“บังยี” แถทุกข้อครหาเลือกตั้งไม่โปร่งใส

“บังยี” วรวีร์ มะกูดี ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวโต้ทุกข้อครหาถึงชัยชนะที่ไม่โปร่งใส อาทิ สภากรรมการไม่มีสิทธิ์ลงคะแนน, ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรแต่ได้สิทธิ์มาลงคะแนน และผลการไม่รับรองของคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง เมื่อบ่ายวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2556 ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (สนามศุภชลาศัย) เวลา 14.00 น.นายวรวีร์ มะกูดี พร้อมด้วย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการอุทธรณ์การเลือกตั้ง นายฌาน กิติกร และ นายโกวิทย์ อุทัยฉาย 2 ใน 5 ของคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งฯที่ตนเป็นผู้เลือก ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงข้อครหาต่างๆ หลังจากที่ตนได้รับคะแนนเสียงเหนือผู้ท้าชิงอย่าง “บิ๊กก๊อง” วิรัช ชาญพานิชย์ ในการเลือกนายใหญ่ลูกหนังไทยคนใหม่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดย นายวรวีร์ ยืนยันว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นโปร่งใส และเป็นไปตามธรรมนูญข้อบังคับฉบับใหม่ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) พร้อมกันนี้ได้ระบุว่าหน้าที่ของคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งนั้นสิ้นสุดแค่ประกาศผลผู้ที่ได้รับเลือกเท่านั้น การที่ตัวแทนทั้ง 3 คนที่ฝั่งคุณวิรัชเป็นผู้เลือกมาตั้งโต๊ะแถลงว่าไม่รับรองนั้นไม่สามารถทำได้

“อำนาจของ กกต.บอลมีหน้าที่ตรวจสอบสิทธิ์ของทั้ง 72 ทีมเท่านั้น ซึ่งคุณชนินทร์ แก่นหิรัญ 1 ใน กกต.บอล ก็ได้กล่าวในวันเลือกตั้งแล้วว่าหน้าที่ของตนจบลงตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ประกาศผู้มีสิทธิ์ออกมา พร้อมยอมรับว่ามติของคณะอุทธรณ์ในวันที่ 17 ต.ค.ถือเป็นที่สิ้นสุด จึงไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมีการแถลงอีกครั้ง ที่สำคัญอำนาจของ กกต.บอลมีเพียงแค่ประกาศผลการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ต้องทำการรับรองแต่อย่างใด”

พร้อมกันนี้ยังได้ตอบคำถามถึงกรณีที่มีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการอุทธรณ์ฝั่งที่ตนเป็นผู้เลือกก่อนการเลือกตั้งเพียงไม่กี่ชั่วโมงว่าสามารถทำได้ “เรื่องนี้สามารถทำได้ เพราะก่อนหน้านี้คุณวิรัชเองก็เคยเปลี่ยนตัวคณะ กกต.บอลฝั่งตนมาแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ตกลงกันทั้งสองฝ่าย เนื่องจากผู้ที่ทำหน้าที่อาจติดธุระได้”

ขณะที่ในส่วนของกฎระเบียบข้อ 21.4 ที่ระบุว่าสภากรรมการและเลขาธิการที่อยู่ในระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนน หรือได้รับการเป็นตัวแทนของสโมสรสมาชิกนั้น “บังยี” ตอบว่าทุกคนได้ลาออกจากตำแหน่งก่อนการเลือกตั้งแล้ว ส่วนเรื่องเวลานั้นสามารถลาออก ณ เวลานั้นเลยก็ได้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งได้ยิงคำถามเรื่องธรรมนูญใหม่ ที่ “บังยี” เคยพูดเสมอว่าการเลือกตั้งโดยใช้ธรรมนูญใหม่จะยุติธรรมที่สุด โดยเฉพาะการให้คนมีส่วนได้ส่วนเสียกับการทำทีมได้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง แต่ที่ออกมามีหลายทีมถูกสวมสิทธิ์ และหลายทีมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทำทีมอย่างนี้ถือว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่ง “บังยี” กล่าวเลี่ยงว่า

“เรื่องนี้เป็นการให้เกียรติกันมากกว่า ซึ่งทางผู้สมัครฝั่งคุณวิรัชเองก็มี เช่น คุณชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่เป็นประธานสโมสรอุทัยธานี กลับมาลงคะแนนในฐานะตัวแทนสโมสรปากน้ำโพ เอ็นเอสอาร์ยู ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นการให้เกียรติกันทั้งสองฝ่าย จึงไม่อยากนำมาพูด เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่การมอบอำนาจมากกว่า บางทีคนที่ได้รับมอบอาจจะเป็นคนที่สนิทเชื่อใจหรือเป็นที่ปรึกษาก็ได้”

ด้าน นายนรินท์พงศ์ กล่าวเสริมว่า “ต้องยอมรับว่าธรรมนูญฉบับใหม่นั้นยังกระท่อนกระแท่น ซึ่งฟีฟาเองก็รู้ปัญหามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จากนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่ได้รับตำแหน่งที่จะต้องไประบุให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้มีอำนาจ”