สมบัติ ภิญญศิริ ผู้จัดการทีมพัทยา ยูไนเต็ด ยอมยกธงขาวเชื่อว่ามีโอกาสไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ที่จะรอดตกชั้นในฤดูกาลนี้ พร้อมแย้มบอร์ดบริหารอาจยุบทีมเพื่อเน้นมุ่งพัฒนา ชลบุรี เอฟซี ทีมเดียว พร้อมชี้เหตุวุ่นวายหลังเกมแพ้เชียงราย ยูไนเต็ด มีชนวนเกิดจากผู้ตัดสิน
พัทยา ยูไนเต็ด ปรับเปลี่ยนกุนซือถึง 3 คนในฤดูกาลนี้ไล่ตั้งแต่ “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล ต่อด้วย “น้าชัช” ชัชชัย พหลแพทย์ และล่าสุด “มาสเซอร์เด็ด” จเด็ด มีลาภ แต่ผลงานของทีมไม่กระเตื้องมีเพียง 26 แต้ม จาก 31 นัด ตามหลัง 4 ทีมที่ลุ้นหนีตายด้วยกัน อย่างสมุทรสงคราม เอฟซี, สงขลา ยูไนเต็ด, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และ ทีโอที เอสซี อยู่ 3 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันเพียงนัดเดียว จึงทำให้นัดสุดท้ายต้องบุกไปชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ สถานเดียวพร้อมลุ้นให้ ราชบุรี เอาชนะ สมทุรสงคราม ด้วยเช่นกันจึงจะรอดตกชั้น
ล่าสุดด้าน สมบัติ ภิญญศิริ ผู้จัดการทีมพัทยา ได้ยอมยกธงขาวเป็นที่เรียบร้อย โดยกล่าวว่าสถานการณ์ตอนนี้สโมสรตกชั้นค่อนข้างแน่นอนแล้ว โอกาสรอดมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ และยังกล่าวต่อถึงซีซันหน้าว่าบอร์ดบริหารอาจจำต้องยุบทีม “ตอนนี้ จ.ชลบุรี มีสโมสรที่ต้องดูแลอยู่ 3 ทีมคือ ชลบุรี เอฟซี, พัทยา เอฟซี และศรีราชา เอฟซี ซึ่งศรีราชาน่าจะมีผู้เข้ามาทำทีมต่อ แต่ในส่วนของพัทยานั้นต้องยอมรับว่าถ้าทำต่อก็ไม่รู้จะได้อะไร”
“ที่ผ่านมาเราโดนหลายอย่าง เช่น การตัดสินของกรรมการ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะเราอยู่ตรงข้ามกับสมาคมฟุตบอลฯ ดังนั้นผลกระทบจึงมีมาก ถ้ายังดึงดันทำต่อไปก็เท่านั้น ผู้ใหญ่จึงคิดว่าอาจจำต้องยุบทีมแล้วมุ่งเป้าพัฒนาสโมสรชลบุรี เอฟซี อย่างเต็มที่ทีมเดียวดีกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจอีกครั้ง หรือหากมีใครสนใจจะเข้ามาเทกโอเวอร์ก็เข้ามาคุยได้”
พร้อมกันนี้ ผจก.โลมาฟ้าขาว ยังเผยถึงเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหลังเกมเปิดบ้านแพ้เชียงราย ยูไนเต็ด 0-1 เนื่องจากแฟนบอลไม่พอใจการตัดสินของ นิติภูมิ กุลบุตร ที่ปฏิเสธจุดโทษของทีมแต่กลับไปให้จุดโทษผู้มาเยือนว่าคงจะไม่มีการอุทธรณ์ใดๆ
“ผมคงเข้าไปชี้แจงกับทีพีแอลเท่านั้น คงไม่อุทธรณ์เพราะไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการระงับเหตุของ สห.(สารวัตรทหาร) เท่านั้น ไม่ได้รุนแรงแต่อย่างใด ที่สำคัญตัวก่อเหตุทั้งหมดก็คือผู้ตัดสินไม่ใช่แฟนบอล ผมไม่เข้าใจว่าเขากล้าเป่าให้จุดโทษได้อย่างไร โดยไม่สนใจว่าจะมีผลกระทบอะไรตามมา” สมบัติทิ้งท้าย