“เฟดเอ็กซ์” ถึง “รอรีย์” ความเหมือนที่แตกต่าง

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - จบศึก ยูโรเปียน ทัวร์ ไฟนอลส์ ซีรีส์ รายการ “ดีพี เวิลด์ ทัวร์ แชมเปียนส์” ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สัปดาห์นี้ (14-17 พ.ย.) เป็นอันว่าปี 2013 จะรูดม่านปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ และหากพูดถึงก้านเหล็กที่ผิดฟอร์มสุดในปีนี้คงหนีไม่พ้น รอรีย์ แม็คอิลรอย ที่จนถึงป่านนี้ยังไม่มีแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียว ขณะเดียวกันโฟกัสของวงการเทนนิสมีเรื่องคล้ายกันโดยบังเอิญเมื่อ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตมือ 1 โลกชาวสวิส มาฟอร์มรูดแบบไร้สาเหตุ ทว่าความแตกต่างของคู่นี้คงเป็นช่วงวัยที่อายุห่างกันเกือบ 10 ปี

สัปดาห์ก่อนวงการหวดลูกสักหลาดฝ่ายชายปิดฉากฤดูกาล 2013 ด้วยการครองมือ 1 โลกของ ราฟาเอล นาดาล ในรายการ “เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์” ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ขณะที่แฟนคลับของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตมือ 1 ของโลกชาวสวิตเซอร์แลนด์ ต้องผิดหวังไปตามๆ กันกับสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยและฟอร์มการเล่นที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมเจ้าตัวออกมายอมรับว่าอีกหนึ่งสาเหตุคือการวางโปรแกรมลงเล่นผิดพลาด ทำให้จบปีเป็นแชมป์ได้แค่รายการเดียวในศึก “เจอร์รี เวเบอร์ โอเพน” ที่เยอรมนี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน แถมอันดับโลกใน ตารางเอทีพี ทัวร์ รูดมาอยู่ที่มือ 6 ของโลก

หันกลับมาที่แวดวงก้านเหล็กชายแถบไม่ต่างกัน เมื่อ รอรีย์ จัดการบอกลา “ไทเทิลลิสต์” ผู้สนับสนุนเก่าและสะบัดน้ำหมึกเซ็นสัญญากับ “ไนกี้” ผลิตภัณฑ์กีฬาแบรนด์ดังจากอเมริกา รับทรัพย์มูลค่ากว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7,500 ล้านบาท) ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขารูดลงมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีเรื่องฟ้องร้องกับ “ฮอริซอน สปอร์ต” บริษัทเอเยนซีส่วนตัวที่เจ้าตัวของยกเลิกสัญญาเมื่อเดือนกันยายน รวมถึง “โอคเลย์” อีกหนึ่งสปอนเซอร์ที่หมดสัญญากันไปโดยถูกฟ้องร้องกว่า 4.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 235 ล้านบาท) งานนี้ โปรวัย 24 ปียอมรับเรื่องคดีความมีผลกับสภาพจิตใจเป็นอย่างมากทำให้ส่งผลไปถึงเกมกอล์ฟในสนาม

ช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อ 12 เดือนก่อน ที่นครดูไบ แม็คอิลรอย ก้านเหล็กชาวไอร์แลนด์เหนือครองความยิ่งใหญ่คว้าแชมป์ “ดีพี เวิลด์ ทัวร์ แชมเปียนส์” ควบแชมป์ “เรซ ทู ดูไบ” แชะภาพคู่ฉลองชัยกับ คาโรไลน์ วอซเนียคกี แฟนสาวนักเทนนิสชาวเดนส์จนแฟนกีฬาต้องอิจฉาไปตามๆ กัน แต่ตัดกลับมาปีนี้ทุกอย่างตีลังกา อดีตมือ 1 โลก ต้องต่อสู้เพื่อเป็นแค่ 1 ใน 60 นักกอล์ฟที่ได้สิทธิ์ร่วมแข่งศึกใหญ่ส่งท้ายปีเพื่อลุ้นรางวัล 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 240 ล้านบาท) เท่านั้น ส่วนเรื่องการป้องกันแชมป์ “เรซ ทู ดูไบ” ยังไม้ต้องพูดถึง และหากว่าจบรายการนี้ “รอร์ส” มือเปล่าจะเท่ากับว่าเขาไม่มีแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียว ถือเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เทิร์นโปร

“บางครั้งผมคิดว่าตัวเองหรือนักกีฬาคนอื่นๆ คงไม่อยากมายุ่งกับเรื่องแบบนี้ ในปีนี้ผมต้องพบกับทนายความบ่อยมากกว่าที่ผมจะดูแลชีวิตตัวเอง ผมคิดว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นอีกและต้องการทำให้มั่นใจว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ซ้ำรอยด้วย” เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 2 รายการอธิบาย

โดย แม็คอิลรอย เล่าถึงผลกระทบในเรื่องนอกสนามที่มีเอี่ยวกับสภาพจิตใจ ลุกลามไปถึงเกมกอล์ฟทำให้ผลงานที่ออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่ต้องการอย่างที่เห็น ก่อนจะเริ่มมุ่งมั่นซ้อมได้อย่างเต็มที่ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล “ในการเล่นกอล์ฟคุณจะต้องทำใจให้โล่ง และมันยากมากเมื่อคุณมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นมันน่าเศร้าเพราะผมคิดว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมยังไดร์ฟได้ดีและตีได้ตรงเหมือนเดิม นั่นมันทำให้ผมยังมีข้อได้เปรียบอยู่บ้าง และจะพยายามสุดๆ ในช่วงท้าย”

สำหรับ แม็คอิลรอย ในฐานะดาวรุ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ถือเป็นเรื่องดีที่ปัญหาเข้ามาให้ได้เรียนรู้และเก็บประสบการณ์ ก่อนจะปรับตัวและเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จในวงการต่อไป ขณะที่ “เฟดเอ็กซ์” ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนคว้าแชมป์สร้างชื่อเสียงมามากมาย เรียกได้ว่าอาจจะผ่านจุดสูงสุดไปเรียบร้อย ซึ่งในความแตกต่างของสองชนิดกีฬายังมีโอกาสที่เราได้เห็นยอดผู้เล่นแถวหน้าของโลกต้องมาตกที่นั่งลำบากในเวลาพร้อมกัน แต่สิ่งสำคัญที่ทั้งคู่คิดและแสดงให้เห็นเหมือนกันตลอดทั้งปีที่ผ่านมาคือพวกเขายังต้องการมุ่งมั่นเพื่อกลับมาทำผลงานให้ดีอีกครั้งในซีซันหน้า โดยทิ้งปัญหาและสาเหตุของความผิดหวังครั้งนี้ไว้กับปีเก่า

เรื่องโดย : ปภังกรณ์ นิลวรกุล