้ก็ทำให้ชัดเจนไม่ได้ เราจึงเห็นกรณีสโมสรฟุตบอลไม่ยอมปล่อยตัวผู้เล่นตัวหลักออกมา ปัญหาหลักๆ มันไม่ใช่แก้ที่โค้ช แต่มันเป็นที่รูปแบบการบริหารงานในสมาคมมากกว่า หากยังเป็นอยู่เช่นนี้ ก็อย่าไปหวังจะเห็นการพัฒนาอะไรในวงการฟุตบอลไทยเลย”
“วิทยา” ชี้อยากพัฒนาต้องโละผู้บริหาร
“โค้ชแต๊ก” รับการบริหารจัดการยังไม่ดี
“เสือเตี้ย ไม่อยากเห็น โค้ชง้วน เป็นแพะ
กำลังโหลดความคิดเห็น